นครปฐม – สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครปฐม ประชุมผู้ประกอบกิจการร้านขายยาเพื่อพัฒนาร้านยาให้มีคุณภาพมาตรฐานสูงขึ้น เพื่อการคุ้มครองประชาชนในการเลือกใช้ยา
วันนี้ (20 ก.พ.) เวลา 09.00 น.ณ ห้องประชุมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นครปฐม ได้มีการประชุมเพื่อพัฒนาผู้ประกอบกิจการร้านขายยา โดย นายแพทย์สมจิตร ศรีสุภร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม เป็นประธานพร้อมทั้งเป็นวิทยากรให้ความรู้แก่ผู้เข้าอบรม
นายแพทย์สมจิตร ศรีสุภร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม เปิดเผยว่า ในปัจจุบันการให้บริการร้านขายยาเป็นจุดสำคัญอย่างยิ่งในระบบสาธารณสุขไทย เนื่องจากประชาชนกว่า ร้อยละ 70 เมื่อเกิดอาการเจ็บป่วยจะพึ่งตนเองโดยการซื้อยาจากร้านขายยา
ดังนั้น จึงมีความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาร้านยาให้มีคุณภาพมาตรฐานสูงขึ้น เพื่อการคุ้มครองประชาชนในการเลือกใช้ยา ซึ่งตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 มีเจตนาชัดเจนที่จะต้องการให้มีการควบคุมกิจกรรมเกี่ยวกับการขายยาอันตรายเพื่อความปลอดภัยและสวัสดิภาพของประชาชน
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม กล่าวอีกว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครปฐมเห็นว่าในปัจจุบันน่าที่จะสามารถพัฒนาศักยภาพร้านยาให้สูงขึ้นอีกระดับจากที่เป็นอยู่ เพื่อให้ระบบการกระจายยาผ่านร้านยาคุณภาพสูงขึ้น และมีมาตรฐานการดำเนินการทัดเทียมกับมาตรฐานสากล เพื่อให้ประชาชนได้รับการคุ้มครองในด้านการใช้ยามากขึ้น
โดยเน้นการที่คุ้มครองผู้บริิโภคด้านยาโดยให้มีผู้ประกอบวิชาชีพเป็นผู้บริการชัดเจน มีกระบวนการให้คำแนะนำด้านยาที่ถูกต้องเหมาะสมแก่ผู้มารับบริการมีระบบการให้บริการด้านยบาอย่างต่อเนื่องสำหรับผู้รับบริการที่เป็นโรคเรื้อรัง การจัดระเบียบร้านยาให้ประชาชนสามารถทราบและเข้าใจได้ว่ายาแต่ละรายการเป็นยาชนิดใด รวมถึงสามารถเป็นศูนย์ให้บริการและให้คำปรึกษาด้านยาแก่ประชาชนในเขตชุมชนรอบข้าง
นายแพทย์สมจิตร กล่าวปิดท้ายว่า จากการดำเนินงานที่ผ่านมา ซึ่งมีมาตรการเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบร้านยาให้มีการปฏิบัติหารตามกฎหมายในระดับหนึ่ง ทำให้ร้านยาตระหนักและมีความตั้งใจจะปรับปรุงพัฒนาร้านยาของตน ตามมาตรฐานร้านยาคุณภาพจำนวนมาก
พร้อมทั้งมีมาตรการเพิ่มเติมในบางส่วน เพื่อให้การดำเนินงานตรวจสอบเป็นไปทางเดียวกันทั่วทั้งจังหวัดนครปฐม อาทิเช่น การตรวจสอบปฏิบัติงานของเภสัชกรในร้านยาที่มีความเสี่ยงในการกระทำความผิด การตรวจสอบการลักลอบจำหน่ายยาหมดอายุและยาไม่มีทะเบียน การตรวจสอบเรื่องร้องเรียนและช่องทางติดต่อสื่อสาร และการรายงานผลการตรวจสอบร้านขายยาให้แก่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครปฐมโดยตรงอีกด้วย
วันนี้ (20 ก.พ.) เวลา 09.00 น.ณ ห้องประชุมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นครปฐม ได้มีการประชุมเพื่อพัฒนาผู้ประกอบกิจการร้านขายยา โดย นายแพทย์สมจิตร ศรีสุภร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม เป็นประธานพร้อมทั้งเป็นวิทยากรให้ความรู้แก่ผู้เข้าอบรม
นายแพทย์สมจิตร ศรีสุภร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม เปิดเผยว่า ในปัจจุบันการให้บริการร้านขายยาเป็นจุดสำคัญอย่างยิ่งในระบบสาธารณสุขไทย เนื่องจากประชาชนกว่า ร้อยละ 70 เมื่อเกิดอาการเจ็บป่วยจะพึ่งตนเองโดยการซื้อยาจากร้านขายยา
ดังนั้น จึงมีความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาร้านยาให้มีคุณภาพมาตรฐานสูงขึ้น เพื่อการคุ้มครองประชาชนในการเลือกใช้ยา ซึ่งตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 มีเจตนาชัดเจนที่จะต้องการให้มีการควบคุมกิจกรรมเกี่ยวกับการขายยาอันตรายเพื่อความปลอดภัยและสวัสดิภาพของประชาชน
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม กล่าวอีกว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครปฐมเห็นว่าในปัจจุบันน่าที่จะสามารถพัฒนาศักยภาพร้านยาให้สูงขึ้นอีกระดับจากที่เป็นอยู่ เพื่อให้ระบบการกระจายยาผ่านร้านยาคุณภาพสูงขึ้น และมีมาตรฐานการดำเนินการทัดเทียมกับมาตรฐานสากล เพื่อให้ประชาชนได้รับการคุ้มครองในด้านการใช้ยามากขึ้น
โดยเน้นการที่คุ้มครองผู้บริิโภคด้านยาโดยให้มีผู้ประกอบวิชาชีพเป็นผู้บริการชัดเจน มีกระบวนการให้คำแนะนำด้านยาที่ถูกต้องเหมาะสมแก่ผู้มารับบริการมีระบบการให้บริการด้านยบาอย่างต่อเนื่องสำหรับผู้รับบริการที่เป็นโรคเรื้อรัง การจัดระเบียบร้านยาให้ประชาชนสามารถทราบและเข้าใจได้ว่ายาแต่ละรายการเป็นยาชนิดใด รวมถึงสามารถเป็นศูนย์ให้บริการและให้คำปรึกษาด้านยาแก่ประชาชนในเขตชุมชนรอบข้าง
นายแพทย์สมจิตร กล่าวปิดท้ายว่า จากการดำเนินงานที่ผ่านมา ซึ่งมีมาตรการเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบร้านยาให้มีการปฏิบัติหารตามกฎหมายในระดับหนึ่ง ทำให้ร้านยาตระหนักและมีความตั้งใจจะปรับปรุงพัฒนาร้านยาของตน ตามมาตรฐานร้านยาคุณภาพจำนวนมาก
พร้อมทั้งมีมาตรการเพิ่มเติมในบางส่วน เพื่อให้การดำเนินงานตรวจสอบเป็นไปทางเดียวกันทั่วทั้งจังหวัดนครปฐม อาทิเช่น การตรวจสอบปฏิบัติงานของเภสัชกรในร้านยาที่มีความเสี่ยงในการกระทำความผิด การตรวจสอบการลักลอบจำหน่ายยาหมดอายุและยาไม่มีทะเบียน การตรวจสอบเรื่องร้องเรียนและช่องทางติดต่อสื่อสาร และการรายงานผลการตรวจสอบร้านขายยาให้แก่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครปฐมโดยตรงอีกด้วย