อย. เตือนเจ้าของร้านสะดวกซื้อและร้านชำ อย่านำยาชุด ยาอันตราย หรือยาควบคุมพิเศษ มาจำหน่าย ในร้านเป็นอันขาด ถือเป็นการขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตามกฎหมาย ต้องระวางโทษทั้งจำและปรับ แนะผู้บริโภค ควรซื้อยาจากร้านขายยาที่มีเภสัชกรประจำร้าน หรือซื้อจากร้านยาคุณภาพ เพื่อความปลอดภัย
นพ.ชาตรี บานชื่น เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า จากการที่มีกฎหมายพระราช-บัญญัติยา เพื่อควบคุมการกระจายยาอย่างเป็นระบบ เช่นให้มีการจ่ายยาโดยผ่านแพทย์ หรือเภสัชกร และขายยาได้เฉพาะในร้านขายยาเท่านั้น ยกเว้นยาประเภทยาสามัญประจำบ้านที่สามารถขายได้ทั่วไป ดังนั้น การขายยาในร้านสะดวกซื้อและร้านชำ จึงเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย โดยจากการตรวจร้านขายของชำ ตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปัจจุบัน พบมีการขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต จำนวน 18 ราย พบการขายยาไม่มีทะเบียนหรือยาที่ถูกเพิกถอนทะเบียน จำนวน 15 ราย และพบการขายยาชุด จำนวน 10 ราย ซึ่งการกระทำผิดดังกล่าวมีบทลงโทษที่รุนแรง
ได้แก่ โทษของการขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท โทษของการขายยาไม่มีทะเบียนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกินห้าพันบาท หรือทั้งจำและปรับ โทษของการขายยาที่ถูกเพิกถอนทะเบียน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกินห้าพันบาท และ โทษของการขายยาชุด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำและปรับ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะมีบทลงโทษที่รุนแรง แต่ อย. ก็ยังพบการฝ่าฝืนโดยขายยาชุด ยาอันตราย หรือ ยาควบคุมพิเศษ ในร้านสะดวกซื้อและร้านชำจึงขอเตือนให้ผู้ประกอบการร้านสะดวกซื้อและร้านชำให้ปฏิบัติ ให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อมิให้ตัวท่านเองต้องรับโทษที่รุนแรง ที่สำคัญ ขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนด้วย
นพ.ชาตรี กล่าวด้วยว่า อย. ได้ร่วมกับสภาเภสัชกรรมจัดทำโครงการร้านยาคุณภาพ โดยในร้านจะมีการแสดงตนของเภสัชกรที่ชัดเจน ทั้งเครื่องแบบ และรูปภาพแสดงเภสัชกรผู้ให้บริการท่าน ตลอดถึงการจัดการเพื่อความปลอดภัยด้านยาต่างๆ เช่น การควบคุมไม่ให้มียาหมดอายุ ภายในร้านการค้นหาความต้องการที่แท้จริงและส่งต่อผู้ป่วยอย่างเหมาะสม การเก็บรักษายาให้คงประสิทธิภาพในการรักษา เป็นต้น ซึ่งคาดว่าจะทำให้ผู้บริโภคได้รับความปลอดภัยสูงสุดจากการใช้ยา
ดังนั้น ขอให้ประชาชน คนไทยหันมาซื้อยาจากร้านยาคุณภาพ หรือร้านขายยาทั่วไปที่ได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย และต้องมีเภสัชกรประจำร้านให้บริการท่านในการแนะนำให้ใช้ยาอย่างปลอดภัย เพื่อมิให้ได้รับอันตรายหรือผลข้างเคียงใดใดจากการใช้ยา