น.พ.ชาตรี บานชื่น เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยว่า ในปีนี้ อย.ได้ประสานไปยังกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร (ไอซีที) ให้ปิดเว็บไซต์ที่มีการโฆษณาขายยาทำแท้งไปทั้งหมด 29 เว็บไซต์ และดำเนินคดีกับเจ้าของเว็บไซต์บางรายที่สามารถสืบหาเจ้าของได้ ซึ่งตนเห็นว่า การที่มีเว็บไซต์ขายยาดังกล่าวจำนวนมาก คงเป็นเพราะมีกลุ่มวัยรุ่น หรือผู้หญิงที่ท้องไม่พึงประสงค์ลักลอบใช้ยาดังกล่าวจำนวนมาก ทำให้มีการลักลอบซื้อขายยาโดยผิดกฎหมาย ซึ่งหาก อย.ตรวจพบจะมีการดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด
เลขาธิการ อย. กล่าวต่อว่า ขณะนี้มียา 1 รายการที่นำมาใช้ในการยุติการตั้งครรภ์ โดยมีการขึ้นทะเบียนถูกต้อง คือ ไมโซพรอสตอล แต่เป็นการขึ้นทะเบียนโดยมีข้อบ่งชี้เพื่อรักษาแผลในกระเพาะอาหาร และจัดเป็นยาควบคุมพิเศษใช้เฉพาะในสถานพยาบาลเท่านั้น ไม่อนุญาตในร้านขายยาทั่วไป ดังนั้นที่ลักลอบจำหน่ายถือว่าผิดกฎหมายทั้งหมด และอาจเป็นยาปลอม ส่วนยาอีกรายการหนึ่ง คือ มิฟิฟพริสโตน ที่มีข้อบ่งชี้ว่าสามารถใช้ในการทำแท้งได้นั้น ปัจจุบันยังไม่ได้มีการขึ้นทะเบียน ดังนั้นหากมีการจำหน่ายถือว่าผิดกฎหมาย ดังนั้น อย.จะประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อทำการล่อซื้อ และดำเนินการปิดเวบไซต์ที่โฆษณาขายยาทำแท้งและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
น.พ.ชาตรี กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาแม้ว่าทาง อย.จะพยายามดำเนินการตามจับ แต่มีการลักลอบขายกันมาตลอด ตามปิดเว็บไซต์ หรือจับอย่างไรก็ไม่หมด ดังนั้นจึงเตรียมประสานกับกระทรวงไอซีทีเพื่อตรวจสอบเจ้าของเว็บไซต์เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย รวมทั้งเตรียมหารือว่า ในอนาคตจะห้ามไม่ให้มีการโฆษณาขายยาทุกชนิดทางอินเทอร์เน็ตได้หรือไม่ เพราะส่วนใหญ่การขายยาผ่านช่องทางนี้ล้วนแต่เป็นยาปลอมทั้งสิ้น
ด้าน ภญ.วีรวรรณ แตงแก้ว รองเลขาธิการ อย. กล่าวว่า ทาง อย.จะตรวจสอบและดำเนินคดีกับเว็บไซต์ที่มีการขายยาทำแท้ง โดยประสานไปยังกระทรวงไอซีที ซึ่งความผิดดังกล่าวมีโทษตามกฎหมาย คือ 1.ขายยาโดยไม่มีใบอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2. ขายยาโดยไม่มีทะเบียนตำรับและไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ 3 โฆษณาโดยไม่ขออนุญาต ปรับไม่เกิน 100,000 บาท ดังนั้นขอเตือนประชาชน โดยเฉพาะผู้หญิงอย่าซื้อยาทั้ง 2 ยี่ห้อโดยเฉพาะที่ไม่รู้แหล่งที่มา ซึ่งยาทำแท้งถือเป็นยาที่มีอันตรายมาก หากมีการใช้อย่างไม่ระมัดระวัง ไม่ถูกวิธี ใช้ปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้มดลูกบีบตัวจนแตกได้
เลขาธิการ อย. กล่าวต่อว่า ขณะนี้มียา 1 รายการที่นำมาใช้ในการยุติการตั้งครรภ์ โดยมีการขึ้นทะเบียนถูกต้อง คือ ไมโซพรอสตอล แต่เป็นการขึ้นทะเบียนโดยมีข้อบ่งชี้เพื่อรักษาแผลในกระเพาะอาหาร และจัดเป็นยาควบคุมพิเศษใช้เฉพาะในสถานพยาบาลเท่านั้น ไม่อนุญาตในร้านขายยาทั่วไป ดังนั้นที่ลักลอบจำหน่ายถือว่าผิดกฎหมายทั้งหมด และอาจเป็นยาปลอม ส่วนยาอีกรายการหนึ่ง คือ มิฟิฟพริสโตน ที่มีข้อบ่งชี้ว่าสามารถใช้ในการทำแท้งได้นั้น ปัจจุบันยังไม่ได้มีการขึ้นทะเบียน ดังนั้นหากมีการจำหน่ายถือว่าผิดกฎหมาย ดังนั้น อย.จะประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อทำการล่อซื้อ และดำเนินการปิดเวบไซต์ที่โฆษณาขายยาทำแท้งและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
น.พ.ชาตรี กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาแม้ว่าทาง อย.จะพยายามดำเนินการตามจับ แต่มีการลักลอบขายกันมาตลอด ตามปิดเว็บไซต์ หรือจับอย่างไรก็ไม่หมด ดังนั้นจึงเตรียมประสานกับกระทรวงไอซีทีเพื่อตรวจสอบเจ้าของเว็บไซต์เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย รวมทั้งเตรียมหารือว่า ในอนาคตจะห้ามไม่ให้มีการโฆษณาขายยาทุกชนิดทางอินเทอร์เน็ตได้หรือไม่ เพราะส่วนใหญ่การขายยาผ่านช่องทางนี้ล้วนแต่เป็นยาปลอมทั้งสิ้น
ด้าน ภญ.วีรวรรณ แตงแก้ว รองเลขาธิการ อย. กล่าวว่า ทาง อย.จะตรวจสอบและดำเนินคดีกับเว็บไซต์ที่มีการขายยาทำแท้ง โดยประสานไปยังกระทรวงไอซีที ซึ่งความผิดดังกล่าวมีโทษตามกฎหมาย คือ 1.ขายยาโดยไม่มีใบอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2. ขายยาโดยไม่มีทะเบียนตำรับและไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับ มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ 3 โฆษณาโดยไม่ขออนุญาต ปรับไม่เกิน 100,000 บาท ดังนั้นขอเตือนประชาชน โดยเฉพาะผู้หญิงอย่าซื้อยาทั้ง 2 ยี่ห้อโดยเฉพาะที่ไม่รู้แหล่งที่มา ซึ่งยาทำแท้งถือเป็นยาที่มีอันตรายมาก หากมีการใช้อย่างไม่ระมัดระวัง ไม่ถูกวิธี ใช้ปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้มดลูกบีบตัวจนแตกได้
