xs
xsm
sm
md
lg

“เอ็นจีโอ” จี้ สธ.ทำซีแอล ขู่ภายใน 15 วัน หากไม่เดินหน้าฟ้องแน่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอ็นจีโอ จี้ สธ.อย่าชะงักทำซีแอล เร่งนำเข้ายาสามัญให้ผู้ป่วยเข้าถึง ชี้ ประกาศมีผลบังคับใช้แล้ว หากไม่ปฏิบัติตามภายใน 2 สัปดาห์ เตรียมตบเท้าฟ้องศาลปกครอง ฐานละเลยการปฏิบัติหน้าที่ จวกเลิกให้ข่าวซีแอลกระทบตัดจีเอสพี ทำให้คนไทยสับสน ขณะที่ 19 ก.พ.อ็อกแฟมแถลงผลกระทบหากไทยเลิกซีแอล


น.ส.สุภัทรา นาคะผิว ประธานคณะกรรมการองค์การพัฒนาเอกชนด้านเอดส์ (กพอ.) กล่าวว่า พวกเรามีจุดยืนชัดเจนว่า การใช้มาตรการบังคับใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตร (ซีแอล) เป็นสิ่งถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ และมีความเหมาะสมในการนำมาใช้กับผู้ป่วย เพื่อให้เข้าถึงยามากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ภาคประชาชนใช้เวลาขับเคลื่อนมาอย่างยาวนาน เนื่องจากไม่สามารถใช้วิธีอื่นใดในการที่จะช่วยให้ผู้ป่วยเข้าถึงยาได้อีกแล้ว อย่างกรณีที่มีการยื่นหนังสือร้องเรียนไปยังกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ขอให้พิจารณาว่า การกระทำของบริษัท แอ็บบอต ลาเบอลารีส ถือเป็นการละเมิดกฎหมายการแข่งขันทางการค้าหรือไม่ แต่ก็ไม่เป็นผล ดังนั้น จึงเห็นว่า รัฐบาลควรจะดำเนินการทำซีแอลต่อเพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงยาโดยเร็วที่สุดและไม่ยืดเยื้อ

“หากกระทรวงสาธารณสุขไม่ดำเนินการใดๆ ตามที่ได้มีการประกาศทำซีแอลไว้ หากครบกำหนดเวลาที่มีทบทวนเป็นเวลา 2 สัปดาห์ มูลนิธิผู้บริโภคฯ และเครือข่ายองค์กรภาคเอกชน จะฟ้องศาลปกครองฐานที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากทุกฝ่ายก็ยอมรับแล้ว ว่า การทำซีแอลถูกต้อง และไม่มีการยกเลิกทำซีแอล ฉะนั้น ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะชะลอการดำเนินการต่อจากที่มีการประกาศ จึงควรที่จะหาทางนำเข้ายามาให้เร็วที่สุด”น.ส.สุภัทรา กล่าว

น.ส.สุภัทรา กล่าวอีกว่า ส่วนความพยายามในการแบ่งแยกผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ออกจากผู้ป่วยกลุ่มอื่น โดยบอกว่า การทบทวนซีแอลไม่เกี่ยวกับกลุ่มผู้ติดเชื้อ เพราะไม่กระทบนั้น เป็นยุทธศาสตร์ที่มีความพยายามลดทอนกระแสความกดดันเท่านั้น ซึ่งเครือข่ายผู้ติดเชื้อจะไม่ทิ้งผู้ป่วยกลุ่มอื่นๆ อย่างแน่นอน เนื่องจากเข้าใจหัวอกซึ่งกันและกัน เป็นเรื่องสิทธิด้านสุขภาพที่คนไทยควรจะได้รับ

น.ส.สุภัทรา กล่าวด้วยว่า ส่วนที่หลายฝ่ายมีการตั้งโจทย์ใหม่เรื่องเรื่องจีเอสพีนั้น ไม่ควรนำมาโยงกับเรื่องการทำซีแอล เพราะการตัดจีเอสพีหรือไม่ มีเงื่อนไข เหตุผลอื่นมากมาย อีกทั้งประเทศไทยก็มีแนวโน้มจะถูกตัดจีเอสพีอยู่แล้ว เนื่องจากเรามีความสามารถในการแข่งขันได้ ดังนั้น อย่ายกมาอ้างลอยๆ ให้คนไทยสับสน และเลิกโกหกประชาชนผ่านสื่อ ซึ่งเป็นการความเข้าใจผิดอย่างมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา 10.30 น.ที่สมาคมนักข่าวต่างประเทศ (FCCT) ตึกมณียา ซาราห์ ไอร์แลนด์ (Sarah Ireland) ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออก อ็อกแฟม น.ส.กรรณิการ์ กิจติเวชกุล เจ้าหน้าที่ฝ่ายรณรงค์องค์กรหมอไร้พรมแดน นพ.พงษ์เทพ วงษ์วัชรไพบูลย์ ที่ปรึกษาชมรมแพทย์ชนบท นายเกร็ก เกรย์ (Greg Grey) เจ้าหน้าที่ประสานงาน International Treatment Preparedness Coalition นายบัณฑูร วงศ์สีลโชติ รองประธานหอการค้าไทย ร่วมแถลงข่าว เพื่อชี้ให้เห็นถึงผลกระทบจากการตัดสินใจของรัฐบาลในเรื่องซีแอลที่จะมีต่อคนยากจนในเรื่องการเข้าถึงยา ทั้งประเทศไทย และประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ ซึ่งเท่ากับเป็นการสร้างปรากฏการณ์ในเชิงลบ ว่า บริษัทยาจะสามารถต้อนให้ประเทศกำลังพัฒนาทั้งหลายจนมุมและจำเป็นต้องยอมแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในเรื่องยาที่มีราคาแพงสูงลิ่ว และเท่ากับเป็นการส่งสารให้ประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ เข้าใจว่า อย่าได้พยายามนำสิทธิในข้อตกลงระหว่างประเทศมาใช้เพื่อการสาธารณสุข

กำลังโหลดความคิดเห็น