xs
xsm
sm
md
lg

รมต.ติงพาณิชย์อย่าบิดข้อมูล-หมอมงคล ลาปฏิบัติธรรม 1 สัปดาห์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รมต.เงา ติง ก.พาณิชย์ อย่าบิดเบือนอ้างทำซีแอล ทำให้ถูกเลื่อนขั้นเป็น “พีเอฟซี” แล้วล็อบบี้กันเอง ถามกลับเจตนารมณ์จริงๆ ของ “ไชยา” ทบทวนซีแอลทำไม ด้าน “หมอมงคล” ลาปฏิบัติธรรม 1 สัปดาห์ ทำจิตใจให้สงบตามความตั้งใจเดิม ยันลงนามประกาศซีแอลไม่มีวาระซ่อนเร้น เป็นไปตามกระบวนการ ซึ่งตกผลึกพอดี


วันที่ (13 ก.พ.) นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขเงา (รมช.สธ.เงา) กล่าวว่า ผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา (USTR) และกระทรวงพาณิชย์ของไทย ไม่สามารถนำเรื่องการทำซีแอลของ สธ.มาเป็นข้ออ้างในการใช้มาตรการลงโทษตามกฎหมายมาตร 301 พิเศษ ที่จะเลื่อนสถานะประเทศไทยจากประเทศที่ถูกจับตามองพิเศษ (PWL) เป็นประเทศที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาขั้นรุนแรง (PFC) ซึ่งเป็นการตอบโต้ขั้นรุนแรงสูงสุดได้ เพราะตามความตกลงว่าด้วยสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวกับการค้า ข้อตกลงทริปส์ ขององค์การการค้าโลก (WTO) และคำปฏิญญาโดฮา ระบุไว้ใช้เจนว่า การตอบโต้ทางการค้าทั้งทวิภาคี และพหุภาคี ไม่สามารถใช้ได้ด้วยเหตุที่เกี่ยวข้องกับเรื่องมนุษยชน และการสาธารณสุข

“การจัดสถานะ PWL และ PFC เป็นกลไกที่สหรัฐฯ ใช้ตอบโต้กับกระทรวงพาณิชย์ และที่สำคัญที่สุด คือ ไม่เกี่ยวข้องกับการทำซีแอลของไทยแต่อย่างใด แต่เหตุผลสำคัญที่ไทยถูกจัดสถานะเป็น PWL คือ ไทยมีรัฐบาลที่มาจาการทำรัฐประหาร ซึ่งเป็นเรื่องที่ทราบกันดี ดังนั้นอย่ามาบิดเบือนข้อเท็จจริง ส่วนฝ่ายบริษัทยาเจ้าของสิทธิบัตร หากเห็นว่าการทำซีแอลของไทยไม่ถูกต้องก็มีช่องทางในการเยียวยาอยู่แล้ว คือ การร้องต่อศาลปกครองว่าเป็นการดำเนินการโดยมิชอบ ไม่ใช่มาล็อบบี้ให้ยกเลิกซีแอลอย่างนี้” นพ.บุรณัชย์ กล่าว

นพ.บุรณัชย์ กล่าวด้วยว่า อยากให้ติดตามความพยายามในการเจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) ของไทยกับสหรัฐฯ เพราะที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้เสนอข้อเรียกร้องเกี่ยวกับสิทธิบัตรยาที่เป็นผลประโยชน์กับประเทศเขาค่อยข้างมาก และจำกัดสิทธิ์ของไทยในเรื่องการทำซีแอลทั้งหมด อาทิ ให้ยืดอายุสิทธิบัตรให้ยาวออกไปด้วยการออกสิทธิบัตรแบบง่ายๆ (Ever greening Patent) ยืดการผูกขาดราคา การตัดกลไกการตรวจสอบสิทธิบัตรด้วยการตัดค้านก่อนออกสิทธิบัตร (Pre-Grant Opposition) การผูกขาดข้อมูลการค้า (Data Exclusivity) ซึ่งจะช่วยปิดขวางการวางตลาดของยาสามัญ ทำให้การผูกขาดราคายาของยาต้นตำรับยาวนานขึ้น

“การที่คุณไชยา ออกมาระบุว่า จะทบทวนซีแอลนั้น มีเจตนารมณ์ที่แท้จริงอย่างไร จะยกเลิกหรือต้องการเพิ่มโอกาสให้ผู้ป่วยเข้าถึงยามากขึ้น หากต้องการจะเจรจาต่อรองราคายากับบริษัทเจ้าของสิทธิบัตรใหม่ ก็ควรจะดำเนินการทันทีเลยปล่อยทิ้งไว้จะเสียประโยชย์ แต่ต้องทำเป็นการภายในไม่ใช่มาเปิดเผยให้คนอื่นรู้ เพราะการเปิดเผยจุดยืนจะทำให้เสียผลประโยชน์ในการต่อรอง และจะดีที่สุดหากคุณไชยา ทำหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้ดีกว่านี้ มีความรอบคอบมากกว่านี้ เพราะการพูดเร็วยิ่งสร้างความสับสน ขัดแย้งในสังคม” นพ.บุรณัชย์ กล่าว

ด้าน นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน กล่าวว่า ขณะนี้อาเซียนได้มีการกำหนดเสาหลักในการดำเนินงานในภูมิภาคอาเซียน คือ สังคม วัฒนธรรม และประชาคม จะมีการมาตรการในการควบคุมไม่ให้เศรษฐกิจเติบโตไปไกลจนลืมคนด้อยโอกาสในสังคม โดยเน้นการรักษาสิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคของประชากรทั้ง 567 ล้านคนทั่วภูมิภาคนี้ ให้มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพื่อไม่ให้สังคมเหลื่อมล้ำเกินไป

“ขณะนี้อาเซียนยังไม่ได้กำหนดท่าทีจุดยืนต่อการทำซีแอล ผมคงพูดอะไรมากไม่ได้ เพราะการทำซีแอลเป็นการดำเนินงานของรัฐบาล และเป็นกิจการภายในประเทศ แต่ในเร็วๆ นี้ จะมีการประชุมระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งอาจจะมีการพิจารณาเรื่องนี้ และอาจจะความชัดเจนว่าอาเซียนจะทำอย่างไรกับการทำซีแอลของประเทศสมาชิก”

ด้าน นพ.มงคล ณ สงขลา อดีต รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ในระหว่างวันที่ 16-22 ก.พ.นี้จะเดินทางไปปฏิบัติธรรมที่วัดไกลกังวล จ.ชัยนาท ของหลวงพ่อสำรวม ซึ่งก่อนหน้านี้ ตั้งใจว่าจะไปปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวัน อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ของหลวงพ่อจรัญ แต่เนื่องจากวัดอัมพวันมีพุทธศาสนิกชนหลั่งไหลเป็นจำนวนมาก และพลุกพล่าน จึงตัดสินใจไปวัดไกลกังวลแทน เพราะสงบเงียบดี จิตใจจะได้สงบและเข้มแข็งพอ

“การไปปฏิบัติธรรมครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องซีแอลแต่อย่างใด ตั้งใจจะไปปฏิบัติธรรมตั้งแต่ก่อนมาดำรงตำแหน่ง รมว.สาธารณสุขแล้ว หลังจากปฏิบัติธรรมเสร็จก็จะทำงานฐานะผู้วิจัยเรื่องอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ของบริษัทในเครือสหพัฒนพิบูล ร่วมทุนกับประเทศญี่ปุ่นต่อไป” นพ.มงคล กล่าว

นพ.มงคล กล่าวว่า ขอยืนยันว่า การลงนามในประกาศซีแอลในวันที่ 4 ม.ค.และวันที่ 25 ม.ค.นั้น เป็นเรื่องของกระบวนการทำซีแอลที่ดำเนินต่อเนื่องกันมาตกผลึกในช่วงดังกล่าวพอดี ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการขั้นตอนที่ถูกต้อง ไม่มีวาระซ่อนเร้นอะไรทั้งสิ้น

“คิดว่าทำดีที่สุดแล้ว เรื่องของความห่วงชีวิตของผู้ป่วยก็ต้องห่วงเป็นธรรมดา เพราะหากยกเลิกซีแอล เขาอาจจะไม่ได้รับการรักษาให้ดีเท่าที่ควร แต่ในเมื่อทำดีที่สุดแล้วก็แค่นั้น” นพ.มงคล กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น