เอ็นจีโอ-เครือข่ายผู้ป่วยทั่วโลก ส่งจดหมายเปิดผนึกปลุกสำนึก “ไชยา” เลิกซีแอลยามะเร็ง พร้อมระดมบุกทำเนียบฯ ขอฟังท่าทีของรัฐบาลหมักพรุ่งนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อ็อกแฟม ร่วมกับองค์การหมอไร้พรมแดน เบลเยียม (ประเทศไทย) พร้อมด้วย 31 องค์กรด้านการเข้าถึงการรักษา, สถาบันการศึกษา และเครือข่ายผู้ป่วยทั่วโลกได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึง นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อปลุกจิตสำนึกให้ยึดมั่นนโยบายการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงยาจำเป็นอย่างทั่วถึงของคนไทยโดยเฉพาะการบังคับใช้สิทธิ (ซีแอล)
ทั้งนี้ สาระสำคัญในจดหมายฉบับดังกล่าวถามถึงจุดยืนของกระทรวงสาธารณสุข และรัฐบาลชุดใหม่ในเชิงนโยบายที่จะนำมาปฏิบัติเพื่อทำให้ประชาชนไทยมีโอกาสเข้าถึงยาจำเป็นอย่างทั่วถึงเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งขอความชัดเจนในท่าทีของรัฐบาลใหม่ต่อมาตรการบังคับใช้สิทธิฯ ซึ่งรัฐบาลชุดที่ผ่านมาได้ประกาศใช้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากมาตรการบังคับใช้สิทธิฯ เป็นมาตรการทางกฎหมายที่มีความสำคัญและมีประสิทธิภาพยิ่งในการปรับปรุงการเข้าถึงยารักษาโรคเรื้อรังและโรคร้ายแรงที่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต
ทั้งนี้ ได้มีข้อพิสูจน์ให้เห็นชัดแล้วว่ามาตรการบังคับใช้สิทธิฯ ซึ่งจะช่วยสร้างดุลยภาพให้เกิดขึ้นและช่วยจำกัดการผูกขาดตลาดและช่วยให้รัฐบาลสามารถยืนหยัดแสดงความรับผิดชอบตามรัฐธรรมนูญในการส่งเสริมความเสมอภาคและปกป้องการสาธารณสุขของประเทศ
จดหมายยังระบุด้วยว่า ข้อสำคัญอีกประการ คือ การที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติใช้ยาต้านไวรัสเอชไอวีชื่อสามัญราคาถูกที่นำเข้าภายใต้มาตรการบังคับใช้สิทธิฯ นั้น ช่วยให้สามารถประหยัดงบประมาณแผ่นดินได้อย่างมากและทำให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สามารถให้บริการยาต้านไวรัสเอชไอวีที่ก่อผลข้างเคียงทางยาน้อย และง่ายต่อการติดตามการรักษาแก่ผู้ป่วยและผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ได้อีกเป็นจำนวนมาก
ยิ่งไปกว่านั้นเงินงบประมาณที่สามารถประหยัดได้นี้ยังช่วยให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติสามารถขยายสิทธิประโยชน์ครอบคลุมผู้ป่วยโรคเรื้อรังเช่นโรคไตได้อีกด้วย
“การแก้ไขปัญหาการเข้าถึงยาจำเป็นประการแรกสุดนั้นจำต้องอาศัย “ความมุ่งมั่น” ของรัฐบาล พวกเราจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารัฐบาลชุดนี้จะแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นพร้อมกับจัดทำแผนยุทธศาสตร์ใหม่ๆ รูปแบบวิธีการอื่นๆ เพื่อใช้เป็นแผนยุทธศาสตร์ระยะยาวในการขยายการเข้าถึงยาอย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตามมาตรการการบังคับใช้สิทธิฯ ยังควรนำมาใช้ประกอบในแผนดังกล่าวด้วยเช่นกัน” จดหมายระบุ
ตอนท้ายของจดหมายบอกด้วยว่า เวลานี้ผู้ป่วยโรคมะเร็งต่างรอคอยให้มีการนำเข้ายาชื่อสามัญราคาถูกของยาต้านมะเร็งสามรายการที่ติดสิทธิบัตรและมีราคาแพงจึงต้องการเรียกร้องให้รัฐมนตรีให้คำรับรองว่าผู้ป่วยเหล่านี้
รวมถึงผู้ป่วยด้วยโรคอื่นๆจะไม่ต้องประสบกับความเดือดร้อนยากลำบากอันเป็นผลพวงมาจากการที่ยาจำเป็นต่อชีวิตติดสิทธิบัตรและมีราคาแพงเกินไป
อนึ่ง พรุ่งนี้ (12 ก.พ.) เวลา 09.00 น.เครือข่ายผู้ติดเชื้อ พร้อมเครือข่ายผู้ป่วยอื่นๆ และเครือข่ายผู้บริโภค นัดชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาลเพื่อรอฟังท่าทีของรัฐบาลต่อมาตรการบังคับใช้สิทธิ