xs
xsm
sm
md
lg

สปสช.เผยแนวทางดูแลผู้ติดเชื้อเอดส์ปี 52 ได้งบเกือบ 3 พันล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สปสช.เผย แนวทางดูแลผู้ติดเชื้อเอชไอวี และผู้ป่วยเอดส์ปี 52 ได้เกือบ 3 พันล้านบาท เน้นดูแลพิเศษบุคลากรทางการแพทย์ โดยเฉพาะเกิดอุบัติเหตุทำงานและเน้นตรวจทางห้องปฏิบัติการ พร้อมเพิ่มการเข้าถึงและคุณภาพบริการ เน้นการรับยาต้านไวรัสภายหลังสัมผัส ป้องการการติดเชื้อ เร่งรณรงค์การรับคำปรึกษาและตรวจเลือดโดยสมัครใจ ให้บริการทุกสิทธิ เช่นสามีของหญิงที่มาฝากครรภ์ และกลุ่มเสี่ยง เพื่อให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวีทราบผลเลือดและเข้ารับบริการก่อนมีอาการของโรคเอดส์

นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) กล่าวว่า ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าดูแลผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์มาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2548 โดยจัดตั้งเป็นกองทุนเพื่อการบริการผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ ครอบคลุมการให้ยาต้านไวรัส การตรวจทางห้องปฏิบัติการ การให้คำปรึกษา และป้องกันการแพร่เชื้อ

ทั้งนี้ จากการดำเนินการข้อมูลจนถึงเดือนมิถุนายน 2551 มีผู้ติดเชื้อจากทุกสิทธิลงทะเบียนทั้งสิ้น 168,072 ราย แยกเป็นสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า 127,307 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้รับยาต้านไวรัสเอชไอวี 107,604 ราย สำหรับงบประมาณนั้น รัฐบาลจัดสรรแยกจากงบเหมาจ่ายรายหัว ซึ่งในปี 2552 สปสช.ได้รับงบประมาณสำหรับกองทุนเอดส์ จำนวน 2,983,773,000 ล้านบาท

เลขาธิการ สปสช.กล่าวต่อว่า การดำเนินการในปี 2552 นั้น สปสช.เน้นการเข้าถึงบริการให้คำปรึกษาและตรวจเลือดโดยสมัครใจ สำหรับคนไทยทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง และสงสัยว่า ตนเองมีพฤติกรรมเสี่ยง หลังจากนั้น เมื่อทราบผลว่าเป็นผู้ติดเชื้อแล้ว จึงเข้ารับบริการตามสิทธิการรักษาของตนเอง ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ทุกคนเข้าถึงบริการสาธารณสุข โดยไม่มีอาการป่วย และยืดระยะเวลาที่จะต้องรับยาต้านไวรัสให้นานที่สุด

นพ.วินัย กล่าวว่า ในส่วนของการให้ยาต้านไวรัสเอชไอวี นอกจากยาต้านไวรัสสูตรพื้นฐานและสูตรดื้อยาแล้ว ยังให้ให้ยาต้านไวรัสสำหรับมารดาและทารก เพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีจากมารดาสู่ทารก สำหรับสิทธิประโยชน์ที่จะเพิ่มขึ้นในปี 2552 คือ และการให้ยาต้านไวรัสเอชไอวีเพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีภายหลังสัมผัส เช่น ในกรณีอุบัติเหตุจากการทำงาน และถูกล่วงละเมิดทางเพศ เป็น รวมถึงป้องกันการแพร่เชื้อ โดยสนับสนุนถุงยางอนามัยให้กับผู้มารับบริการ การสนับสนุนการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ป้องกันโรคเอดส์ ทั้งหมดก็เพื่อลดการติดเชื้อรายใหม่ ผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดี สามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
กำลังโหลดความคิดเห็น