xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ป่วยหวัดใหญ่ 2009 โผล่รายที่ 9 เป็นชาย 29 ปี กลับจากอเมริกา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดสธ.
สธ.พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่พันธุ์ใหม่ 2009 อีก เป็นรายที่ 9 เป็นชาย นักธุรกิจวัย 29 ปี กลับจากอเมริกา อาการล่าสุดดีขึ้น ไม่มีไข้ แต่ไอมีน้ำมูก พร้อมเฝ้าระวังคนใกล้ชิด 6 ราย อาการยังปกติดี รวมมีผู้ป่วยในข่ายเฝ้าระวัง 11 ราย  

วันที่ 7 มิถุนายน นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังการประชุมศูนย์ตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขว่า ขณะนี้พบผู้ป่วยยืนยันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 รายที่ 9 แล้ว โดยผู้ป่วยเป็นชาย อายุ 29 ปี เป็นนักธุรกิจที่เดินทางกลับมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ในช่วงกลางคืน จากนั้นช่วงกลางดึกวันที่ 5 มิ.ย.มิถุนายน เริ่มไม่สบาย มีไข้ อ่อนเพลีย ไอ มีน้ำมูก ปวดเมื่อยร่างกาย จึงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งด้วยตัวเอง โดยวันที่ 6 มิ.ย.ได้ส่งเชื้อตรวจที่ห้องปฏิบัติการกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เพื่อยืนยันผลปรากฏว่า เป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009

“อาการล่าสุดของผู้ป่วยรายดังกล่าวไม่น่าห่วง ไม่มีไข้ แต่ยังไอและมีน้ำมูก แพทย์ได้ให้ยาโอเซลทามิเวียร์แล้ว โดยต้องให้ยาครบชุด ติดต่อกัน 5 วัน และนอนรักษาตัวในห้องแยกปลอดเชื้อในโรงพยาบาล รอดูอาการ ส่วนผู้สัมผัสใกล้ชิดมีจำนวน 6 ราย โดยเป็นคนในครอบครัวและผู้ที่เดินทางไปอเมริกาด้วยกัน ขณะนี้ทั้งหมดอาการปกติดี ซึ่งต้องเฝ้าระวัง 3-7 วัน เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีอาการป่วยเกิดขึ้น” นพ.ไพจิตร์ กล่าว

นพ.ไพจิตร์ กล่าวอีกว่า ต้องขอชื่นชมผู้ป่วยรายที่ 9 ที่ให้ความร่วมมือดีมาก จากการสอบถามประวัติ หลังเริ่มมีอาการป่วยในช่วงเวลา 01.00 น. ผู้ป่วยได้โทร.ปรึกษาบริการสายด่วนของกระทรวงสาธารณสุขที่เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง ทางหมายเลข 02 590 3333 และ 02 590 1994 จึงปฏิบัติตัวอย่างถูกต้อง โดยขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขมีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับโรงพยาบาลเอกชนทั่วประเทศ และ กทม.

นพ.ไพจิตร์ กล่าวว่า ส่วนการประชุมคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ในวันนี้ ได้วางแผนดูแลกลุ่มนักเรียนไทยที่กลับจากการศึกษาหาประสบการณ์จากประเทศอเมริกา ซึ่งจะทยอยกลับบ้านใน 1-2 สัปดาห์นี้ เพื่อประสิทธิภาพในการควบคุมเฝ้าระวังโรคตามระบบ โดยจะทำหนังสือขอความร่วมมือสถานศึกษา มหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วประเทศ ให้ตรวจสอบว่ามีนักเรียน นิสิต นักศึกษาที่เพิ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศ และแนะนำให้ติดตามอาการใกล้ชิด เป็นเวลา 7 วัน โดยเฉพาะเด็กที่กลับถึงไทยในช่วง 3 วันแรก

“ขอความร่วมมือให้อยู่ที่บ้านและหลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับคนอื่น หากมีอาการไข้ ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษา และแจ้งประวัติเดินทางให้แพทย์ทราบด้วย หากเป็นไปได้ขอให้สถานศึกษาจัดระบบตรวจสุขภาพดูแลไข้หวัดใหญ่ให้นักเรียน นิสิต นักศึกษาในสถานศึกษา ทุกคน และพิจารณายืดหยุ่นการลงทะเบียน ระหว่างให้นักเรียน นิสิต นักศึกษาดังกล่าวอยู่ระหว่างสังเกตอาการด้วย ก็จะเป็นประโยชน์ต่อนักเรียน นักศึกษา และต่อการป้องกันโรคของประเทศ” นพ.ไพจิตร์กล่าว

ด้าน นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ผู้ป่วยยืนยันรายที่ 9 นี้มีประวัติเดินทางไปอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 28 พฤษภาคม 2552 ถึงวันที่ 3 มิถุนายน 2552 เดินทางกลับถึงไทยเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน เวลา 23.30 น. ระหว่างเดินทางไม่มีอาการผิดปกติ โดยปรากฏอาการป่วย มีไข้ มีน้ำมูก อ่อนเพลีย ไอ ปวดเมื่อยตามร่างกาย ในวันที่ 6 มิถุนายน 2552 และไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเอกชนใน กทม. วัดไข้ได้ 38.4 องศาเซลเซียส ไอ มีน้ำมูก มีเสมหะ ผลการตรวจจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เมื่อคืนวันที่ 6 มิถุนายน 2552 พบเป็นเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ผู้ป่วยได้รับยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์เป็นเวลา 5 วัน ล่าสุดนี้อาการดีขึ้น ไข้ลดลงแล้ว ยังนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล

นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้การพบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่2009 ในประเทศไทยรวดเร็วขึ้นเป็นผลมาจากระบบการเฝ้าระวังที่เข้มงวด และความร่วมมืออย่างดียิ่งของประชาชน รวมทั้งโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศต่างๆ ที่เป็นพื้นที่เสี่ยง ทำให้สามารถค้นหาผู้ป่วยได้รวดเร็วและให้การดูแลรักษาได้อย่าทันท่วงที ทุกรายได้รับยาต้านไวรัสภายใน 48 ชั่วโมง ส่งผลดี ทำให้อาการผู้ป่วยดีขึ้น ยังไม่มีเสียชีวิตแม้แต่รายเดียว โดยกระทรวงสาธารณสุขได้สำรองยาต้านไวรัสไว้ 5 ล้านเม็ด กระจายให้โรงพยาบาลทั่วประเทศทั้งรัฐและเอกชน การใช้อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัด จึงยังไม่มีปัญหาดื้อยา ประสิทธิภาพการรักษาได้ผลดี

สำหรับสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ทั่วโลก องค์การอนามัยโลกสรุปตั้งแต่วันที่ 24 เมษายน 2552 วันที่ 6 มิถุนายน 2552 ตามเวลาในประเทศไทย มีรายงานผู้ป่วย 21,940 ราย ใน 69 ประเทศ เสียชีวิต 125 ราย ในไทยพบผู้ป่วยรวมทั้งหมด 9 ราย ไม่มีเสียชีวิต ขณะนี้มีผู้ป่วยในข่ายเฝ้าระวัง รอผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ 11 ราย
กำลังโหลดความคิดเห็น