สธ.รับมอบยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่กว่า 5 แสนเม็ด จากรัฐบาลญี่ปุ่น มูลค่ากว่า 42 ล้านบาท สำรองป้องกันการระบาดของไข้หวัดใหญ่
วันนี้ (25 ธ.ค.) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนพ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เป็นผู้แทนรัฐบาลไทย รับมอบยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Tamiaflu) จากนายเคียวจิ โคะทะจิ เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งญี่ปุ่นประจำราชอาณาจักรไทย (Mr.Kyoji Komachi, Ambassador Extraordinary and Plenipotentiary) ผู้แทนรัฐบาลญี่ปุ่น
นายวิทยา กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลญี่ปุ่นได้จัดทำโครงการความร่วมมือกับอาเซียน เพื่อจัดตั้งสต๊อกสำรองยาต้านไวรัสทามิฟลู และวัสดุอุปกรณ์ในการป้องกันการติดเชื้อระดับภูมิภาค สำหรับสนับสนุนประเทศสมาชิกอาเซียน ในการสกัดกั้นเมื่อเริ่มพบการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งอาจเกิดขึ้นในประเทศใดประเทศหนึ่งของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น รัฐบาลญี่ปุ่น และรัฐบาลของประเทศสมาชิกอาเซียน ได้มอบอำนาจให้สำนักเลขาธิการอาเซียน (The ASEAN Secretation) เป็นผู้บริหารจัดการสต๊อกยาดังกล่าว พร้อมกันนี้ได้จัดตั้งกองทุน JAIF (Japan ASEAN Integration Fund) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการสต๊อกยาทามิฟลู และวัสดุอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อ
นายวิทยา กล่าวต่อว่า สต๊อกยาทามิฟลูของภูมิภาคนี้จะถูกจัดสรรให้แก่ประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อเก็บสำรองไว้ในคลังยาของประเทศนั้นๆ ด้วย สำหรับประเทศไทยได้รับการจัดสรรยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ จำนวน 585,200 เม็ด คิดเป็นมูลค่า 42,249,742.92 บาท และยาอีกจำนวนหนึ่งจัดเก็บสำรองไว้เป็นส่วนกลาง โดยมีบริษัทเอกชนเป็นผู้บริหารจัดการส่งสินค้าและ JICS (Japan International Cooperation System) เป็นผู้จัดหายาและวัสดุอุปกรณ์ให้กับสำนักเลขาธิการอาเซียน ยาทามิฟลูที่เก็บสำรองไว้นี้คาดว่าจะใช้สำหรับประชาชน และบุคลากรในช่วงระยะแรกที่เกิดการระบาดที่พบว่าน่าจะเป็นการระบาดของไข้หวัดใหญ่ เพื่อควบคุมและจำกัดขอบเขตการระบาดให้ได้มากที่สุด
“สำหรับประเทศไทย กำลังดำเนินตามแผนยุทธศาสตร์เตรียมความพร้อมรับการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ ซึ่งมีการเตรียมสำรองยาต้านไวรัสทามิฟลูไว้ส่วนหนึ่งด้วย ยาทามิฟลูที่ได้รับความช่วยเหลือจากประเทศญี่ปุ่นในครั้งนี้จะช่วยเสริมความพร้อมการสำรองยาของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี” นายวิทยากล่าว
วันนี้ (25 ธ.ค.) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนพ.ม.ล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เป็นผู้แทนรัฐบาลไทย รับมอบยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Tamiaflu) จากนายเคียวจิ โคะทะจิ เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งญี่ปุ่นประจำราชอาณาจักรไทย (Mr.Kyoji Komachi, Ambassador Extraordinary and Plenipotentiary) ผู้แทนรัฐบาลญี่ปุ่น
นายวิทยา กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลญี่ปุ่นได้จัดทำโครงการความร่วมมือกับอาเซียน เพื่อจัดตั้งสต๊อกสำรองยาต้านไวรัสทามิฟลู และวัสดุอุปกรณ์ในการป้องกันการติดเชื้อระดับภูมิภาค สำหรับสนับสนุนประเทศสมาชิกอาเซียน ในการสกัดกั้นเมื่อเริ่มพบการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งอาจเกิดขึ้นในประเทศใดประเทศหนึ่งของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น รัฐบาลญี่ปุ่น และรัฐบาลของประเทศสมาชิกอาเซียน ได้มอบอำนาจให้สำนักเลขาธิการอาเซียน (The ASEAN Secretation) เป็นผู้บริหารจัดการสต๊อกยาดังกล่าว พร้อมกันนี้ได้จัดตั้งกองทุน JAIF (Japan ASEAN Integration Fund) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการสต๊อกยาทามิฟลู และวัสดุอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อ
นายวิทยา กล่าวต่อว่า สต๊อกยาทามิฟลูของภูมิภาคนี้จะถูกจัดสรรให้แก่ประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อเก็บสำรองไว้ในคลังยาของประเทศนั้นๆ ด้วย สำหรับประเทศไทยได้รับการจัดสรรยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ จำนวน 585,200 เม็ด คิดเป็นมูลค่า 42,249,742.92 บาท และยาอีกจำนวนหนึ่งจัดเก็บสำรองไว้เป็นส่วนกลาง โดยมีบริษัทเอกชนเป็นผู้บริหารจัดการส่งสินค้าและ JICS (Japan International Cooperation System) เป็นผู้จัดหายาและวัสดุอุปกรณ์ให้กับสำนักเลขาธิการอาเซียน ยาทามิฟลูที่เก็บสำรองไว้นี้คาดว่าจะใช้สำหรับประชาชน และบุคลากรในช่วงระยะแรกที่เกิดการระบาดที่พบว่าน่าจะเป็นการระบาดของไข้หวัดใหญ่ เพื่อควบคุมและจำกัดขอบเขตการระบาดให้ได้มากที่สุด
“สำหรับประเทศไทย กำลังดำเนินตามแผนยุทธศาสตร์เตรียมความพร้อมรับการระบาดใหญ่ของไข้หวัดใหญ่ ซึ่งมีการเตรียมสำรองยาต้านไวรัสทามิฟลูไว้ส่วนหนึ่งด้วย ยาทามิฟลูที่ได้รับความช่วยเหลือจากประเทศญี่ปุ่นในครั้งนี้จะช่วยเสริมความพร้อมการสำรองยาของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี” นายวิทยากล่าว