สมศ.เสนอแนวทางวิจัยและพัฒนา ร.ร.คุณภาพต่ำ เตรียมนำร่อง ร.ร.ขนาดเล็ก เผยจะใช้คะแนนโอเน็ตมาเป็นส่วนหนึ่งของการประเมินผลและเชื่อมโยงกับความก้าวหน้าของครู-ผู้บริหารตามเกณฑ์ประเมินวิทยฐานะใหม่
นายสมหวัง พิธิยานุวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) กล่าวว่า สมศ.ได้เสนอแนวทางการวิจัยและพัฒนาคุณภาพภายนอกสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในเขตพื้นที่การศึกษาที่มีการรับรองมาตรฐานจากผลการประเมินคุณภาพภายนอกต่ำ ต่อบอร์ด สมศ.แล้ว โดยแนวทางดังกล่าวกำหนดให้คัดเลือกสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ที่มีข้อมูลว่า มีโรงเรียนในเขตได้รับรองมาตรฐานคุณภาพต่ำสุดเรียงตามลำดับ 30 เขตโดยพิจารณาจากค่าเฉลี่ยคะแนนจากการประเมินในมาตรฐาน 4, 5 และ 6 ซึ่งอยู่ในลำดับที่ยังไม่ผ่านเกณฑ์การรับรองคุณภาพจาก สมศ.
พร้อมทั้งกำหนดให้กรอบแนวทางการวิจัยและพัฒนาเรื่องดังกล่าวจะต้องแสดงให้เห็นว่าผลที่เกิดกับผู้เรียนในภาพรวมมีความเชื่อมโยงกับการเลื่อนวิทยฐานะตามเกณฑ์ใหม่ของครู ผู้บริหารและศึกษานิเทศก์ (ศน.) การประกันคุณภาพในสถานศึกษา มีการร่วมมือของทุกฝ่ายต่อเนื่อง และมีการติดตามผล ที่สำคัญ ให้การวิจัยครั้งนี้จะต้องเน้นบทบาทของ สพท. และบริบทของของสถานศึกษา
อย่างไรก็ตาม บอร์ด สมศ.เห็นว่า การวิจัยในเรื่องนี้ สมศ.ควรจะนำร่องศึกษาและพัฒนาเฉพาะ ร.ร.ขนาดเล็ก และกำหนดตุ๊กตาที่ชัดเจน เช่น มาตรฐานที่ 5 เรื่องสัมฤทธิ์ผลตามหลักสูตร ในกลุ่มสาระวิชาคณิตศาสตร์จะต้องพัฒนาเช่นไร โดย สมศ.จะต้องไปศึกษาจาก ร.ร.ขนาดเล็กที่มีการพัฒนาจนได้รับการรับรองมาตรฐาน เพื่อนำมาปรับใช้เป็นแนวทางพัฒนา ร.ร.ขนาดเล็กในเขตพื้นที่อื่นๆ และควรศึกษาวิธีการเรียนจินตคณิต รวมถึงเรื่องสื่อเทคโนโลยีตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แนะนำ เพราะสื่อเทคโนโลยีสามารถนำมาใช้ประโยชน์ และจะต้องพัฒนาให้ได้คุณภาพ
ขณะเดียวกัน บอร์ด สมศ.เห็นว่า ควรนำคะแนนทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) มาเป็นส่วนหนึ่งในการประเมินผล โดยกำหนดอย่างชัดเจนว่าในแต่ละกลุ่มสาระวิชาจะต้องมีคะแนนเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ ส่วนเด็กที่ไม่เก่งวิชาการก็ควรให้นำเรื่องคุณธรรม ความดี หรือหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้พิจารณาประกอบด้วย
นายสมหวัง ระบุว่า บอร์ด สมศ.ได้กำชับว่าจะต้องกำหนดต้นทางอย่างชัดเจนก่อน โดยกรอบการประเมินจะยังเป็นไปในแนวทางที่กำหนดไว้เดิม เช่น ให้ความก้าวหน้าของครูผูกกับคุณภาพของเด็ก เพราะต้องการให้เกิดความรับผิดชอบร่วมกัน โดย สมศ.จะไม่มีการบังคับให้เข้าร่วมแต่จะประกาศรับสมัคร สพท.ที่สนใจเท่านั้น ซึ่ง 1 ก.พ.นี้จะประชุมบอร์ด สมศ.เพื่อหาข้อสรุปจากนั้นจะนำเรื่องนี้เสนอต่อ รมว.ศธ.คนใหม่ด้วย
นายสมหวัง พิธิยานุวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) กล่าวว่า สมศ.ได้เสนอแนวทางการวิจัยและพัฒนาคุณภาพภายนอกสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในเขตพื้นที่การศึกษาที่มีการรับรองมาตรฐานจากผลการประเมินคุณภาพภายนอกต่ำ ต่อบอร์ด สมศ.แล้ว โดยแนวทางดังกล่าวกำหนดให้คัดเลือกสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ที่มีข้อมูลว่า มีโรงเรียนในเขตได้รับรองมาตรฐานคุณภาพต่ำสุดเรียงตามลำดับ 30 เขตโดยพิจารณาจากค่าเฉลี่ยคะแนนจากการประเมินในมาตรฐาน 4, 5 และ 6 ซึ่งอยู่ในลำดับที่ยังไม่ผ่านเกณฑ์การรับรองคุณภาพจาก สมศ.
พร้อมทั้งกำหนดให้กรอบแนวทางการวิจัยและพัฒนาเรื่องดังกล่าวจะต้องแสดงให้เห็นว่าผลที่เกิดกับผู้เรียนในภาพรวมมีความเชื่อมโยงกับการเลื่อนวิทยฐานะตามเกณฑ์ใหม่ของครู ผู้บริหารและศึกษานิเทศก์ (ศน.) การประกันคุณภาพในสถานศึกษา มีการร่วมมือของทุกฝ่ายต่อเนื่อง และมีการติดตามผล ที่สำคัญ ให้การวิจัยครั้งนี้จะต้องเน้นบทบาทของ สพท. และบริบทของของสถานศึกษา
อย่างไรก็ตาม บอร์ด สมศ.เห็นว่า การวิจัยในเรื่องนี้ สมศ.ควรจะนำร่องศึกษาและพัฒนาเฉพาะ ร.ร.ขนาดเล็ก และกำหนดตุ๊กตาที่ชัดเจน เช่น มาตรฐานที่ 5 เรื่องสัมฤทธิ์ผลตามหลักสูตร ในกลุ่มสาระวิชาคณิตศาสตร์จะต้องพัฒนาเช่นไร โดย สมศ.จะต้องไปศึกษาจาก ร.ร.ขนาดเล็กที่มีการพัฒนาจนได้รับการรับรองมาตรฐาน เพื่อนำมาปรับใช้เป็นแนวทางพัฒนา ร.ร.ขนาดเล็กในเขตพื้นที่อื่นๆ และควรศึกษาวิธีการเรียนจินตคณิต รวมถึงเรื่องสื่อเทคโนโลยีตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แนะนำ เพราะสื่อเทคโนโลยีสามารถนำมาใช้ประโยชน์ และจะต้องพัฒนาให้ได้คุณภาพ
ขณะเดียวกัน บอร์ด สมศ.เห็นว่า ควรนำคะแนนทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) มาเป็นส่วนหนึ่งในการประเมินผล โดยกำหนดอย่างชัดเจนว่าในแต่ละกลุ่มสาระวิชาจะต้องมีคะแนนเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ ส่วนเด็กที่ไม่เก่งวิชาการก็ควรให้นำเรื่องคุณธรรม ความดี หรือหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้พิจารณาประกอบด้วย
นายสมหวัง ระบุว่า บอร์ด สมศ.ได้กำชับว่าจะต้องกำหนดต้นทางอย่างชัดเจนก่อน โดยกรอบการประเมินจะยังเป็นไปในแนวทางที่กำหนดไว้เดิม เช่น ให้ความก้าวหน้าของครูผูกกับคุณภาพของเด็ก เพราะต้องการให้เกิดความรับผิดชอบร่วมกัน โดย สมศ.จะไม่มีการบังคับให้เข้าร่วมแต่จะประกาศรับสมัคร สพท.ที่สนใจเท่านั้น ซึ่ง 1 ก.พ.นี้จะประชุมบอร์ด สมศ.เพื่อหาข้อสรุปจากนั้นจะนำเรื่องนี้เสนอต่อ รมว.ศธ.คนใหม่ด้วย
