xs
xsm
sm
md
lg

กทม.จ่อเซ็นบอมบาดิเอร์ 368 ล้าน ทำระบบสัญญาณรถไฟฟ้าฝั่งธน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กทม.เตรียมลงนามว่าจ้างบอมบาดิเอร์ ติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าไปฝั่งธนฯปลายเดือนนี้หลังต่อรองราคาหลายครั้งในกรอบงบประมาณ 368 ล้านบาท ต่ำกว่างบที่กำหนดไว้ 10% พร้อมเตรียมเปิดยื่นซองประมูลอีก 4 ระบบทั้งการสื่อสาร จัดเก็บข้อมูล ไฟฟ้า ในวงเงิน 714 ล้านบาท 31 ม.ค.นี้ เคาะราคาด้วยระบบ อี-ออกชัน 22 ก.พ.ส่วนความคืบหน้าบีอาร์ที กทม.จะได้เห็นโฉมหน้ารถโดยสาร 3 คันแรกภายใน 4 เดือน พร้อมเปิดให้บริการ ก.ค.นี้แน่

นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดหาระบบอาณัติสัญญาณส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีลมจากสะพานตากสิน-แยกตากสิน ระยะทาง 2.2 กิโลเมตร ว่า หลังจากที่คณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษได้คัดเลือกบริษัท บอมบาดิเอร์ ซึ่งมีประสบการณ์การเชื่อมระบบแบบฟิกบอกซ์มาเป็นมูฟวิ่งบอกซ์ ที่ประเทศเยอรมนี และฮอลแลนด์ มาดำเนินการติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณให้กับรถไฟฟ้า 2.2 กิโลเมตรของ กทม.โดยหลังจากที่ได้เจรจาต่อรองราคามาหลายครั้งล่าสุดทางคณะกรรมการฯ ได้รายงานอย่างไม่เป็นทางการว่าทางบอมบาดิเอร์ยอมลดราคาจากที่เสนอมาครั้งแรก 399 ล้านบาท มาเป็นราคา 368 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่ากรอบงบประมาณที่กทม.กำหนดไว้ที่ 390 ล้านบาท ถือว่ากทม.ได้ส่วนลดถึง 10% ดังนั้น ในปลายเดือน ม.ค.นี้จะเซ็นสัญญาลงนาม จากนั้นจะเร่งดำเนินการทันที

ส่วนการจัดหาอุปกรณ์อีก 4 ระบบ อาทิ การติดตั้งระบบสื่อสาร ระบบการจัดเก็บข้อมูล ระบบประกอบอาคารที่เกี่ยวข้องกับรถไฟฟ้าจะใช้งบประมาณในส่วนนี้จำนวน 714 ล้านบาทจะเปิดให้เอกชนมายื่นเอกสารในวันที่ 31 ม.ค.นี้ จากนั้นจะดำเนินการประกวดราคาด้วยระบบอีออกชั่นในวันที่ 22 ก.พ.และคาดว่า จะลงนามได้ต้นเดือน มี.ค.2551

“ทั้งนี้ การติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและการจัดหาอีก 4 อุปกรณ์จะเหลื่อมเวลากันประมาณ 2 เดือน แต่โดยกรอบการติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณจะใช้เวลา 12 เดือน ส่วน 4 อุปกรณ์จะใช้เวลา 10 เดือน ซึ่งทุกอย่างจะเสร็จพร้อมกันปลายปีนี้ คาดว่า เดือนกันยายนจะสามารถทดลองระบบได้ตามแผน ขณะที่ทางบีทีเอสที่กำลังดำเนินการเปลี่ยนระบบอาณัติสัญญาณจากฟิกบอกซ์มาเป็นมูฟวิ่งบอกซ์ โดยให้บอมบาดิเอร์ดำเนินการนั้นก็เป็นไปด้วยด้วยดีซึ่งจะช่วยให้การติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณระยะทาง 2.2 กิโลเมตรของ กทม.ได้เป็นอย่างดีทีเดียว”

สำหรับส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสุขุมวิท จากอ่อนนุช-แบริ่ง ระยะทาง 5.25 กม.นายพนิช กล่าวว่า ขณะนี้การก่อสร้างภาพรวมคืบหน้าแล้ว 40% เร็วกว่าแผน 2% ส่วนต่อขยายจากแบริ่งไปสำโรงนั้น ต้องรอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ เป็นผู้สรุปเรื่องงบประมาณ รวมถึงการหาแหล่งที่มาของเงินทุนว่าจะนำมาจากไหน ซึ่งอาจจะมาจากเงินกู้หรือออกพันธบัตรรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการออกแบบรายละเอียดต่างๆ (Detail Design) ที่สำนักนโยบายและการการขนส่งและจราจร (สนข.) เป็นผู้ออกแบบทั้งส่วนต่อขยายจากแบริ่ง-สำโรง และจากหมอชิต-สะพานใหม่นั้นจะแล้วเสร็จในกลางปีนี้ แต่งบประมาณในส่วนของหมอชิต-สะพานใหม่ก็ต้องรอรัฐบาลชุดใหม่เป็นผู้อนุมัติเช่นกัน

นายพนิช กล่าวอีกว่า ส่วนความคืบหน้าโครงการรถเมล์ด่วนพิเศษบีอาร์ทีสายช่องนนทรี-ราชพฤกษ์ ขณะนี้งานก่อสร้างคืบหน้าแล้ว 40% ปลายเดือน ก.พ.นี้จะได้เห็นโฉมหน้าสถานีบีอาร์ที 3-4 สถานี ที่เหลือจะทยอยเสร็จไม่เกินเดือน ก.ค.2551 ส่วนการจัดหารถโดยสารจำนวน 45 คัน ขนาดยาว 12 เมตร ใช้เชื้อเพลิง NGV จุผู้โดยสารได้ 80 คนซึ่งทางบริษัท เบสท์ลิน กรุ๊ป เป็นผู้ชนะการประกวดราคาในกรอบวงเงิน 387 ล้านบาท จะสามารถลงนามได้ภายใน 1-2 อาทิตย์นี้ ทั้งนี้รถโดยสารบีอาร์ที 3 คันแรกทางบริษัทจะสามารถจัดส่งให้ทม.ใน 120 วัน หรือ 4 เดือน จากนั้นจะจัดส่งอีก 20 คัน ภายใน 5 เดือน ที่เหลืออีก 22 คันภายใน 6 เดือน จากกรอบเวลาเดิมที่กำหนดไว้ 7 เดือนซึ่งเร็วกว่าที่กทม.ตั้งเป้าไว้ จากนั้นกทม.จะทดลองระบบใน 5 เดือนแรก และจะแล้วเสร็จทั้งโครงการประมาณเดือนกรกฎาคมนี้

กำลังโหลดความคิดเห็น