ปชป.เตรียมเปิดตัวผู้สมัคร สส.กรุงเทพฯ 22 ธ.ค.นี้ ตั้งเป้าคว้า 10 สส.เมืองกรุง - เล็งเปิดตัวทั่วประเทศ 25 ธ.ค. พร้อม 3 แคนดิเดตนายกฯ ยอมรับส่งผู้สมัครไม่ครบ 400 เขต เหตุผู้สมัครขาดคุณสมบัติ ไม่ไปเลือกตั้งท้องถิ่น ยังไม่ขีดเส้นจำนวน สส.ทั่วประเทศ เหตุยังไม่เห็นหน้าคู่แข่งชัดเจน
นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.พรรคประชาธิปัตย์ โดยคาดว่า จะสามารถเปิดตัวผู้สมัครได้ในวันพฤหัสบดีที่ 25 ธันวาคมนี้ เนื่องจากจะต้องรอคณะกรรมการบริหารพรรครับรองให้ความเห็นชอบก่อน ซึ่งจะมีการประชุมในสัปดาห์หน้า แต่ที่ว่าที่ผู้สมัคร สส.กรุงเทพฯ สามารถเปิดตัวได้ในวันจันทร์ที่ 22 ธันวาคมนี้ เนื่องจาก ได้ดำเนินการไพรมารีโหวตในพื้นที่เสร็จแล้ว แต่พื้นที่อื่นๆ เริ่มดำเนินการวันนี้ (17 ธ.ค.) วันแรก โดยคาดว่า จะใช้เวลาประมาณ 3 วัน ก่อนส่งกลับมายังคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครให้ความเห็นชอบ และส่งให้คณะกรรมการบริหารพรรครับรอบ โดยคาดว่า จะแล้วเสร็จ 23 หรือ 24 ธันวาคมนี้
ส่วนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ที่ก่อนหน้านี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ระบุว่า พรรคจะเสนอ 3 รายชื่อ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางการเมืองในอนาคตนั้น เลขาธิการพรรค ระบุว่า ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริหารพรรคจะพิจารณา ซึ่งรายชื่ออีก 2 บุคคลนั้น นายอภิสิทธิ์ อยู่ระหว่างการพิจารณา ว่า จะเป็นผู้สมัคร สส.ของพรรค หรือคนนอก โดยคาดว่า จะสามารถเปิดตัวได้ในวันเปิดตัวผู้สมัคร สส.
นายชัยวุฒิ ยังเปิดเผยด้วยว่า การส่งผู้สมัคร สส.แบบแบ่งเขตครั้งนี้ พรรคตั้งใจจะส่งครบ 400 เขต แต่ก็ยังมีปัญหาที่ว่าที่ผู้สมัครบางคน ขาดคุณสมับติ เช่น ไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งท้องถิ่นก่อนหน้านี้ ซึ่งจะพยายามส่งให้ใกล้เคียง 400 เขตให้ได้มากที่สุด
ส่วนโจทย์ยากของพรรคประชาธิปัตย์ ในการเลือกตั้งครั้งนี้นั้น นายชัยวุฒิ ยอมรับว่า เป็นโจทย์ยากทุกครั้ง เพราะพรรคตั้งใจทำการเมืองสุจริต เพราะต้องการให้บ้านเมืองสุจริตยุติธรรม เพราะไม่เช่นนั้น ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง และความมั่นคง ก็จะเกิดปัญหาหากการเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม
สำหรับผลโพลที่พรรคประชาธิปัตย์ ได้รับคะแนนนิยมเพิ่มมากขึ้น จะมีโอกาสได้ สส.เพิ่มขึ้นด้วยหรือไม่นั้น นายชัยวุฒิ ระบุว่า ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ เพราะนักมวยยังไม่เห็นคู่ต่อสู้ในแต่ละเขตเลือกตั้งเป็นอย่างไร และคงไม่ประเมินเช่นนั้น เพราะเป็นเพียงคะแนนนิยมต่อพรรค และหัวหน้าพรรค ณ เวลานี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดี และขอบคุณที่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์เพิ่มขึ้น แต่พรรคฯ จะสามารถทำกระแสให้เพิ่มขึ้นและกลายเป็นคะแนนได้อย่างไร ยังต้องใช้เวลา จึงไม่สามารถประเมินได้ว่า จะได้ สส.จำนวนเท่าใด
ส่วนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคประชาธิปัตย์ทั้ง 3 คน จะสู้พรรคการเมืองอื่นๆ ได้หรือไม่นั้น นายชัยวุฒิ มองว่า พรรคไม่ได้มองเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องหลัก เพราะพรรคพิจารณาจาผู้ที่มีความเหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรีในอนาคต ตามแนวนโยบาย และอุดมการณ์ของพรรคมากกว่า ไม่ได้พิจารณาเปรียบเทียบแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคการเมืองอื่น แต่ยึดอุดมการณ์ และนโยบายเป็นหลัก
นายชัยวุฒิ ยังระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์ ได้รับความนิยมมากขึ้น ก็ถือเป็นกำลังใจ ซึ่งยอมรับว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะฟื้นฟูพรรค แต่คณะกรรมการบริหารพรรค ก็มีความกดดัน เนื่องจากมีเวลาเตรียมตัวน้อยหลังได้รับการเลือกจากที่ประชุมพรรค ที่ผ่านมา แต่ยืนยันว่า จะทำอย่างดีที่สุด เพื่อให้พรรคเป็นที่คาดหวัง เป็นที่พึ่งของประเทศ และประชาชนในทางที่ถูกที่ควร
ขณะที่ นายสกลธี ภัททิยกุล รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กำกับดูแลพื้นที่กรุงเทพฯ เปิดเผยว่า พรรคประชาธิปัตย์ จะเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.กรุงเทพฯ ทั้ง 33 เขต ในวันจันทร์ที่ 22 ธันวาคมนี้ โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ จะพิจารณาและรับรองในวันพรุ่งนี้ (18 ม.ค.) พร้อมเปิดเผยว่า ผู้สมัคร สส.กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ 90 เปอร์เซ็นต์ จากเป็นผู้สมัครหน้าใหม่ จากผู้สมัครทั้งหมด 150 คน ซึ่งมาจากแคมเปญ สส.ที่ดีคุณก็เป็นได้นะ หากไม่นับปี 2550 ที่มีผู้สมัครกรุงเทพฯ กว่า 300 คน ครั้งนี้ จึงเป็นรองลงมา แต่มีความคึกคัก แตกต่างจากครั้งก่อนที่มีผู้สมัครหน้าใหม่มาก
นายสกลธี ยังระบุว่า ผู้สมัคร สส.กรุงเทพฯ มีทั้งผู้สมัครหน้าใหม่ และเคยชิมลางทางการเมืองจากพรรคการเมืองอื่น แต่มีสัดส่วนผู้มัครหน้าใหม่มากกว่า
ส่วนผลโพลที่พรรค และ นายอภิสิทธิ์ ได้รับความนิยมมากขึ้น คาดหวังต่อจำนวน สส.กรุงเทพฯ อย่างไรนั้น นายสกลธี ตั้งเป้าว่า พรรคน่าจะได้ สส.กรุงเทพฯ ประมาณ 10 คน จากผลโพล ณ วันนี้ (17 ธ.ค.) ซึ่งกรุงเทพฯ เป็นพื้นที่อ่อนไหวกับกระแสทางการเมือง และมีการเปลี่ยนแปลง สส.ตลอดเวลา จากอดีตที่พรรค เคยมี สส.กรุงเทพฯ 30 คน จนไม่ได้รับการเลือกตั้ง โอกาสการพลิกผันในพื้นที่กรุงเทพฯ จึงมีมาก ซึ่งหลังจากนี้อีก 1 เดือนสถานการณ์ก็อาจเปลี่ยนไปได้ จึงต้องประเมินสถานการณ์เป็นรายวัน
นายสกลธี ยังเปิดเผยนโยบายสำหรับกรุงเทพฯ ว่า จะเน้นปากท้อง และระบบขนส่งมวลชนเป็นหลัก ซึ่งพรรคมีบุคลากรในการวางนโยบาย และจะแจกคู่มือนโยบายให้ผู้สมัคร สส.แต่ละคน
ส่วนจุดขายที่พรรคประชาธิปัตย์ จะชิงคะแนนจากพรรคประชาชน เพราะมีทั้งนโยบายและฐานเสียงเดียวกับพรรคประชาชนนั้น นายสกลธี ระบุว่า จุดขายที่แตกต่างนั้น พรรคประชาธิปัตย์ เคยมีบุคลากรที่บริหารงานจริงมาแล้ว ทั้ง นายอภิสิทธิ์ และนายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รวมถึงตนเองที่เคยเป็นรองผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ จะรู้ปัญหา และเคยทำงานจริงมาแล้ว ซึ่งนโยบายแม้จะคลายคลึงกัน แต่ขึ้นอยู่กับการนำไปปฏิบัติ และต่อยอด ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ น่าจะได้เปรียบ


