นายกฯ เผยคุย ‘ทรัมป์’ อยากให้ไทย-เขมรหยุดยิง และทำตามปฏิญญาที่มาเลเซีย แต่ได้ตอบกลับไปว่าต้องไปบอกกัมพูชา เพราะเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงจนฝ่ายไทยเกิดความสูญเสียและต้องตอบโต้ ผู้นำสหรัฐฯ บอกเข้าใจถ้ามีอะไรแบบนี้ให้โทร.หาได้ตลอด เชื่อคุยกัมพูชามาก่อนแล้วแต่ได้ข้อมูลผิดๆ ว่าไทยรุกราน ด้าน ‘สีหศักดิ์’ทิ้งท้ายปริศนา หยุดยิงเป็นกลยุทธ์ลั่นไม่ทำอะไรขัดกฎหมาย
เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 12 ธ.ค. ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย พร้อมด้วยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้วรมว.ต่างประเทศ และนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ หารือกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยเริ่มหารือในเวลา 21.26 น.และใช้เวลาพูดคุยเกือบ 20 นาที
ต่อมา เวลา 22.00 น.นายกฯ แถลงภายหลังหารือว่า ได้โทรศัพท์พูดคุยกันโดยที่มี รมว.ต่างประเทศทั้ง 2 ประเทศอยู่ด้วยและตนก็มีนางศุภจีอยู่ด้วยก็ได้พูดคุยกัน ซึ่งบรรยากาศการพูดคุยก็เป็นไปด้วยดีประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีความเป็นห่วงสถานการณ์ และอยากให้ทุกอย่างกลับไปยังจุดที่มันเคยเป็นอยู่คือการกลับไปที่ปฎิญญาร่วมไทย-กัมพูชาที่เราลงนามที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งตนได้ยืนยันกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่าประเทศไทยเราปฏิบัติตามเงื่อนไขที่อยู่ในปฎิญญามาตลอด ไม่เคยที่จะออกนอกเงื่อนไขเลยแม้แต่น้อย แต่ว่าทางฝ่ายกัมพูชาเป็นผู้ที่ละเมิด เมื่อมีการละเมิดแล้วถ้าเป็นการละเมิดด้วยการปฏิบัติ เช่น ไม่ถอนกำลังออกไป ไม่มีการทำให้เกิดการสูญเสียชีวิต เราก็จะต้องมาพูดคุยกันให้เขาปฏิบัติ แต่ว่าถ้ามีการละเมิดโดยที่ทำให้ฝ่ายไทยเกิดการสูญเสียอวัยวะชีวิตทรัพย์สิน แบบนี้ประเทศไทยมีความจำเป็นที่จะต้องตอบโต้ในสิ่งที่เราต้องป้องกันอธิปไตยของเราป้องกันดินแดนของเรา ป้องกันทรัพย์สินของคนไทย
และสุดท้ายคือเราจะต้องป้องกันและดำเนินการอย่างสูงสุดคือป้องกันชีวิตของประชาชนนี่คือเหตุที่ตนต้องอธิบายประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไม่เช่นนั้นท่านก็จะไปเข้าใจว่าเราเป็นฝ่ายจู่โจม รุกรานประเทศกัมพูชา ซึ่งไม่ใช่เลยเราตอบโต้ แต่เราเวลาตอบโต้บางครั้งก็ต้องทำให้เขาได้ยิน ทำให้เขาเห็นว่าอย่ามาทำอย่างนี้กับเรา เราไม่ใช่ประเทศที่คุณอยากจะทำอะไรคุณก็มาทำได้ นี่คือสิ่งที่ตนได้บอกกับเขาไปแล้วว่าคนที่ไม่ได้เป็นคู่สัญญาอย่างเรากับกัมพูชา ถ้าเขาพูดกับฝ่ายไหนเขาก็คงใช้ข้อมูลฝ่ายเดียวไม่ได้ ฉะนั้นเขาก็ต้องมาฟังข้อมูลจากฝ่ายไทย ผู้ซึ่งเป็นฝ่ายที่ถูกกระทำก่อน
เมื่อถามว่า นายกฯ ได้มีการพูดคุยกับสหรัฐฯ หรือไม่ว่าอย่างน้อยไทยเราจะมีการเลือกตั้ง เพื่อให้เขาได้เห็น นายกฯ กล่าวว่า นี่มันเรื่องของประเทศไทยไม่เกี่ยวกัน ทำไมต้องเอาเรื่องของการเลือกตั้งมาเกี่ยวกับเรื่องของการปกป้องอธิปไตย หรือป้องกันประเทศ ตอนนี้ตนต้องพูดถึงเรื่องว่าทำอย่างไรทำอย่างไรไม่ให้พี่น้องทหาร ประชาชนต้องได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการรุกราน จากการยิงจรวด ยิงระเบิด ยิงกระสุน สไนเปอร์ต่างๆ เข้ามามาจากฝั่งกัมพูชา วันนี้เรื่องการเมืองหรือเรื่องของการเลือกตั้งไม่มีความสำคัญเลยกับตนเลยแม้แต่น้อยเท่ากับชีวิตของแม้กระทั่งคนๆ หนึ่งที่อยู่ตามแนวชายแดนที่เป็นคนไทย
เมื่อถามต่อว่าหลังจากที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ฟังแล้ว ได้ฟังแล้วมีคำตอบหรือมีคำพูดอะไรกลับมาถึงนายกฯบ้าง นายกฯ กล่าวว่า ท่านบอกท่านก็เข้าใจและถ้ามีเรื่องแบบนี้ขอให้นายสีหศักดิ์ ต่อสายตรงถึงรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ตลอดเวลา และท่านก็บอกว่าถ้ามีอะไรให้ตนโทรศัพท์หาท่านได้ตลอดเวลาเหมือนกัน แต่ท่านยังไม่บอกเบอร์ตนเลย แต่ตนก็บอกท่านไปว่าคงไม่ถึงขั้นนั้น ตนคิดว่าประเทศไทยก็สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และนายสีหศักดิ์ได้มีการพูดคุยกับทางฝ่ายสหรัฐฯ ในหลายระดับเป็นประจำอยู่แล้ว
เมื่อถามอีกว่าวันนี้เขายังไม่ได้กดดันให้เราหยุดยิงใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เขาก็อยากให้เราหยุดยิง ตนก็บอกท่านไปว่าขอให้ไปบอกเพื่อนเราดีกว่า ว่าอย่าบอกว่าหยุดยิงเฉยๆ ต้องออกมาบอกให้โลกรู้ว่าเอาละกัมพูชาจะหยุดยิง กัมพูชาจะถอนกำลังออกไป กัมพูชาจะเก็บกู้วัตถุระเบิดที่วางเอาไว้ออกไปให้หมด และทำให้เห็น ถ้าทำให้เห็นประเทศไทย เราไม่เคยเข้าไปอยากจะได้อะไรของเขาอยู่แล้ว ไม่มี แต่เขาต้องหยุดทุกอย่างก่อน นี่เป็นสิ่งที่ทางฝ่ายกองทัพได้รายงานตนมาตลอดว่ามันจะถึงจุดนี้เมื่อวันที่เรามีการเก็บกู้วัตถุระเบิดภายใต้ปฎิญญาไปถึงจุดหนึ่ง จุดที่จะเจอเยอะมาก และเขาจะไม่ยอมให้เราเข้าไป ซึ่งเราเก็บมา 2-3 อาทิตย์ ผู้สื่อข่าวก็เห็น และผู้สังเกตการณ์อาเซียน ซึ่งเป็นสักขีพยานของนานาชาติเข้ามาร่วมกับเรา และวัตถุระเบิดที่เราไปเก็บกู้มาหรือตัวกับระเบิดที่ทำให้ น้องๆ ทหารของเราต้องบาดเจ็บและเสียชีวิตก็ได้รับการยืนยันจากผู้สังเกตการณ์อาเซียนยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรว่าเป็นระเบิดใหม่เพิ่งวาง ซึ่งมันก็มีความชัดเจนในตัวของมันอยู่แล้วว่าฝ่ายกัมพูชาเป็นฝ่ายที่ละเมิดสัญญา เพราะฉะนั้นคนที่ละเมิดสัญญาต้องแก้ไขไม่ใช่คนที่ถูกกระทำมาแก้ไข ฉะนั้นมันเป็นหลักสากลที่ทุกคนต้องเข้าใจ
เมื่อถามด้วยว่าพื้นที่ที่เขายึดอยู่ เขาจะไม่ยอมออกไป เพราะฉะนั้นเราจะต้องยืนยันในส่วนของเรา นายกฯ กล่าวว่า ถึงแม้ว่าพื้นที่นั้นเป็นของเขา แต่ภายใต้ปฏิญญาไทย-กัมพูชาเขียนว่า ไทยและกัมพูชาจะต้องปฏิบัติการกู้ทุ่นระเบิดที่เป็นอันตราย ไม่ใช่มาบอกอันนี้ของกัมพูชาไม่กู้ คือต้องกู้ด้วยหลักมนุษยธรรม ทั้งนี้ ย้ำว่าพื้นที่ที่กัมพูชาที่อ้างว่าเป็นของเขาพื้นที่เหล่านี้ก็ควรจะมีการเก็บกู้ทุ่นระเบิดร่วมกันเพื่อมนุษยธรรม
เมื่อถามด้วยอย่างปราสาทควายที่เขายึดอยู่เขาก็ไม่ปล่อย และไม่ถอยแน่ เราต้องยื่นรายละเอียดไหมว่าเขาจะต้องปล่อยต้องหยุด นายกฯ กล่าวว่า ในรายละเอียดทางกองทัพ อย่างเรื่องไปยึดจุดไหน เป้าหมายของกองทัพเป็นอย่างไร ตนเข้าไปแทรกแซงไม่ได้ เขามีแผนที่ และมีแผนเขาจะดำเนินการของเขาในส่วนของฝ่ายยุทธการเขามีการแถลงให้ประชาชนรับทราบอยู่ทุกวันอยู่แล้ว ของทุกเหล่าทัพฉะนั้นตรงนี้ตน 3 คนดูในเรื่องของนโยบาย และดูในเรื่องของการหาวิธีว่าจะทำอย่างไร ถ้าเราทำให้สถานการณ์ดีขึ้นได้ และประเทศเราได้ประโยชน์ตนไม่ใช่จะต้องรบลูกเดียว มันไม่มีใครอยากรบ ไม่มีใครอยากเห็นคนเสียชีวิต ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือคนต่างชาติ แต่อธิปไตยดินแดนของไทย ประชาชนคนไทย ถ้าตนเป็นนายกฯอยู่จะมาถูกกลั่นแกล้ง มาถูกละเมิด หรือมาถูกลอบยิง เพราะฝ่ายผู้บริหารประเทศมีความขัดแย้งกัน โดยที่ประชาชนไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย ตนยอมไม่ได้อยู่แล้ว
เมื่อถามต่อว่าได้พูดกันหรือไม่ว่าสถานการณ์จะสิ้นสุดตรงไหน นายอนุทินกล่าวว่า ไม่ได้คุยเรื่องความขัดแย้งเป็นเรื่องของสองประเทศสิ่งที่ ประธานาธิบดีสหรัฐ หรือนายกฯ มาเลเซีย ต่างไม่ต้องการให้มีการสูญเสียชีวิต เป็นจุดเดียวกับพวกพวกเรา
เมื่อถามว่าที่ชายแดนทหารยังคงปฎิบัติหน้าที่ต่อไปโดยยังไม่มีกรอบเวลาใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อแต่มีกรอบเวลา ตอนนี้เราสู้รบ เราไม่สามารถที่จะไปบอกได้ว่าเราจะทำอะไร ทุกคนก็ต้องดำเนินการ สิ่งที่ยืนยันได้คือทุกอย่างเป็นไปภายใต้กฎหมายทั้งไทยและสากลไม่มีการละเมิดจากฝ่ายไทยแน่นอน เราสามารถยืนยันกับทุกประเทศได้คือเราไม่เคยละเมิดสัญญาที่เราลงไว้และไม่เคยรุกรานดินแดนของเพื่อนบ้าน
เมื่อถามว่าทหารมีเวลาพอที่จะยืดคืนสิ่งที่เสียไป นายอนุทิน กล่าวว่า ตนได้พูดคุยกับ ผบ.เหล่าทัพ และปลัดกระทรวงกลาโหม ทุกท่านมั่นใจและชัดเจน เราต่างสนับสนุนซึ่งกันและมีเป้าหมายเดียวกัน และนายโดนัลท์ ทรัมป์ไม่ได้ถามถึงการยุบสภาฯ ของประเทศไทย
เมื่อถามว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ บอกหรือไม่ว่าไปคุยกับกัมพูชาในวันไหน นายกฯ กล่าวว่า ในการคุย ตนได้บอกเขาว่าขอให้ไปบอกฝั่งโน้น เพราะเป็นผู้ละเมิดสัญญา
เมื่อถามอีกว่า ดูเหมือนกัมพูชาพร้อมหยุดยิง แต่ถ้าเราหยุดยิงในตอนนี้ ในขณะที่การสู้รบยังเผด็จศึกไม่จบ ยังมีเวลาอีกกี่วัน นายอนุทิน กล่าวว่า คำว่าสำเร็จหมายความว่าอย่างไร จะต้องมายิงคนอีกกี่คนนั้นไม่ได้ และตอนนี้เขาก็ยังไม่หยุดยิง
ขณะที่นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า ถือว่าการหยุดยิงเป็นกลยุทธ์
เมื่อถามว่า ประเมินหรือไม่ว่าทำไมนายโดนัลด์ ทรัมป์ เลือกที่จะคุยกับฝ่ายไทยก่อน นายกฯ กล่าวว่า ตนคิดว่าเขาได้คุยกับทางกัมพูชามาก่อนแล้ว เพราะดูท่าทางแล้วไม่ได้คุยกับฝ่ายไทยก่อน ซึ่งได้ข้อมูลผิดๆ มาว่า เราเป็นคนรุกราน ซึ่งเราใช้กองกำลังทางอากาศก็ดูเหมือนว่า เราเป็นฝ่ายรุกราน เพราะอีกฝ่ายไม่ได้ค้าน ซึ่งเราไม่ได้เป็นฝ่ายรุกรานแต่เป็นการตอบโต้
เมื่อถามว่า บรรยากาศการคุยท่าทีของสหรัฐฯ เชื่อเราหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ประเทศไทยเป็นประเทศอธิปไตย เขาต้องเชื่อเรา ผมไม่ได้พูดในฐานะนายอนุทิน แต่พูดในฐานะรัฐบาลไทย คำพูดของรัฐบาลไทยต้องได้รับความน่าเชื่อถือจากนานาชาติ ไม่เช่นนั้นเราจะยืนอยู่บนแผนที่โลกไม่ได้”


