ผู้ตรวจการแผ่นดิน ลุยสายใต้ใหม่ตรวจค้าปลีกนอมินี-แรงงานต่างด้าว ด้านตัวแทนตลาดฯยันมีมาตรการคุมเข้ม แต่รับอาจมีเล็ดลอดบ้าง หากพบส่งดำเนินคดีทันที หนุนเป็นโมเดลขยายผลตรวจทุกสตรีทฟู้ด
วันนี้ (2 ธ.ค.) นายทรงศัก สายเชื้อ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ลงพื้นที่ตลาดสายใต้เซนเตอร์ (สายใต้ใหม่) เขตตลิ่งชัน กทม.พร้อมประชุมผู้เกี่ยวข้องอาทิ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตตลิ่งชัน ผู้แทนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมการจัดหางาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานความมั่นคงที่ ช่วยแก้ไขปัญหากรณีมีการร้องเรียนว่าหน่วยงานของรัฐไม่ควบคุม ตรวจสอบ และบังคับใช้กฎหมายปล่อยให้มีการใช้แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายกว่า 700 ราย เช่น กลุ่มสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา ประกอบกิจการค้าปลีกด้วยการใช้ชื่อคนไทยหรือนอมินี เป็นผู้ขออนุญาตแทน ทำให้ได้รับผลกระทบด้านการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม รวมถึงมีการข่มขู่คุกคามผู้ค้าสัญชาติไทย
โดยในที่ประชุม น.ส.เกศจริน สามิภักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตตลิ่งชัน กล่าวว่าตลาดสายใต้ใหม่มีพื้นที่ 3.58 ไร่ มีนายประรัญชัย ศรีทอง เป็นผู้รับใบอนุญาตดำเนินกิจการตลาดรวม 11 ใบอนุญาต มีแผงค้าจำนวน 842 ล็อค
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบเมื่อวันที่ 3 ก.ย 68 หลังรับเรื่องร้องเรียน โดยร่วมกับกองทะเบียนจัดหางานกลาง และคุ้มครองคนหางาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในกรุงเทพมหานคร สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง 1 และสถานีตำรวจนครบาลตลิ่งชัน ทำการตรวจสอบพบว่ามีแผงค้าเปิดบริการ จำนวน 460 แผง มีบุคคลสัญชาติไทยเป็นเจ้าของทั้งหมด มีการจ้างแรงงานคนไทย จำนวน 340 คน และแรงงานต่างด้าว จำนวน 48 คน -แยกเป็นสัญชาติกัมพูชา 31 คน สัญชาติลาว 11 คน และสัญชาติเมียนมา 6 คน พบมีใบอนุญาตทำงานถูกต้องตามกฎหมายทุกคน และก่อนหน้านั้นในวันที่ 2 ก.ย.68สำนักงานฯได้ลงตรวจ ก็พบแรงงานต่างด้าวสัญชาติลาวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตเพียง1 คน และสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 7 ได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลตลิ่งชัน ส่วนมาตรการดำเนินการเรื่องแรงงานต่างด้าวของสำนักงานเขต จะจัดให้มีการลงทะเบียนเช่าแผงค้าเฉพาะบุคคลสัญชาติไทย ให้ผู้ลงทะเบียนเช่าแผงค้าทุกรายติดแสดงคิวอาร์โค้ดรับเงินบริเวณแผงค้า ให้ตรงกับชื่อผู้ลงทะเบียน ไม่ให้มีการเช่าช่วงแผงค้า จัดให้มีการตรวจตราแผงค้าให้ตรงกับผู้ลงทะเบียนเช่าเป็นประจำทุกวัน
ด้านนายเหรียญชัย อยู่สบาย ผู้แทนตลาดสายใต้เซนเตอร์ (สายใต้ใหม่) ยืนยันว่าทางตลาดมีมาตรการป้องกันคนต่างด้าวอยู่แล้วทั้งการจัดให้มีการลงทะเบียนหมุนเวียนล็อคทุกวัน การลงทะเบียนจองล็อคขายสินค้าต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย ไม่ให้มีการเช่าช่วงล็อคขายสินค้า หากผู้ค้าต้องการจะใช้แรงงานต่างด้าวเป็นลูกจ้างต้องมีใบอนุญาตและขอนุญาตจากทางตลาด
"ตลาดไม่สนับสนุนเรื่องอยู่แล้วเราถูกตรวจสอบมาตั้งแต่ยุคคสช.มีมาตรการป้องกันเกี่ยวกับคนต่างด้าว หรือเป็นนอมินีอย่างเข้มข้น ถ้าพบเรายกเลิกการเช่าแผงทันที และเราให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกครั้งที่ลงพื้นที่มาตรวจสอบ ยอมรับอาจมีเล็ดลอดบ้างแต่ถ้าพบก็จะจัดการทันที ส่วนจะให้ตรวจสอบลึกลงไปว่าชื่อผู้ลงทะเบียนเช่าแผงค้าตามคิวอาร์โค้ดรับเงินเป็นเจ้าของแผนตัวจริงหรือเป็นนอมินีให้คนต่างด้าวหรือไม่เป็นเรื่องทำได้ยาก แต่ก็ยังเชื่อว่าที่มีการร้องเรียนว่าร้านค้าในตลาดสายใต้มีแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายกว่า700 รายคิดแล้วคือเกือบ90% ของผู้ค้าทั้งหมด ไม่น่าจะใช่ มันไม่คุ้มกับที่เราเปิดมา 10 ปี"
นายเหรียญชัยกล่าวแล้วว่า สายใต้ใหม่ กล่าวและว่าอยากให้การตรวจสอบที่สายใต้ใหม่เป็นโมเดลที่ผู้เกี่ยวข้องใช้ตรวจสอบกับตลาดลักษณะนี้ในพื้นที่อื่นๆทั่วประเทศ เหมือนเป็นการกวาดบ้านให้บ้านเมืองของเราน่าอยู่ เนื่องจากสตรีทฟู้ดเป็นเสน่ห์และเป็นที่ชื่นชอบของทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ขณะที่ผู้แทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ที่ตำรวจได้รับแจ้งมีเฉพาะการร้องเรียนเรื่องการทะเลาะวิวาทการที่ผู้ค้าขายของตัดราคากัน ไม่มีเรื่องของการทำร้ายร่างกาย
ด้านนายทรงศัก กล่าวหลังการประชุมว่า การร้องเรียนครั้งนี้สะท้อนปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทยและความเชื่อมั่นของระบบราชการ จึงจำเป็นต้องเร่งรัดทุกหน่วยงานบูรณาการทำงานร่วมกันอย่างเข้มแข็ง โดยหลังการประชุมได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้จัดตั้งศูนย์ประสานงานและรับแจ้งเบาะแส จัดทำแผนการตรวจสอบแรงงานต่างด้าวและธุรกิจที่เสี่ยงเป็นนอมินีอย่างต่อเนื่อง ทั้งในตลาดสายใต้เซ็นเตอร์ พื้นที่ของสำนักงานเขตต่าง ๆ ในลักษณะเดียวกัน พื้นที่เศรษฐกิจ แหล่งท่องเที่ยว ในภาพรวมของประเทศ พร้อมจัดทำมาตรการเชิงรุกเพื่อป้องกันปัญหาซ้ำซ้อน รวมถึงให้ความเป็นธรรมกับผู้ค้าสัญชาติไทยที่ทำธุรกิจอย่างสุจริต
อย่างไรก็ตามมติที่ประชุมมีความเห็นตรงกันถึงความจำเป็นในการดำเนินการสองด้านควบคู่กัน ได้แก่ มาตรการเร่งด่วน จัดตั้งศูนย์ประสานงานและรับแจ้งเบาะแส บูรณาการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบแรงงานต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตทำงาน ตรวจสอบร้านค้าเสี่ยงเป็นนอมินีในตลาดสายใต้เซ็นเตอร์ พื้นที่ของสำนักงานเขตต่าง ๆ ในลักษณะเดียวกัน พื้นที่เศรษฐกิจ แหล่งท่องเที่ยว ทั่วประเทศ กำชับผู้ประกอบการตลาดให้ยืนยันตัวตนผู้เช่าล็อค ห้ามเช่าช่วง และให้คิวอาร์โค้ดรับเงินสอดคล้องกับผู้ลงทะเบียนจริง ระยะยาว พัฒนาระบบตรวจสอบนิติบุคคลที่เข้าข่ายนอมินีร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จัดทำฐานข้อมูลแรงงานต่างด้าวและผู้ประกอบการเสี่ยงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สร้างกลไกเฝ้าระวังร่วมระหว่างฝ่ายปกครอง–ตำรวจ–ตรวจคนเข้าเมือง–สำนักงานเขต กำหนดแผนตรวจประจำปีโดยเน้นตลาดและพื้นที่เศรษฐกิจที่มีแรงงานต่างด้าวหนาแน่น
“การแก้ไขปัญหานอมินีและแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเป็นเรื่องที่กระทบทั้งเศรษฐกิจและความมั่นคง การทำงานจะต้องมีประสิทธิภาพ โปร่งใส สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนว่ากฎหมายถูกบังคับใช้อย่างเท่าเทียม ผู้ตรวจการแผ่นดินจะติดตามความคืบหน้าของมาตรการต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด และรายงานต่อสาธารณชนเพื่อความโปร่งใสและสร้างความมั่นใจว่าประชาชนจะได้รับความเป็นธรรมอย่างแท้จริง”


