กมธ.สิ่งแวดล้อม วุฒิสภา หวด กสทช.-บริษัทค่ายมือถือยักษ์ใหญ่ ตั้งเสาสัญญาณรุกป่า เอื้อสแกมเมอร์ ขู่ต้องใช้ยาแรง ทำผิดยึดทรัพย์ไม่ใช่แค่รื้อถอนเสาเท่านั้น
วันที่ 11 พ.ย.นายชีวะภาพ ชีวะธรรม สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะกรรมาธิการฯ ว่า วันนี้จะมีพิจารณาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นเสาสัญญาณโทรศัพท์ ที่เอื้อประโยชน์แก่กลุ่มสแกมเมอร์ตามแนวชายแดนระหว่างสองประเทศ คือ เมียนมา และกัมพูชา คณะกรรมาธิการฯ มีข้อมูลที่ได้รับแจ้งมาว่า เสาเหล่านี้ถูกติดตั้งอยู่ในเขตป่าที่ไม่ได้รับอนุญาต ประเด็นดังกล่าวถือเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่นายกรัฐมนตรีได้เร่งรัดให้มีการดำเนินการ โดยคณะกรรมาธิการฯ เห็นว่ามีสองประเด็นหลักที่ต้องดำเนินการคือ เรื่องสัญญาณโทรศัพท์ (เสาอากาศ) และเรื่องบัญชีม้า ซึ่งเรื่องบัญชีม้านั้นเป็นอีกประเด็นที่อยู่นอกเหนือขอบเขตความรับผิดชอบของคณะกรรมาธิการฯ
นายชีวะภาพ กล่าวอีกว่า คณะกรรมาธิการฯ เชื่อว่าหากสามารถหยุดยั้งปัญหาเสาสัญญาณเหล่านี้ได้ ขบวนการสแกมเมอร์ก็จะลดลง การดำเนินการกับเสาของผู้ให้บริการที่ผ่านมานั้น ทำไม่สุด จึงจำเป็นต้องมีการบังคับใช้กฎหมายให้ถึงที่สุด หากมีการใช้ยาแรงบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ผู้ให้บริการเหล่านี้ก็จะเกรงกลัวกฎหมาย ควรดำเนินการให้ถึงขั้นที่เกี่ยวข้องกับมูลฐานความผิดด้านการยึดทรัพย์และการฟอกเงิน เนื่องจากทรัพย์สินที่ได้มาจากการตั้งเสาในพื้นที่ป่าไม้โดยมิชอบนั้น เข้าข่ายเป็นเรื่องของการฟอกเงิน
ประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การทรัพยากรธรรมชาติ ยังระบุต่ออีกว่า การตั้งเสาในเขตป่าไม้และเขตป่าอนุรักษ์นั้นจำเป็นต้องขออนุญาตอย่างถูกต้อง ตัวอย่างเช่น ชายแดนฝั่งกัมพูชา ตั้งแต่จังหวัดอุบลราชธานี สุรินทร์ ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ สระแก้ว ไปจนถึงจังหวัดตราด ส่วนชายแดนฝั่งเมียนมา ทางคณะกรรมาธิการฯ จะขอตรวจสอบพิกัดเสาในทุกจุด เริ่มตั้งแต่จังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี ตาก แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และเชียงราย ล้วนอยู่ในเขตป่าไม้ ป่าสงวน และป่าอนุรักษ์ ซึ่งอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การดำเนินการที่ถูกต้องไม่ควรจำกัดอยู่แค่การรื้อถอนเสาเท่านั้น แต่ต้องมีการดำเนินคดีทางด้านป่าไม้และอุทยานด้วย
นายชีวะภาพ กล่าวด้วยว่า ในการประชุม คณะกรรมาธิการฯ ได้เชิญ กสทช. ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแล เพื่อขอพิกัดทางภูมิศาสตร์ทั้งหมดของเสาสัญญาณในเขตชายแดนทั้งเมียนมาและกัมพูชา นอกจากนี้ ยังได้เชิญกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมา เพื่อชี้แจงจำนวนเสาที่ได้รับอนุญาต หากพบเสาที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาตและเอื้อประโยชน์ต่อสแกมเมอร์ จะต้องถูกรื้อถอนและถูกดำเนินคดีทั้งทางอาญาและทางแพ่ง ซึ่งอาจนำไปสู่การยึดทรัพย์ กสทช. ในฐานะผู้กำกับดูแลควรต้องทราบอยู่แล้วว่าการตั้งเสาแต่ละต้นจะต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด


