xs
xsm
sm
md
lg

“ไอติม” ปัดใช้ กมธ.คุมแก้ รธน.ตามธงพรรคส้ม ย้ำ พยายามหาฉันทมติ เชื่อ 12 พ.ย.ได้ข้อสรุป

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“พริษฐ์” ปัด ปชน.ใช้กรรมาธิการ คุมกลไกแก้ รธน.ให้เป็นไปตามธง ย้ำ พยายามหาฉันทามติ หลังมีข้อเสนอหลายแนวทาง เชื่อ 12 พ.ย.นี้ ได้ข้อสรุป

วันนี้ (10 พ.ย.) ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณารัฐธรรมนูญ (แก้ไขเพิ่มเติม) รัฐสภา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการประชุม กมธ.แก้รัฐธรรมนูญที่สะดุดซึ่งถูกตั้งข้อสังเกตว่า พรรคประชาชนพยายามควบคุมให้เป็นไไปตามโมเดลที่เสนอ ว่า ไม่ได้เป็นธงแบบนั้น แต่แน่นอนว่าแต่ละฝ่ายมีความเห็นว่าข้อดีของร่างแก้รัฐธรรมนูญที่เสนอเป็นอย่างไร ยิ่งพอรัฐสภามีมติให้ร่างของพรรคประชาชนเป็นร่างหลัก ทำให้ยิ่งต้องมีมีหน้าที่อธิบาย หลักการและเหตุตผลให้กมธ.เห็นคล้อยตาม ทั้งนี้ ตนพูดตั้งแต่วันแรกของการประชุม กมธ. ในฐานะผู้เสนอร่างแก้รัฐธรรมนูญ ว่า ตนเข้าใจดีว่าแต่ละคนมีมุมมองที่ต่างกัน สิ่งที่อยากให้ กมธ.แสวงหา คือ ฉันทามติของทุกฝ่าย เพราะรู้ว่ากรณีผ่านวาระสามไปได้ ไม่ใช่จะใช้เสียงข้างมากของรัฐ แต่ต้องได้ 20% ของฝ่ายค้าน และ 1 ใน 3 ของ สว. ด้วย และแม้ผ่านวาระสามไปได้ต้องได้รับความเห็นชอบจากประชาชนด้วย ดังนั้น ร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขที่จะคลอดออกมาต้องตอบ 2 โจทย์คู่ขนาน คือ ได้ฉันทามติของรัฐสภาระดับหนึ่ง และตอบโจทย์เพียงพอที่ประชาชนจะลงคะแนนเห็นชอบตอนประชามติด้วย

“การทำงานของผมที่ผ่านมาไม่ได้เอาความเห็นของตนเองเป็นใหญ่ แต่พยายามแสวงหาฉันทามติใน กมธ. ในประเด็นที่เห็นต่างกัน หากหาข้อสรุปร่วมกันได้โดยไม่ลงมติได้ก็ดี แต่หากจำเป็นต้องลงมติ เพราะมีประเด็นที่ต้องลงมติเพื่อหยั่งเสียงว่าแต่ละฝ่ายมีมุมมองเห็นต่างกันมีผู้สนับสนุนเท่าไร” นายพริษฐ์ กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีประเด็นที่เป็นข้อเห็นต่างระหว่างมีผู้ร่างรัฐธรรมนูญอย่างเดียว โดยไม่มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) นายพริษฐ์ กล่าวว่า ร่างแก้รัฐธรรมนูญของพรรคประชาชนที่เป็นฉบับหลัก เป็นผู้ร่างชั้นเดียว คือ กมธ.ยกร่างรัฐธรมนูญมาจากการเลือกตั้งทางอ้อมให้ประชาชนคัดมาก่อน 70 คน จากนั้นให้รัฐสภาคัดเหลือ 35 คน โดยใช้วิธีการเสนอชื่อตามสัดส่วน ให้ สส.และ สว. รวมกลุ่ม 20 คน เสนอผู้ร่าง 1 คน เพื่อป้องกันไม่ให้ใช้เสียงข้างมากลากไป ส่วนอีกกลไกคู่ขนาน คือ สภาที่ปรึกษาการยกร่างรัฐธรรมนูญ ให้มาจากการเลือกตั้งทางตรง เพราะเห็นว่าคำวินจิฉัยศาลรัฐธรรมนูญห้ามเฉพาะประชาชนเลือกผู้ร่างโดยตรง แต่สภาที่ปรึกษาไม่มีอำนาจในการทำเนื้อหา จึงสามารถมาจากการเลือกตั้งโดยตรงได้ ทั้งนี้โมเดลดังกล่าวเป็นโมเดลคู่ขนานที่เป็นไปตามข้อจำกัดของคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ดี ยอมรับว่า มีมุมมองที่แตกต่างกัน บางฝ่ายเห็นด้วย กับ กมธ.ชั้นเดียว แต่ไม่เห็นด้วยกับการเลือกตั้งทางอ้อม อีกฝ่ายเห็นว่าควรมี สสร. แต่งตั้งจากรัฐสภาทั้งนี้ที่ประชุมได้ถกกันหลายความเห็นว่ามีข้อดีข้อเสียต่างกัน

เมื่อถามว่า เหตุผลที่สัปดาห์ที่ผ่านมาลงมติไม่ได้ เพราะแต่ละฝ่ายยืนยันความเห็นคนละฝั่งหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ไม่มีเรื่องอะไรที่ลงมติไม่ได้ ที่ผ่านมา พยายามมองว่าอะไรที่ตรงกัน และหากได้ฉันทามติจะเดินหน้าได้โดยไม่ลงมติ แต่หากจำเป็นต้องลงมติ เหมือนสัปดาห์ที่ผ่านมาต้องทำเพื่อให้รู้ว่าแต่ละทางเลือกมีผู้ที่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยมากน้อยแค่ไหน อย่างไรก็ดีตนเชื่อว่าในการประชุมวันที่ 12 พ.ย. นี้ ประเด็นที่เห็นต่างกันจะหาข้อสรุปได้ในทางใดทางหนึ่ง

เมื่อถามว่า กรณีที่โมเดลของผู้ร่างรัฐธรรมนูญเสี่ยงขัดต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ปรับหรือลดทอนหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า มุมหนึ่งต้องยืนยันว่าสิ่งที่เสนอนั้นไม่ขัดแต่อีกมุมเข้าใจว่ามีความกังวล ดังนั้น จึงเป็นความพยายามทำความเข้าใจว่า ฝ่ายที่กังวลนั้นกังวลเรื่องใด สามารถคลายข้อกังวลได้หรือไม่ หากคลายกังวลไม่ได้จะปรับร่างรัฐธรรมนูญเป็นแบบไหนที่ยังคงหลักการที่ยึดถือและคลายกังวลด้วย

“เป็นความพยายามหาฉันทามติในชั้นกรรมาธิการ คือ สิ่งที่เราต้องการบรรลุให้ได้มากที่สุด และทำให้เป้าหมายการทำงานเสร็จภายในเดือน พ.ย.นี้” นายพริษฐ์ กล่าว

เมื่อถามว่า ขณะนี้โมเดลของพรรคประชาชนได้แนวร่วมมากน้อยแค่ไหน นายพริษฐ์ กล่าวว่า หากจะสรุปเวลานี้คงยาก เพราะแต่ละคนอภิปรายประเด็นที่หลากหลาย มีบางประเด็นที่ กมธ.เห็นด้วย บางประเด็นไม่เห็นด้วย ดังนั้น หน้าที่ของคณะทำงานพยายามดูว่ามีประเด็นอะไรบ้างที่คุยกัน ตนเชื่อว่า ใกล้ได้ข้อสรุปแล้ว โดยวันที่ 12 พ.ย. นี้ จะได้ข้อสรุปที่ยังเห็นต่างกัน ไม่ว่าข้อสรุปเป็นเช่นไรทุกฝ่ายพร้อมเดินหน้า

เมื่อถามย้ำว่า จะมีทางสายกลางที่ไม่มีถือธงนำเฉพาะของพรรคประชาชน หรือฝั่งใดอย่างเดียวหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า เป้าหมายคือพยายามหาฉันทามติจากทุกฝ่าย ทุกฝ่ายต้องพร้อมว่า มีหลักการสำคัญของตนเองจะหาจุดกึ่งกลางที่เป็นที่ยอมรับขอทุกฝ่าย ซึ่ง กมธ.คาดหวังว่า เมื่อร่างแก้รัฐธรรมนูญที่รับมา ทั้งของพรรคประชาชน และพรรคภูมิใจไทย แต่พรรคเพื่อไทย มีสิทธิเสนอเช่นกัน ดังนั้น ต้องเอาโมเดลมาผสมในสิ่งที่รับได้ในเชิงหลักการและผ่านความเห็นชอบของประชาชน


กำลังโหลดความคิดเห็น