"อนุทิน" ถึงไทย อารมณ์ดีโพสต์เพลง "บ้านเรา" ท่อน "บุญนำพา กลับมาถึงถิ่น ทรุดกายลงจูบดิน ไม่ถวิลอายใคร" ร่ายยาวผลผลสำเร็จเวทีอาเซียน-เอเปค ปลื้มไทยคืนจอเรดาร์โลก เผย "สีจิ้นผิง" พอใจไทยไม่เปิดกาสิโน พร้อมสนับสนุนจีนเที่ยวไทย ลั่นทุกเจรจายึดความถูกต้องบนหลักกฎหมายไทย ซิ่งเบนท์ลีย์ ทะเบียน 888 กลับบ้าน ขณะภรรยายิ้มแย้มนั่งแยกอีกคัน
วันที่ 1 พ.ย. เมื่อเวลา 21.00 น.ที่อากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางกลับจากการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 32 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ในช่วงสัปดาห์การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค (APEC Economic Leaders’ Week: AELW) ระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม - 1 พฤศจิกายน 2568 ณ เมืองคยองจู สาธารณรัฐเกาหลี โดยทันทีที่เครื่องลงจอด นายกรัฐมนตรีได้โพสต์เนื้อเพลง ผ่าน Facebook ส่วนตัวท่อนหนึ่งว่า "บุญนำพา กลับมาถึงถิ่น ทรุดกายลงจูบดิน ไม่ถวิลอายใคร" พร้อมกับใส่ทำนองเพลง "บ้านเรา" ซึ่งขับร้องโดย ตู่นันทิดา แก้วบัวสาย
จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยมีนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ร่วมด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ตนและคณะได้เดินทางกลับมาถึงกรุงเทพฯ จากภารกิจต่อเนื่องคือการไปร่วมประชุมอาเซียนซัมมิต ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย และการประชุมผู้นำความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเปค ที่เกาหลีใต้ ซึ่งใช้เวลาเกือบ 2 สัปดาห์ เป็นการประชุมที่สำคัญของโลก การที่ได้ไปประชุมต้องถือว่ามีความสำคัญและก่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศไทยเป็นอันมาก จึงถือโอกาสนี้รายงานผลการประชุมทั้ง 2 การประชุม ให้ประชาชนได้รับทราบ ในฐานะที่พวกเราสำนึกอยู่เสมอว่าพี่น้องประชาชนคือผู้บังคับบัญชา ซึ่งผู้ที่ได้ร่วมเดินทางไปกับตนมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่เดินทางกลับมาก่อน
นายกฯ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ ตนได้มีโอกาสพบกับผู้นำแทบทุกประเทศ มีลักษณะการหารือแบบทวิภาคี หารือเต็มรูปแบบ และหารือแบบกึ่งทางการ ถือเป็นประโยชน์และเป็นโอกาสที่ดี สิ่งที่น่าภาคภูมิใจคือก่อนเริ่มการประชุมหรือแม้ในที่ประชุมใหญ่ ผู้นำทุกประเทศได้กล่าวถวายความอาลัยต่อการสวรรคตของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง แล้วทุกท่านได้กล่าวแสดงความชื่นชมต่อพระราชกรณียกิจและพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ท่านทรงมีต่อพระสกนิกรชาวไทย ซึ่งถือเป็นการยอมรับและชื่นชมเคารพต่อพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน
นายอนุทิน กล่าวว่า การเดินทางไปครั้งนี้จากการที่ได้ร่วมประชุม 2 วาระติดต่อกัน โชคดี ที่ผู้นำอาเซียน และผู้นำเอเปค โดยเวทีเอเปคได้พบกับผู้นำที่ไกลโพ้นมากขึ้น และการที่ได้ไปถือว่าเราได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี จุดประสงค์คือไปเปิดตลาดให้กับประเทศไทย เราเอาของไปขาย ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเกษตร การส่งเสริมการท่องเที่ยว การเพิ่มโควตาแรงงาน โดยขอให้เขารับแรงงานไทยที่มีฝีมือไปทำงานเพิ่มมากขึ้น การชักชวนให้มาลงทุนด้านเทคโนโลยี ในธุรกิจใหม่ๆ ซึ่งทุกประเทศให้การตอบรับเป็นอย่างดี
นอกจากนี้เรายังหาศักยภาพให้เยาวชนไทย ในเรื่องการหาโอกาสในการศึกษาให้กับเยาวชนไทย ผู้ปกครองจะสามารถส่งลูกหลานไปรับการศึกษาหรือแม้กระทั่งการไปฝึกอบรมทำงานกับองค์กรระดับประเทศหรือบริษัทใหญ่ๆ ในต่างประเทศ ที่จะเสริมทักษะให้กับเยาวชนและผู้ที่มีความรู้ประสบการณ์ในต่างประเทศ ซึ่งในทุกวงประชุมเราได้เลือกสิ่งที่เขาสนใจ และให้ความสนใจกับประเทศไทย นั่นหมายความว่าเมื่อกลับมาแล้วเราจะมีทีมที่ไปเจรจาต่อ เพื่อให้ได้ผล ซึ่งเราจะต้องทำความมั่นใจอย่างเช่นการไปขายสินค้าการเกษตร จะสามารถขายได้ในราคาที่ดีขึ้นแรงงานไทย นักท่องเที่ยวจะมาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น
นายกฯ กล่าวว่า ภารกิจครั้งนี้ถือว่าเป็นการนำประเทศไทยกลับมาสู่เวทีโลกอย่างชัดเจนอีกครั้ง โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ใช้คำพูดกับตน ซึ่งทำให้ตนรู้สึกดีใจโดยบอกว่า นายกฯ ตอนนี้ประเทศไทยของเรากลับเข้ามาสู่จอเรดาร์อีกแล้ว การกลับเข้ามาสู่จอเรดาร์ของโลกถือว่า เป็นนิมิตรหมายที่ดี เพราะอะไรก็ตามที่ปรากฏอยู่ในจอเรดาร์ เราจะได้รับความสนใจ และให้ความสำคัญ ซึ่งเราจะต้องระมัดระวังตัวเองและทำตัวเราเองให้มีความเข้มแข็งตลอดเวลา
ทั้งนี้ ตนไม่ใช่แค่พบเฉพาะผู้นำประเทศ แต่ยังได้พบผู้นำองค์กรระหว่างประเทศด้วย มีทั้งระดับ President ของ World Bank และภาคเอกชน ซึ่งได้ใช้โอกาสนี้ยังเต็มที่ในการสร้างความมั่นใจให้กับพวกเขา โดยเฉพาะการที่เขาจะเข้ามาลงทุนขยายฐานการผลิตในประเทศไทย ซึ่งตนได้เน้นย้ำถึงศักยภาพต่างๆ ของไทย และการอำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจ ตรงนี้เราได้ให้ความมั่นใจว่าพร้อมที่จะรับฟังข้อเสนอต่างๆ หากเขาตัดสินใจที่จะมาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งในปีหน้านี้ประเทศไทยเราจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม World Bank IMF ที่กรุงเทพฯ ซึ่งจะทำให้เราได้รับโอกาสอีกมากมายจากต่างชาติเช่นกัน ซึ่งทางการค้าตอนนี้ประเทศไทยเน้น 4 เรื่องหลักที่จะวางตำแหน่งให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางหรือฮับในเรื่องความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งต้องเตรียมในเรื่องของการขนส่งโลจิสติกส์ เทคโนโลยีด้านการสื่อสาร Data Center เศรษฐกิจสีเขียว เพื่อความยั่งยืน ซึ่งจะสอดคล้องกับปฏิญญาสหประชาชาติว่าด้วยการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งประเทศไทยเราได้เริ่มดำเนินการตามกฎและหลักเกณฑ์นี้มาระยะหนึ่งแล้ว
นายกฯ กล่าวว่า จากการพบกับประธานาธิบดีเกาหลีใต้ได้เจรจาให้เพิ่มแรงงานถูกกฎหมาย เปิดโอกาสให้คนไทยได้ไปทำงาน ในจำนวนที่มากขึ้น และขอให้สร้างความมั่นใจว่าแรงงานไทยจะได้รับการคุ้มครองและรับสิทธิ์ตามกฎหมาย มีศักดิ์ศรี มีความมั่นคงในอาชีพ ไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ หากมีเหตุการณ์วิกฤตเกิดขึ้น เขาอาจไม่ได้รับการดูแลจะทำให้เสียโอกาส หรือบางครั้งเสียชีวิต ซึ่งไม่ควรจะให้เกิดขึ้นในโลกยุคปัจจุบันนี้ โดยท่านได้บอกว่าจริงๆ แล้วประเทศเกาหลีใต้มีความยินดีที่จะรับแรงงานไทยไปทำงานเพราะยังมีการสร้างงานอีกเยอะซึ่งที่ผ่านมาเกิดความผิดพลาดเรื่องการสื่อสาร เช่น มีการวิพากษ์วิจารณ์นักท่องเที่ยวไทยไปเกาหลีเยอะมาก บางครั้งถูกปฏิเสธเข้าเมือง โดยประธานาธิบดีเกาหลีใต้ได้ตอบเอง เวลากรอกวีซ่า บางทีให้คนกรอกให้ว่าไปเที่ยว ขณะที่ภาษาไม่แข็งแรงทั้งสองฝ่ายตอบคนละอย่าง จึงใช้มาตรการส่งคืน แต่ถ้าตอบตรงไปตรงมาจะไม่มีปัญหา ถ้าไปเที่ยวก็บอกไปเที่ยว ฉะนั้นการกรอกข้อมูลต้องกรอกให้ถูก โดยปัญหาดูแล้วเล็กน้อย ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้นำประเทศ
ส่วนการพบปะกับนายกรัฐมนตรีแคนาดาได้พูดถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวซึ่งกันและกัน ซึ่งตอนนี้สายการบินแคนาดาได้เปิดเพิ่มในกรุงเทพฯ ทำให้บินตรงถึงกัน และยังพูดถึงฮับความมั่นคงทางอาหาร โดยเฉพาะอาหารที่เขาผลิตเองไม่ได้เขาก็สนใจที่จะซื้ออาหาร พืชผลทางการเกษตร อาหารแปรรูปจากประเทศไทย ส่วนเรื่องการลงทุนด้านสาธารณูปโภคต่างๆ ตนได้คุยกับนายกรัฐมนตรีแคนาดาว่าประเทศของเรายังมีการลงทุนในระบบขนส่ง ซึ่งประเทศแคนาดามีความเป็นเลิศ ในการผลิตหัวรถจักร รถไฟฟ้า ซึ่งประเทศไทยได้ใช้ผลิตภัณฑ์แคนาดามาพอสมควร หากเราสามารถที่ต่างตอบแทนได้มากขึ้น ก็จะเป็นประโยชน์ทั้ง 2 ประเทศและเป็นการกระชับความสัมพันธ์ ทำให้เราสามารถดำรงตนในโลกใบนี้ได้ ด้วยการมีดุลความสัมพันธ์ของหลายประเทศ นอกจากนี้ยังมีการเจรจาอยู่หลายประเทศสิงคโปร์ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ด้วย
โดยเรื่องอาหาร หากมีกรณีวิกฤตใดๆ ขึ้นมา อย่าคิดว่ามันไม่เกิด ซึ่งประเทศไทยเราเคยเจอมาแล้วสมัยโควิด อยู่ดีๆ เราไม่มีชุดพีพีอี ไม่มีหน้ากากอนามัย แม้กระทั่งยาแก้หวัดก็ขาดแคลน หากเราไม่มี Security พวกนี้เอาไว้ จะทำให้เกิดความเดือดร้อนกับประชาชนได้ เราต้องมองจุดนี้เป็นโอกาส ที่สำคัญถ้าขาดอาหารจะทำให้เป็นปัญหาในทุก ๆด้าน
สำหรับประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย บรูไน ได้มีการตกลงเรื่องการทบทวนเอฟทีเอ เพื่อลดอุปสรรคทางการค้า พร้อมหารือเรื่องความร่วมมือด้านความมั่นคงทางอาหารฮาลาล การเกษตรและการท่องเที่ยว นอกจากนี้ทราบว่าทางบรูไน ลงทุนในเรื่องแท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติ ซึ่งประเทศไทยสามารถเป็นฐานการผลิตแท่นขุดเจาะเหล่านี้ได้ ใส่เรือใส่แพขนานย่นไปถึงจุดขุดเจาะก๊าซธรรมชาติ ให้เขาลดต้นทุนการผลิต ซึ่งเขาให้ความสนใจ ที่จะเข้ามาดู พร้อมกันนี้ได้ชักชวนภาคเอกชนของเขาให้เข้ามาลงทุนด้านต่างๆ ในไทยด้วย
ขอยืนยันว่าในการเจรจาของเราทุกเรื่องยืนบนหลักการความถูกต้องและผลประโยชน์ของประเทศไทยเป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจหรือความมั่นคง ในที่ประชุมอาเซียน ตนไม่ได้แถลงเป็นทางการได้มีการลงนามสันติภาพไทย-กัมพูชาที่ระบุเงื่อนไขที่ประเทศไทยต้องการอย่างชัดเจนมีการแถลงการณ์ร่วมประกอบการตกลงการค้าต่างตอบแทนกับสหรัฐอเมริกา การเจรจาภาษีสนับสนุนการค้าการลงทุนของประเทศ ง
รวมถึงการบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการพัฒนาความหลากหลายของระบบห่วงโซ่อุปทานของแร่ธาตุสำคัญระดับโลก ที่เป็นประเด็นอยู่คือแรร์เอิร์ธและการส่งเสริมการลงทุนสหรัฐ ซึ่งจะประกอบไปด้วยการศึกษาการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ที่เป็นจุดเริ่มต้นของโอกาสในการเปิดประตูบ้านใหม่ๆ ทางเศรษฐกิจซึ่งทุกอย่างจะต้องอยู่ภายใต้กฎหมายที่เคร่งครัดของประเทศไทย ไม่ใช่เป็นการให้สัมปทานหรือเป็นการเอาแร่ไปขาย อย่างนี้สามารถทำกี่ประเทศก็ได้ เราไม่ต้องการเอาหินมาขายเป็นหิน เราต้องการเอาหินมาขายเป็นทอง ฉะนั้นเราต้องมีองค์ความรู้ มีเทคโนโลยี ในการที่จะแปลงสภาพแปรรูป แร่ธาตุเหล่านี้ให้มีมูลค่าสูง จึงขอทำความเข้าใจชัดเจนกับประชาชนที่มีความกังวลในเรื่องนี้ไม่ใช่เอ็กซ์คลูซีฟไม่ได้ทำคนใดคนหนึ่งเท่านั้นเราเปิดโอกาสทำกับทุกประเทศได้ถ้าประเทศไหนมีความสนใจ
เรื่องของภูมิศาสตร์ การรักษาบาลานซ์กับชาติมหาอำนาจ ในการเป็นประเทศไทย ตนได้หารือกับประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งได้มีความร่วมมือตามที่รายงานไป และมีโอกาสพบในรูปแบบทวิภาคีกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งทุกอย่างก็เป็นไปได้ด้วยดี ประเทศไทยเรา สามารถที่จะใช้ความเป็นประเทศไทยในการสร้างภูมิรัฐศาสตร์ที่มีความแข็งแรงให้กับประเทศไทยของเรา เพราะเราเจอทั้งสหรัฐอเมริกา และจีน เรามีความร่วมมือและความสัมพันธ์ที่ดีกับแคนาดา เม็กซิโก ชิลี ในเอเปค ซึ่งเราได้พูดคุยกับทั้งในรูปแบบเป็นทางการ และไม่เป็นทางการ เพราะมีเวลามากพอที่จะพูดคุยกับผู้นำทุกประเทศได้ และมีความสัมพันธ์ที่ดีเป็นอย่างยิ่ง
สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราอยากให้พี่น้องประชาชนมีความมั่นใจว่า ประเทศไทยยังไม่ถึงจุดทางตันหรือจุดอับใดๆ ทั้งสิ้น เพียงแต่วันนี้เราอยู่เฉยๆ และหวังว่าคนจะวิ่งเข้ามานั้นไม่มี มีแต่เราต้องวิ่งออกไป เพื่อไปบอกว่าเรามีดีอะไรบ้าง และรักษาความสัมพันธ์ให้ดีกับทุกประเทศ ให้มีทางออก มีทางเลือก และไม่ทำให้ประเทศเสียศักดิ์ศรี ทำให้เขาเห็นว่า เราอยู่ในประชาคมเดียวกับเขา และให้เกิดผลประโยชน์กับตัวเขาเองและตัวเราด้วย
ทั้งนี้ เราเข้าใจดีว่า ไม่มีใครอยากคบกับประเทศใดที่ไม่สามารถสร้างประโยชน์อะไรให้กับเขาได้ ดังนั้นเราจึงต้องนำเสนอให้เขาเห็นว่าคบกับเราแล้วจะได้ประโยชน์อย่างไร และประชาชนของเขาได้ประโยชน์อะไร
ส่วนประเด็นด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เราบาลานซ์ความสําคัญกับประเทศมหาอํานาจนั้น ตนได้หารือกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา รวมถึงประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ยืนยันว่าการประชุมเอเปคและการประชุมอาเซียน เราจะสร้างภูมิรัฐศาสตร์ที่แข็งแรงให้กับประเทศ เราเจอทั้งสหรัฐอเมริกาและจีนเรามีความร่วมมือที่ดีกับ แคนาดา เม็กซิโก ชิลี เปรู ซึ่งตนใช้เวลาในการพูดคุย กับผู้นําทุกประเทศและได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งมิตรใกล้และมิตรไกล แม้กระทั่งประเทศปาปัวนิวกินี ซึ่งในเดือนหน้าจะเดินทางเข้ามาเปิดสถานทูตในประเทศไทย
นายอนุทินยังย้ำว่าประธานาธิบดีสีจิ้นผิงให้ความสําคัญ และให้เวลาในการหารือทวิภาคีกับประเทศไทย ท่านยืนยันหลายครั้งว่าตอนนี้ประเทศจีนมีความพร้อมในการเสด็จเยือนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินี ทำให้ความสัมพันธ์ทางการทูต 50 ปีที่แน่นแฟ้นมากขึ้น
นอกจากนี้ยังได้มีการลงนาม อาเซียน-จีน 3.0 ที่เราจะยืนยันให้จีนได้มั่นใจว่าไทยจะไม่มีการเปิดกาสิโนหรือทําให้การพนันเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย ซึ่งทุกคนในที่นี้ได้เห็นปฏิกิริยาตอบสนองของประธานาธิบดีที่มีความพึงพอใจ ยืนยันว่าประเทศจีนไม่สามารถเข้ามาแทรกแซงนโยบายของไทยได้ แต่ขณะเดียวกันหากจีนพบว่านโยบายของไทยไม่ตอบสนองก็สามารถสั่งการให้คนของเขาไม่มาประเทศเรา ดังนั้นเมื่อประเทศของเราไม่มีข้อกังวลเรื่องคาสิโนจึงมีการสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวกลับมาท่องเที่ยวยังประเทศไทย จึงเป็นการเคลียร์ความกังวลในเรื่อง และถือเป็นเหตุการณ์มงคลยิ่งสําหรับทั้งสอง เชื่อว่า ความสัมพันธ์และการท่องเที่ยวจะกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง เสร็จสิ้นการแถลงข่าวนายอนุทิน ได้ขับรถส่วนตัวยี่ห้อ เบนลี่ สีขาว ทะเบียน วธ 888 โดยมีนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นั่งข้างนั่งไปด้วย
ขณะที่นางสาวธนนนท์ นิรามิษ ภรรยา ได้แยกไปขึ้นรถ Alphard โดยก่อนกลับได้เปิดกระจก ทักทาย สื่อมวลชนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม


