xs
xsm
sm
md
lg

"อนุทิน" คุยทวิภาคีนายกฯ แคนาดา สวนต่อสัมพันธ์ 65 ปี ขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจ-ภาคประชาชน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายกฯ หารือทวิภาคีนายกฯ แคนาดา มุ่งเสริมสร้างความสัมพันธ์ครบรอบ 65 ปี พร้อมขยายความร่วมมือเศรษฐกิจ ความสัมพันธ์ระหว่างประชาชน


วันนี้ (วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม 2568) เวลา 18.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นเมืองคยองจู ซึ่งเร็วกว่ากรุงเทพฯ 2 ชั่วโมง) ณ โรงแรม Commodore Gyeongju เมืองคยองจู สาธารณรัฐเกาหลี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หารือทวิภาคีกับ นายมาร์ก คาร์นีย์ (The Right Honourable Mark Carney) นายกรัฐมนตรีแคนาดา ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญ ดังนี้

ในโอกาสแรก นายกรัฐมนตรีแคนาดาได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่ผ่านมา และขอให้สถานการณ์ระหว่างไทย กัมพูชาดีขึ้นโดยเร็ว

ด้านความสัมพันธ์ไทย-แคนาดา นายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีแคนาดาต่างยินดีที่ได้พบหารือระหว่างกันเป็นครั้งแรก และเห็นพ้องว่า จะร่วมมือส่งเสริมความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยในปีหน้าจะครบรอบ 65 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน


โอกาสนี้ ไทยได้ชื่นชมบทบาทการเป็นประธาน G7 ของแคนาดา โดยเฉพาะในประเด็นความมั่นคงของเศรษฐกิจโลก ความมั่นคงด้านพลังงาน และการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล ซึ่งสอดคล้องกับแนวนโยบายของไทยและวาระของอาเซียน โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการพูดคุยในการประชุมอาเซียนที่ผ่านมา ซึ่งคิดว่าจะมีความคืบหน้าต่างๆ ในปีหน้า ที่แคนาดาสามารถร่วมมือกับไทยได้มากขึ้น ที่จะเป็นผลประโยชน์ร่วมกัน

นายกรัฐมนตรียังประสงค์ให้การเจรจา FTA ระหว่างไทย-แคนาดา สามารถสรุปผลได้ภายในปีหน้า

ด้านการศึกษา และการท่องเที่ยว ทั้งสองฝ่ายเน้นย้ำความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมโอกาสทางการค้าและการลงทุนมากขึ้น โดยนายกรัฐมนตรียังได้นำเสนอ จุดแข็งของไทย เรื่องอัธยาศัยไมตรีของคนไทยและการต้อนรับที่อบอุ่น โดยสร้างความเชื่อมโยงระหว่างประชาชนผ่านการท่องเที่ยวและแลกเปลี่ยนทางการศึกษาเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการศึกษาด้านอาชีวะในการดูแลผู้สูงอายุและการพยาบาล ซึ่งไทยมีจุดแข็งด้านสุขภาพ ตลอดจนเพิ่มโอกาสการฝึกอบรมวิชาชีพสำหรับนักศึกษาไทยในแคนาดา
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังยินดีกับการเปิดเส้นทางบิน Vancouver-Bangkok ของสายการบินแอร์แคนาดาจากเดิมเป็นฤดูกาลมาเป็นการบริการตลอดทั้งปี (เริ่ม 28 ต.ค. 2568) ซึ่งจะส่งเสริมการเดินทางระหว่างกัน โดยในแต่ละปีจะมีคนไทยประมาณ 15,000 คน เดินทางเยือนแคนาดา ในขณะที่มีชาวแคนาดาเดินทางมาไทยมากถึง 251,000 คนต่อปี และไทยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอันดับสองสำหรับชาวแคนาดา


สำหรับความร่วมมือด้านอาหาร นายกรัฐมนตรีอยากเห็นความร่วมมือที่ใกล้ชิดและเข้มแข็งกับแคนาดามากยิ่งขึ้นเนื่องจากเป็นสาขาที่ไทยมีศักยภาพ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยังได้เสนอให้ไทยเป็น food security และ food hub ให้ กับแคนาดา

ด้านดิจิทัล พลังงานสะอาด และเกษตรอัจฉริยะ ทั้งสองอยากส่งเสริมความร่วมมือในด้านดังกล่าว

ความร่วมมือต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่า จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อแก้ไขและต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติให้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการฉ้อโกงออนไลน์และศูนย์ Scammer ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนของทั้งสองประเทศ ด้านนายกรัฐมนตรีหวังว่าจะทำงานร่วมกับแคนาดา ซึ่งมีความเข้มแข็งด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ส่งเสริมศักยภาพให้กับเจ้าหน้าที่ไทยที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชน และยังขอบคุณสำหรับความร่วมมืออย่างแข็งขันของแคนาดาต่อไทยและอาเซียนในด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ โดยเฉพาะความร่วมมือผ่านศูนย์ความร่วมมืออาเซียน-ญี่ปุ่น เพื่อพัฒนาบุคลากรด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์(ASEAN-Japan Cyber Security Capacity Building Center (AJCCBC)


ความร่วมมือในกรอบเอเปค นายกรัฐมนตรียินดีที่ไทยและแคนาดามีความร่วมมือที่ใกล้ชิดในเอเปค โดยเฉพาะด้านการค้า สภาพภูมิอากาศ ความยั่งยืน เอสเอ็มอี และความครอบคลุม ด้านแคนาดามุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อสานต่อความร่มมือร่วมกันต่อไป โดยเฉพาะการดำเนินการตามเป้าหมายกรุงเทพฯ หรือ Bangkok goals ในเรื่องเศรษฐกิจ BCG และต่างหวังว่าเศรษฐกิจสมาชิกเอเปคจะสามารถหาจุดร่วมในประเด็นที่ซับซ้อนและบรรลุผลลัพธ์ที่เป็นฉันทามติ เพื่อให้เอเปคยังคงบทบาทนำในการส่งเสริมการรวมตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกต่อไป

กระบวนการเข้าร่วมเป็นสมาชิก OECD ของไทย นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณสำหรับการสนับสนุนอย่างแข็งขันของแคนาดา ด้านนายกแคนาดายินดีสนับสนุนและแลกเปลี่ยนแนวทางปฏิบัติให้กับไทย พร้อมเห็นว่า กระบวนการเข้าร่วม OECD จะสร้างโอกาสและความร่วมมือในด้านต่างๆ ให้กับไทย


เรื่องการบิน ฝ่ายไทยได้แสดงความยินดีกับแคนาดาที่ได้รับการเลือกตั้งให้เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความสำคัญในคณะมนตรีองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่า จะส่งเสริมบทบาทของแคนาดาในการขับเคลื่อนเป้าหมายร่วมกันเพื่อการขนส่งทางอากาศที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งเสริมสร้างการมีส่วนร่วมพหุภาคีและระเบียบระหว่างประเทศ based on rules

ความร่วมมือในระดับภูมิภาค ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องในการส่งเสริมความร่วมมืออย่างต่อเนื่องในพื้นที่ยุทธศาสตร์ต่างๆ ร่วมกัน ครอบคลุมการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ รวมถึงการฉ้อโกงออนไลน์ ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ความร่วมมือทางทะเล AI เศรษฐกิจดิจิทัล การค้าและการลงทุน และการพัฒนาที่ยั่งยืน ด้านนายกรัฐมนตรีพร้อมทำงานร่วมกับแคนาดาเพื่อส่งเสริมการเติบโตที่ครอบคลุมและการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะผ่านกรอบอาเซียนและ ACMECS โดยมุ่งเน้นการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล การศึกษา และเทคโนโลยีสะอาด เพื่อลดช่องว่างทางการพัฒนา และไทยสนับสนุนแคนาดาในการเจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-แคนาดาให้แล้วเสร็จ




กำลังโหลดความคิดเห็น