“เทพมนตรี” เผยก่อนมี MOU44 ไทยยืนอยู่บนหลักฐานที่มั่นคง ขีดเส้นไหล่ทวีปตามหลักกฎหมายสากล ประกาศเป็นพระราชโองการ แต่พอมี MOU ฐานก็ง่อนแง่น เป๋ไปยอมรับให้เส้นเขตไหล่ทวีปที่เขมรขีดมั่วผ่ากลางเกาะกูด มาสมสู่กับเส้นของเรากลายเป็นแผนที่แนบท้าย ยกเลิกได้ก็ยกเลิก
วันที่ 11 ต.ค. นายเทพมนตรี ลิมปะพยอม นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Thepmontri Limpaphayorm ให้ข้อมูลเกี่ยวกับบันทึกความเข้าใจว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน ที่ลงนามเมื่อปี 2544 หรือ MOU44 โดยระบุว่า “MOU44 กอดกกกับเขมร
เส้นฐานตรงและน่านน้ำภายในของไทยนี่ประกาศมาตั้งแต่ พ.ศ.2513 ก่อนเขมรประกาศกฤษฎีกาเขตไหล่ทวีป พ.ศ.2515 เขมรตอนนั้นทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ “ผ่ากลางเกาะกูด” เส้นที่มนุษย์โลกไม่ทำกัน
เราประท้วงทางการทูตไปในรัฐบาลจอมพลถนอม!
ต่อมาไทยเราประกาศพระบรมราชโองการเขตไหล่ทวีป พ.ศ.2516 ตามกฎหมายระหว่างประเทศ (กฎหมายทะเล) โดยไม่ขัดอะไรกับประกาศเส้นฐานตรงและน่านน้ำภายใน และมีการแก้ไขเส้นฐานตรงและน่านน้ำภายในอีกครั้งในพ.ศ.2535
ถ้ามองจากนภากาศเส้นทั้งหลายตรงเกาะกูดคงพันกันเป็นโรตีสายไหม
อันที่จริงแล้วถ้าเรายึดหลักความจริงและความถูกต้อง การเจรจาก่อนที่จะลงนาม MOU44 ไทยยืนอยู่บนหลักฐานที่มั่นคง ไม่ยอมเขมรมัน
แต่พอลงนาม MOU44 ไทยมีฐานยืนง่อนแง่น เป๋จนไปยอมรับที่จะให้เส้นเขตไหล่ทวีปผ่ากลางเกาะกูดของเขมรมาสมสู่กับเส้นของเรากลายเป็นแผนที่แนบท้าย แถมยังหยักอ้อมเกาะกูดกลัวไม่ผ่าน “ความเห็นร่วมกัน” เหมือนโดนทำของ
ของเขมรมันแรง พะย่ะค่ะ
คิดเอาเองเถิดว่า เอาเส้นเขมรมาสู่สมกับเส้นของเราจนกลายเป็นรูปกระบวย (จวัก เจว็ด)
กอดกกกันเข้าไปทั้งๆ ที่ขาดธรรมาภิบาล การดื้อดึงไม่ฟังเสียงชาวบ้านที่เขาไม่เข้าใจพาความเสื่อมเสียพระเกียรติยศของพระบรมราชโองการ มันขัดกันชัดๆ
ลูกท่านหลานเธอพากันเดือดเนื้อร้อนใจ…
ยกเลิกได้ก็ยกเลิกเถิดครับ
สิ่งที่ผิดปลอมป่นกับสิ่งที่ถูกมันต้องแท้งวันยังค่ำ
นี่ไม่นับพระราชบัญญัติการรักษาผลประโยชน์ชาติทางทะเลที่ตราออกมาในยุคลุงตู่ ขัดกันเละเทะ…
ถ้าอ่านเข้าใจ โอ้โห มันจะไปออกทางไหนกันครับ
ทะเลพิโรธ….แบบพระมหาชนก”