“เทพมนตรี” เผยเอกสารตั้งต้นการยอมรับแผนที่ 1 ต่อ 200,000 คือข้อตกลงปักปันเขตแดนทางบกไทย-ลาว ที่กรมสนธิสัญญา กระทรวงการต่างประเทศ ยุค “อำนวย วีรวรรณ” ลงนามเมื่อปี 2539 และต่อเนื่องมาถึง MOU 2543 ที่ไทยทำร่วมกับกัมพูชา ทั้งที่ไทยไม่ยอมรับแผนที่นี้ในคดีประสาทพระวิหาร
วันที่ 13 ส.ค. นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ โพสต์ภาพในเฟซบุ๊ก Thepmontri Limpaphayorm เป็นเอกสารความตกลงระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เกี่ยวกับการสำรวจและการจัดทำหลักเขตแดนทางบกตลอดแนวร่วมกัน ซึ่งเป็นจุดตั้งต้นของการยอมรับแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ที่ทำให้ไทยมีปัญหาข้อพิพาทเรื่องเขตแดนกับกัมพูชาอยู่ในขณะนี้ โดยรายละเอียดข้อความในเฟซบุ๊กของนายเทพมนตรีมีดังนี้
โปรดช่วยกันเผยแพร่โดยทั่วไป เอกสารสำคัญทางประวัติศาสตร์
เรื่อง การนำแผนที่มาตราส่วน ๑:๒๐๐,๐๐๐ มาใช้เป็นครั้งแรก
เรียน ท่านผู้สนใจที่จะศึกษาแผนที่มาตราส่วน ๑:๒๐๐,๐๐๐ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง
สิ่งที่ส่งมาด้วย
๑. ความตกลง ระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว เกี่ยวกับการสำรวจและการจัดทำหลักเขตแดนทางบกตลอดแนวร่วมกัน
ต้นต่อแห่งปัญหา คือกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ โดยนายอำนวย วีรวรรณ ได้ลงนามใน “ความตกลงระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เกี่ยวกับการสำรวจและการจัดทำหลักเขตแดนทางบกตลอดแนวร่วมกัน” โดยลงนามในวันที่ ๘ กันยายน พ.ศ.๒๕๓๙ ตรงกับรัฐบาลของนายบรรหาร ศิลปอาชา และแน่นอนที่สุด การดำเนินงานระหว่างคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-ลาว ได้ก่อกำเนิดขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่เมื่อมีการลงนามในความตกลงทั้งสองฝ่ายได้นำเอาแผนที่มาตราส่วน ๑:๒๐๐,๐๐๐ ซึ่งอ้างว่าเป็นผลงานของคณะกรรมการปักปันเขตแดนสยาม-อินโดจีนฝรั่งเศส จากอนุสัญญา ค.ศ. 1904 และสนธิสัญญา ค.ศ. 1907 มาใช้ในการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกร่วมกัน
ความตกลงไทย-ลาว เป็นจุดตั้งต้นและต่อเนื่องมาถึงบันทึกความเข้าใจฯ ไทย-กัมพูชา หรือ MOU 43 คุณชวนและคุณชายสุขุมพันธ์ จึงทำต่อเนื่องกันมา
เอาเข้าจริงกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศทราบดีและรู้อยู่แก่ใจ ทั้งๆ ที่ในคดีปราสาทพระวิหารเราไม่เคยยอมรับแผนที่มาตราส่วน ๑:๒๐๐,๐๐๐ เลย ผมในฐานะนักวิชาการทำงานเรื่องนี้มาตลอดระยะเวลา 16 ปี ขอสงวนสิทธิ์ที่จะต่อต้านแผนที่ชุดนี้ที่ไทยทำกับลาว และไทยทำกับกัมพูชา
เพื่อยืนยันข้อสงวนสิทธิ์ที่จะเรียกคืนตัวปราสาทพระวิหารและล้มล้าง MOU 43 รวมถึงการสำรวจและหาหลักเขตแดนที่ ๗๓ เพื่อสนองความต้องการของรัฐบาลกัมพูชาในจุดเล็งผ่ากลางเกาะกูดอันเป็นการกระทำผิดต่อกฎหมายภายในประเทศไทยและกฎหมายต่างประเทศ
โปรดพิจารณาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งยังคงปฏิบัติหน้าที่กับเขตแดนไทย-ลาวในปัจจุบัน และท่านภูมิธรรมก็เคยเข้าร่วมประชุมด้วย
หวังใจว่าท่านผู้สนใจจะได้ช่วยกันศึกษา ในรายละเอียดและรักษาชาติอธิปไตยของเราไว้ให้ลูกหลานไทยในอนาคต
ขอแสดงความนับถือ
นายเทพมนตรี ลิมปพยอม
๑๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๘