xs
xsm
sm
md
lg

กต.แถลงย้ำมีสิทธิใช้กฎหมายไทยจัดการเขมรป่วน ปัดบิดเบือนเส้นหลักเขต 42-43 ซัดกลับกัมพูชาละเมิด MOU ประท้วง 500 กว่าครั้งยังเฉย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



โฆษก กต.แถลงโต้กัมพูชา ยันมีสิทธิใช้กฎหมายไทยกับคนกัมพูชาป่วนบ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว ปัดบิดเบือนเส้นเขตแดนหลักเขตที่ 42-43 แม้ไม่ใช่พรมแดนเป็นทางการแต่เป็นเส้นจำลองตามพิกัดหลักเขตเพื่อความเข้าใจ ซัดเขมรต่างหากละเมิด MOU43 สร้างบ้านเรือนในเขตพิพาทและอธิปไตยไทย ประท้วงกว่า 500 ครั้งยังเฉย

วันนี้(23 ก.ย.) นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าว 2 ประเด็นสำคัญ ดังนี้
1. สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ฝ่ายไทยยืนยันการบังคับใช้กฎหมายกับชาวกัมพูชาที่รุกล้ำเข้ามาประท้วงในเขตบ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้วเป็นไปตามอธิปไตยและหลักสากล ไม่ใช่พื้นที่พิพาทตามที่กัมพูชาบิดเบือน
ส่วนกรณีที่กัมพูชากล่าวหาไทยบิดเบือนเรื่องแผนผังภูมิประเทศ ขอชี้แจงว่าเป็นเพียงการนำพิกัดหลักเขต 42 และ 43 มาจำลองเส้นเขตแดนบนแผนที่แบบไม่เป็นทางการเท่านั้น เพื่อความเข้าใจของประชาชนทั่วไป ไม่ใช่การกำหนดเส้นเขตแดน ซึ่งต้องอยู่ภายใต้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC)

ในส่วนข้อกล่าวหาเรื่องการละเมิด MOU 2543 ไทยยืนยันว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายละเมิด โดยการปล่อยให้มีการสร้างบ้านเรือนในพื้นที่พิพาทและในเขตอธิปไตยไทย แม้ไทยได้ประท้วงกว่า 500 ครั้งในรอบ 20 ปี กัมพูชาก็เพิกเฉย
 
นอกจากนี้ ไทยย้ำว่าปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ใช้ความอดทนสูงสุด และดำเนินการทางทหารเพื่อป้องกันตนเองและความปลอดภัยของประชาชนเท่านั้น ขณะที่กัมพูชาสนับสนุนการชุมนุมเชิงก้าวร้าว ใช้ความรุนแรงกับเจ้าหน้าที่ไทย
ไทยใช้เพียงตำรวจควบคุมฝูงชน ไม่ได้ใช้ทหารตามที่ถูกกล่าวหา และเรียกร้องให้กัมพูชาหยุดการรุกล้ำ ขยายชุมชน และยุติการจัดฉากให้เด็กและสตรีออกมาประท้วง ทั้งนี้ ไทยยังคงเคารพกลไก JBC และข้อตกลงหยุดยิง พร้อมยืนยันว่าความขัดแย้งครั้งนี้ไทยไม่ได้ก่อ และไม่มีประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศ ไทยจะใช้เวทีระหว่างประเทศชี้แจงจุดยืนว่าเป็นประเทศรักสงบ ยึดหลักสันติวิธี กฎหมายระหว่างประเทศ และกลไกทวิภาคี แต่ผิดหวังที่กัมพูชายังคงบิดเบือนความจริงและพยายามสร้างภาพเป็นผู้เสียหาย

2. การประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ครั้งที่ 80 ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นิวยอร์ก ระหว่าง 23–29 กันยายน 2568 โดยมีหัวข้อ “Better Together: 80 Years and More for Peace, Development and Human Rights” เป็นเวทีพหุภาคีใหญ่ที่สุดที่เปิดโอกาสให้ผู้นำโลกแสดงวิสัยทัศน์ และพบปะหารือเพื่อผลักดันประเด็นสำคัญ

ไทยจะเน้นการส่งเสริมสันติภาพ ความมั่นคง และการพัฒนาที่ยั่งยืน ภายใต้กฎบัตรสหประชาชาติและอาเซียน ควบคู่กับการปกป้องสิทธิมนุษยชนและหลักมนุษยธรรม รวมถึงหารือทิศทางเศรษฐกิจโลก กระทรวงการต่างประเทศเตรียมการสนับสนุนการเข้าร่วมของนายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี และนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีต่างประเทศ โดยรอความชัดเจนจากการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษวันที่ 24 กันยายน และจะประกาศยืนยันอีกครั้งในวันที่ 25 กันยายน


กำลังโหลดความคิดเห็น