นายกฯ ขนทีมเศรษฐกิจ ถกสภาหอการค้าไทย รับฟัง 7 ข้อเสนอ หวังเร่งฟื้นเศรษฐกิจ เผยทูลเกล้าฯ ครม.แล้ว ขณะที่ประธานหอการค้าชื่นชมนายกฯ และว่าที่รัฐมนตรีทีมเศรษฐกิจ มีความรู้ความสามารถเป็นที่ยอมรับ
เมื่อเวลา 09.20 น. วันที่ 18 ก.ย. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย ว่าที่รัฐมนตรีทีมเศรษฐกิจ ประกอบด้วย นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นางศุภจี สุธรรมพันธ์ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายวรภัค ธันยาวงษ์ ว่าที่ รมช.คลัง พร้อมคณะ เดินทางมายังสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อหารือกับนายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานสภาหอการค้าไทย และคณะกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
นายพจน์ กล่าวเปิดการหารือว่า สภาหอการค้าฯขอแสดงความยินดี ที่นายกรัฐมนตรีได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 เข้ามาบริหารบ้านเมืองและเดินหน้าต่อเนื่องไปอย่างไม่หยุดชะงักและขอชื่นชมแสดงความยินดีล่วงหน้ากับว่าที่รัฐมนตรีทีมเศรษฐกิจทุกคน ซึ่งมีความรู้ความสามารถเป็นที่ยอมรับของประชาชน ซึ่งหลังจากนี้สภาหอการค้าก็จะเดินทางไปพบที่กระทรวง อย่างไรก็ตาม หอการค้าไทยเป็นองค์การภาคเอกชน งทีไม่มีผลประโยชน์ ก่อตั้งมาถึง 92 ปีเต็ม หอการค้าไทยวางนโยบายขับเคลื่อนในส่วนของภาคเอกชน
โดยข้อเสนอแนะทั้งหมดได้รวบรวมจากเครือข่ายหอการค้าไทยทั่วประเทศและภาคจังหวัด ซึ่งมีทั้งหมด 7 ด้าน ประกอบด้วย
1. เสริมสร้างความเชื่อมั่นประเทศและนักลงทุน
2. เพิ่มสภาพคล่องและการเข้าถึงแหล่งเงินทุน
3. ลดภาระค่าครองชีพและต้นทุนประชาชน
4. ส่งเสริมการค้าการลงทุนและโลจิสติกส์ค้าขายเป็นธรรม
5. รักษาความปลอดภัยและเสถียรภาพทางสังคม โดยเฉพาะชายแดน
6. เตรียมแผนรับมือความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศ
7. กระตุ้นกำลังซื้อและการท่องเที่ยว
ด้าน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จริงๆ ทุกท่านในที่นี้ไม่ใช่คนแปลกหน้าแปลกตา สำหรับตนมีความคุ้นเคย เคารพนับถือกันมาเป็นอย่างดี ที่ตนได้มาในวันนี้ เพื่อมาพบกับพวกท่าน โดยนำว่าที่คณะรัฐมนตรี ที่รับผิดชอบด้านเศรษฐกิจมาให้พวกท่านได้รู้จัก ซึ่งตนมั่นใจว่า พวกท่านทั้งหลายรู้จักกันดีอยู่แล้ว และมาวันนี้ เพื่อตั้งใจมารับฟังรายละเอียดหารือรับข้อเสนอแนะจากสภาหอการค้าไทย รัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ เป็นรัฐบาลที่เราเน้นเรื่องการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ ที่ต้องกระชับและเข้มแข็งภายในระยะเวลาที่เร่มีอยู่
โอกาสนี้นายอนุทินยังได้แนะนำว่าที่ โดยกล่าวว่าตอนนี้รัฐมนตรีซึ่งทูลเกล้าทูลกระหม่อมรายชื่อไปแล้ว เมื่อมีการโปรดเกล้าฯ มา จะเร่งทำการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา และสามารถบริหารราชการแผ่นดินได้