เมืองไทย 360 องศา
ก่อนการยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ในราวต้นปีหน้า ทำให้เริ่มเห็นความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองต่างๆ กันอย่างคึกคัก อย่างไรก็ดี นาทีนี้อยากโฟกัสไปที่พรรคเพื่อไทยก่อน เพราะได้เห็นความเคลื่อนไหวบางอย่างที่น่าจับตา โดยเฉพาะบทบาทของระดับแกนนำของพรรคในช่วงเวลานี้ โดยเฉพาะบทบาทของ นายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งถือว่าเป็น “เจ้าของพรรค” หรือว่าเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณที่เรียกขานกัน แต่ล่าสุดยังได้เห็นความเคลื่อนไหวที่ “ชัดเจน” ของ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ภรรยาของ นายทักษิณ
ทำให้เป็นที่จับตามองกันอย่างกว้างขวางว่า นี่คือสัญญาณทางการเมืองที่แสดงให้เห็นว่าพวกเขาได้ “ฮึดสู้” และพร้อมที่จะกอบกู้พรรคเพื่อไทย ไม่ให้แตกสลาย หรือเกิดภาวะ “เลือดไหล” ไม่หยุด
แน่นอนว่า หากย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ในช่วงสองปีที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำรัฐบาล ตั้งแต่ยุค นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นรัฐมนตรีเรื่อยมาจนถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ที่เพิ่งพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปเมื่อไม่นานมานี้ เนื่องจากมีความผิดฝ่าฝืนจริยธรรม จาก “คลิปหลุด” สนทนากับ นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา
ขณะเดียวกันด้วยภาวะความล้มเหลวในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ทำผลงานได้ย่ำแย่ไม่สมราคา เนื่องจากหลายโครงการที่เป็นนโยบายหลักของพรรคกลับไม่สามารถผลักดดันออกมาได้ สร้างความผิดหวังให้กับชาวบ้านผู้ที่เคยสนับสนุนพรรค ทำให้เวลานี้ความนิยมของพรรคเพื่อไทย ลดลงอย่างมาก
จนมีการประเมินกันว่าในการเลือกตั้งครั้งต่อไป พรรคเพื่อไทยอาจเป็นพรรค “ต่ำร้อย” นั่นคือจะได้รับเลือกตั้งเข้ามาเป็นแค่หลักสิบเท่านั้น โดยเฉพาะพิจารณาจากข่าวเรื่อง “งูเห่า” และความเคลื่อนไหวย้ายพรรคกันมากมาย
อย่างไรก็ดี อีกด้านหนึ่งได้เห็นความพยายามในการกอบกู้พรรคของครอบครัวชินวัตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้เห็นท่าทีใหม่ของ นายทักษิณ และ คุณหญิงพจมาน ที่เข้ามาร่วมแสดงบทบาทกับพรรคอย่างเข้มข้น และชัดเจนมากขึ้น
สำหรับ นายทักษิณ เวลานี้แม้ว่าเขาจะต้องกลับมารับโทษจำคุกตามคำพิพากษาของศาล เป็นเวลา 1 ปี แต่ขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่งหลายคนกลับมองว่านี่คือกลยุทธใหม่ทางการเมือง เพื่อ “เรียกคะแนนสงสาร” เนื่องจากเหมือนกับมีการสร้างพล็อตเรื่อง ทั้งเรื่อง “ความน่าสงสาร ความพลัดพราก” รวมไปถึงการสร้างกระแส “วีรบุรุษประชาธิปไตย” สารพัด
ขณะเดียวกันสำหรับ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ที่ล่าสุดได้เห็นความเคลื่อนไหวเข้าร่วมประชุมพรรคเพื่อไทย มีการแสดงออกอย่างชัดเจนว่า ครอบครัวชินวัตร ยังให้การสนับสนุนพรรคอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
เมื่อวันที่ 16 กันยายน ที่ผ่านมา มีรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า ในการประชุมพรรคประจำสัปดาห์ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำพรรคเป็นประธานการประชุม เมื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเดินเข้าห้องประชุม สมาชิกพรรคได้ปรับมือให้กำลังใจก่อนที่น.ส.แพทองธาร จะเดินไปนั่งกับแกนนำพรรค
โดยนายสุริยะ ได้กล่าวกับสมาชิกพรรคว่า วันนี้แม้มีคนออกไป แต่ไม่ได้กระทบอะไรกับพรรค แต่พรรคยังเข้มแข็งยังคงเป็นปึกแผ่น เป็นสถาบันทางการเมือง เราพร้อมสู้ต่อทุกสนามเลือกตั้ง แต่ละสนามที่ลงไปเน้นทุกสนาม โดยเฉพาะสนามเลือกตั้งใหญ่ ขอให้สมาชิกทุกคนช่วยกันปฏิรูปพรรค ถ้าอยากจะเสนอปรับเปลี่ยนอะไรขอให้แจ้งมา เพราะพรรคยึดโยงกับสส. ช่วงแรกอาจต้องปรับตัว ตอนนี้เริ่มปรับตัวได้แล้วว่าการทำหน้าที่ในสภาฯ พรรคเราจะเป็นพรรคฝ่ายค้านตัวจริง และจะเป็นหลักให้กับประเทศ เลือกตั้งครั้งหน้าพรรคสู้เต็มที่
มีรายงานว่า หลังปิดประชุม ก่อนที่สมาชิกจะเดินออกจากห้องประชุม คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภรรยา นายทักษิณ ได้เดินเข้ามาให้กำลังใจสมาชิกพรรคและกล่าวสั้นๆ ว่า “สู้ๆนะคะ” ทำให้ สส. ต่างยืนขึ้นปรบมือทั้งห้องประชุม เพราะเข้าใจว่า สิ่งที่คุณหญิงพูด หมายความว่า ชินวัตร ยังสู้ต่ออย่างเต็มที่ ในสนามการเมือง
ก่อนหน้านั้น นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา มีนักวิชาการ อดีตนักการเมือง และนักการเมือง ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงพรรคเพื่อไทย ว่าจะเป็นพรรคขาลง และในการเลือกตั้งสมัยหน้า อาจจะเหลือไม่ถึง 100 เสียง หรือ 50 เสียง พรรคเพื่อไทยเป็นสถาบันการเมือง ตนเองขออนุญาตไม่ตอบโต้นักวิชาการ นักการเมืองเหล่านั้น เพียงแต่ว่าเราจะยอมรับคำวิพากษ์วิจารณ์ และจะนำไปพัฒนาพรรคของเราให้ดีขึ้น
นายดนุพร ยังฝากไปถึงโหวตเตอร์พรรคเพื่อไทย หรือคนที่ยังศรัทธาในพรรคว่า ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่พรรคเพื่อไทยประสบวิกฤตทางการเมือง พรรคเพื่อไทยเมื่อก่อน เป็นพรรคไทยรักไทย เราถูกปฏิวัติมา 2 ครั้ง ถูกยุบพรรคมาแล้ว 2 ครั้ง แต่ทุกครั้งที่เราถูกวิกฤตทางการเมือง เราสามารถลุกขึ้นยืนได้อย่างเข้มแข็ง และนำทัพพรรคเพื่อไทย ลงในสนามเลือกตั้ง และหลายครั้งที่เราชนะในสนามเลือกตั้ง
นายดนุพร กล่าวต่อว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับพรรคในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา สมาชิกพรรคบางคนอาจจะมีการเสียใจบ้างที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องออกจากตำแหน่ง และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องเข้าไปสู่การจองจำอีกครั้งหนึ่ง
แต่ขอย้ำว่า พรรคของพวกเรา พร้อมที่จะลุกขึ้นยืน และเข้มแข็งอีกครั้งในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในอีกไม่กี่เดือน เพราะเรายังมั่นใจว่า หัวใจของเรายังเป็นพี่น้องประชาชน เราจะนำเสนอนโยบายดีๆ เพื่อช่วยพี่น้องประชาชนที่ลำบาก เราไม่สามารถทิ้งประชาชนที่สนับสนุนเรา และคนรากหญ้าให้ลำบากได้เพียงลำพัง เราพร้อมที่จะลุกขึ้นเข้มแข็งอีกครั้งในเร็ววัน พวกเราพร้อมเดินหน้าต่อ แม้เราจะประสบปัญหานานาประการในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ขอให้ทุกคนได้เป็นกำลังใจให้พวกเรา หากพร้อมแล้ว เจอกันในสนามเลือกตั้งแน่นอน
ดังนั้นเมื่อประเมินจากท่าทีและความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทย และบรรดาครอบครัวชินวัตร ที่นำโดย นายทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ที่ส่งสัญญาณชัดเจน ว่ายังให้การสนับสนุนพรรคอย่างเต็มที่ อย่างน้อยก็สร้างความมั่นใจให้กับ ส.ส.ของพรรค ที่กำลังลังเลว่าจะย้ายพรรคหรือไม่ ให้ “ตรึงอยู่กับที่” ต่อไป ซึ่งเป็นการสร้างหลักประกันในเรื่อง “กระสุน” เอาไว้ได้ในระดับหนึ่ง ขณะเดียวกัน การแสดงบทบาทชัดของพวก “ชินวัตร” คราวนี้ อีกด้านหนึ่งมันก็เหมือนเป็น “ไฟต์บังคับ” ให้พวกเขาสู้ต่อ เพื่อต้องการรักษาอำนาจเอาไว้ให้ได้ต่อไป เพราะหากถอยกลางคันแบบนี้ ทุกอย่างจะยิ่งเลวร้ายกว่าเดิมหลายเท่า!!