xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ แย้มคนละครึ่ง ภท. เสียภาษีได้สิทธิ 60:40 ทั่วไป 50:50 ไม่สนก๊อป ขอ ปชช.ได้ประโยชน์ รถไฟฟ้า 20 บ.ดูก่อน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“อนุทิน” แย้ม คนละครึ่งยุคภูมิใจไทย คนเสียภาษีได้สิทธิ 60 : 40 กลุ่มทั่วไป 50 : 50 ไม่สนถูกมองก๊อปปี้นโยบายขอแค่ชาวบ้านได้ประโยชน์ ขณะที่ รถไฟฟ้า 20 บาท ขอดูรายละเอียด ว่าเลี้ยงตัวเองได้หรือไม่ มิใช่ขาดทุนหางบมาเติมทุกปี

วันนี้ (9 ก.ย.) เวลา 13.30 น. ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกระแสตอบรับที่ดี ที่รัฐบาลใหม่ จะดำเนินการโครงการคนละครึ่ง ว่า ยอมรับว่า กระแสดีเพราะเราฟังประชาชน เพราะไม่ใช่พรรคการเมืองที่คิดว่าจะทำแบบนี้ว่าจะก๊อบปี้พรรคไหน เพราะทำเพื่อประชาชน ประชาชนได้ประโยชน์เราจะไปก๊อปปี้ใครเราก็จะทำ ไม่ว่าจะเป็นโครงการ 30 บาทรักษาก็ต้องเดินต่อไป แม้ว่าจะเกิดในรัฐบาลทักษิณ รวมถึงโครงการคนละครึ่งมาจากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ และตนเป็นรัฐมนตรีสมัยท่านตนก็ยกมือสนับสนุน

เมื่อถามว่า กระแสข่าวคนละครึ่งจะเป็น 50 : 50 หรือจะเป็นแบบพลัส นายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อคืนวันที่ 8 ก.ย. จากที่ได้คุยกับนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่ รมว.คลัง หากไม่กระทบวินัยการเงิน หรืองบประมาณ และช่วยเหลือประชาชนได้ แต่จะออกไปในรูป 60 : 40 เพื่อจูงใจกลุ่มคนที่เสียภาษี ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็เสียภาษีอยู่แล้ว แต่หากเป็นประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้เสียภาษี ก็ 50 : 50 ถือเป็นไอเดียที่นายเอกนิติ เสนอ ซึ่งตนก็เห็นด้วย และสั่งให้ไปพิจารณาเพิ่มเติม แต่ต้องไม่ผิดรัฐธรรมนูญ กฎหมาย งบประมาณ และไม่เสียวินัยการเงินการคลัง พร้อมยอมรับว่า โครงการจะทันในกรอบ 4 เดือน และ นายเอกนิติ ก็แจ้งมาว่างบประมาณมีดำเนินการ พร้อมเปรียบว่า กระเป๋าก็ยังมีเหมือนเดิม

เมื่อถามว่า นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทของรัฐบาลเพื่อไทย จะสานต่อหรือไม่ นายกฯ กล่าวต่อว่า โครงการนี้เป็นประโยชน์แต่ต้องมาดูว่า บางโปรเจกต์ ทำแล้วขาดทุน หรือต้องไปซื้อมาก็ไม่ได้ พร้อมย้ำว่าต้องรักษาวินัยการเงินการคลัง และโครงการต้องอยู่รอดและพึ่งพาตัวเองได้

“ไม่ใช่ 20 บาทแล้วมานั่งหาส่วนต่างทุกปี ตั้งเป็นงบประมาณ มันไม่ใช่ หรือไปซื้อกิจการจากลงทุนมา ก็ไม่ใช่เพราะคนที่ลงทุนก็ต้องเสี่ยง”

นายอนุทิน ยังกล่าวถึงปัญหาน้ำท่วม ที่ประชาชนสะท้อนว่า ต่างจังหวัด และกรุงเทพฯ ยังท่วมซ้ำซาก ว่า ตอนนี้กระทรวงที่เกี่ยวข้องดำเนินการอยู่ โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย ที่จะต้องมีแผนเผชิญเหตุ โดยเราให้การสนับสนุน เน้นในเรื่องของการเยียวยา เพราะเวลาเราน้อย เรื่องนี้เป็นหลัก ส่วนการวางยุทธศาสตร์ต่างๆ เป็นเรื่องของหน่วยงานประจำที่เกี่ยวข้องที่จะต้องนำเสนอขึ้นมาให้กับรัฐบาล


กำลังโหลดความคิดเห็น