xs
xsm
sm
md
lg

“ภูมิธรรม”อ่วม! พ.ร.ฎ.ยุบสภาถูกตีกลับ “วันนอร์” นัดโหวตนายกฯ 5 ก.ย. ** “เพนกวิน”ฟาด“ส้ม” ทรยศหักหลัง3นิ้ว.. ดีลน้ำเงินหนุน “เสี่ยหนู”นั่งนายกฯ ทำลายศรัทธา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


อนุทิน ชาญวีรกูล - ภูมิธรรม เวชยชัย - พริษฐ์ ชิวารักษ์
ข่าวปนคน คนปนข่าว

++ “ภูมิธรรม”อ่วม! พ.ร.ฎ.ยุบสภาถูกตีกลับ “วันนอร์” นัดโหวตนายกฯ 5 ก.ย.

สถานการณ์การเมืองว่าด้วยเรื่องเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 มีความชัดเจนขึ้นมาอีกระดับ เมื่อ “ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” หัวหน้าพรรคประชาชน และคณะ แถลงแต่เช้า (3ก.ย.) ว่าพรรคได้มีมติว่าจะโหวต “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรี แบบมีเงื่อนไข

1.นายกฯคนใหม่ต้องยุบสภาใน 4 เดือน , 2.จัดทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ,3.ผลักดันเพื่อเปิดโอกาสให้มี สสร. มาทำการยกร่างรัฐธรรมนูญ , 4.พรรคภูมิใจไทยต้องไม่ดำเนินการใดๆ ให้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก และ 5.พรรคประชาชน จะไม่ร่วมในครม.

ซึ่งก็ไม่มีปัญหา หัวหน้าพรรคประชาชน และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ต่างลงนามบันทึกความตกลงนี้

ขณะเดียวกัน ทางฝ่ายพรรคเพื่อไทย โดย “ภูมิธรรม เวชยชัย” ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ก็ออกมาบอกว่า ได้ยื่นทูลเกล้าฯ ร่าง พ.ร.ฎ.ยุบสภา ไปตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย.แล้ว ด้วยเหตุว่า ระบอบประชาธิปไตยกำลังบิดเบี้ยว จากการตัดสินใจของพรรคประชาชน ที่จะโหวตให้ “อนุทิน” เป็นนายกฯ โดยไม่เข้าร่วมรัฐบาล ให้พรรคภูมิใจไทย เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ก็เท่ากับว่า การเมืองยังเป็น 3 กลุ่ม เหมือนเดิม

แต่พรรคประชาชน “สวมหมวกสองใบ” คือเป็นทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน ในเวลาเดียวกัน ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีสิ่งนี้มาก่อน พรรคเพื่อไทยจึงตัดสินใจ คืนอำนาจให้กับประชาชน ด้วยการทูลเกล้าฯ พ.ร.ฎ.ยุบสภา ให้เป็นพระบรมราชวินิจฉัย

อนุทิน ชาญวีรกูล
“ภูมิธรรม” ยืนยันว่า ไม่มีความกังวลในเรื่องข้อกฎหมาย แม้ก่อนหน้านี้จะมีนักวิชาการ และกฤษฎีกา ออกมาแสดงความเห็นว่า รัฐบาลรักษาการ มิบังควรที่จะยื่น พ.ร.ฎ.ยุบสภา แต่ “ภูมิธรรม” ก็ย้ำว่า ทำไปตามกระบวนการทางรัฐธรรมนูญ
ดังนั้น เมื่อวานนี้แค่วันเดียว ก็มีถึง 3 ราย ที่ไปร้องเอาผิดในเรื่องนี้ คือ “สุรทิน พิจารณ์” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปไตยใหม่ ไปแจ้งความที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เอาผิด “ภูมิธรรม” ในความผิดตาม มาตรา 112 ด้วยเหตุผลว่า เป็นการกระทำที่มิบังควร เนื่องจากตัวเองไม่มีอำนาจ หน้าที่ หรือสิทธิ ที่สามารถทำได้ ถือว่าส่อเจตนาดึงสถาบันเบื้องสูงมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง

“ศุภชัย ใจสมุทร” จากพรรคภูมิใจไทย เข้าแจ้งความที่ สน.ดุสิต ร้องทุกข์กล่าวโทษ “ภูมิธรรม” ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตาม มาตรา 157 เพราะเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ให้ความเห็นแล้วว่า รักษาการนายกรัฐมนตรี ไม่สามารถเสนอ พ.ร.ฎ.ยุบสภาได้ จะเป็นการทำให้ระคายเคืองต่อเบื้องพระยุคลบาท

“ศรีสุวรรณ จรรยา” ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ยื่นคำร้องป.ป.ช. ขอให้ไต่สวนสอบสวน “ภูมิธรรม” กระทำการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ และกฎหมาย และฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

ขณะที่ทางด้าน พรรคภูมิใจไทย หลังจากบรรลุข้อตกลงกับพรรคประชาชนแล้ว ก็คึกคักเป็นพิเศษ “อนุทิน” แถลงจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย พร้อมนำเสนอ ประวัติ “อนุทิน” นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ออกมาโชว์

“ไชยชนก ชิดชอบ” เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ก็นำรายชื่อ 146 สส. ที่ลงชื่อสนับสนุนไป ยื่นขอบรรจุวาระโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ต่อประธานสภา

ภูมิธรรม เวชยชัย
ขณะเดียวกันก็ส่ง วิปของพรรค ไปประชุมร่วมกับวิปของพรรคเพื่อไทย เพื่อกำหนดวันประชุมสภา เพื่อโหวตนายกฯ โดยมี “ฉลาด ขามช่วง” รองประธานสภาฯ คนที่ 2 เป็นประธานการประชุม ปรากฏว่า รอบแรกยังกำหนดวันไม่ได้ โดยประธานฯ อ้างว่า มี สส. 20 คน สงสัย เรื่องการทำหน้าที่ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และทำหนังสือถึง “ประธานวันนอร์” ให้ส่งหนังสือถึงศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอความชัดเจน จึงต้องรอให้ศาลตอบกลับมาก่อน จึงขอเลื่อนเวลาไป 15.00 น. จะประชุมอีกครั้ง

เมื่อประชุมรอบที่ 2 ก็ยังกำหนดวันไม่ได้อยู่ดี เพราะยังไม่มีความชัดเจนจากศาลรัฐธรรมนูญ และต้องรอความชัดเจนเรื่องยุบสภา ด้วย จึงขอให้ “ประธานวันนอร์” เป็นผู้ตัดสินใจในการกำหนดวันโหวตนายกฯ เอง

เรื่องนี้ตัวแทนจากพรรคภูมิใจไทย ถึงกับโวยว่า “ฉลาด ขามช่วง” ในฐานะประธาน ไม่ว่างตัวเป็นกลาง พยายามเอนเอียงไปทางพรรคเพื่อไทย ที่ตัวเองสังกัดอยู่

อย่างไรก็ตาม ปัญหานี้ในที่สุด “ประธานวันนอร์” ก็กำหนดออกมาแล้วว่า จะมีการโหวตนายกฯ กันในวันที่ 5 ก.ย.นี้

ในเวลาไล่เลี่ยกันนั้น ก็มีข่าวสะพัดออกมาว่า สำนักองคมนตรี ที่เป็นหน่วยงานกลั่นกรองหนังสือและถวายความเห็นประกอบการกราบบังคมทูล เพื่อทรงมีพระบรมราชวินิจฉัย และทรงลงพระปรมาภิไธย ได้ส่งคืน ร่าง พ.ร.ฎ.ยุบสภา กลับมาให้สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี

พร้อมมีหนังสือแนบมาด้วยว่า การกราบบังคมทูล ร่าง พ.ร.ฎ.ยุบสภา ไม่เป็นไปตามระเบียบการนำเสนอ เพื่อขอพระมหากรุณา เนื่องจากเป็นเรื่องที่มีปัญหาข้อขัดแย้งว่า กระทำได้ หรือไม่ ประกอบกับเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ทำความเห็นประกอบว่า รัฐบาลรักษาการไม่สามารถกราบบังคมทูล ร่าง พ.ร.ฎ.ยุบสภา ได้ จึงไม่สามารถกราบบังคมทูล เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย

ในรายงานข่าว ระบุด้วยว่า “ภูมิธรรม” รับทราบแล้ว แต่เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามเพื่อขอรับการยืนยันว่า พ.ร.ฎ.ยุบสภา ถูกตีกลับมาจริงหรือไม่ แต่“ภูมิธรรม” เดินหนี ไม่ตอบคำถาม ปล่อยให้คาดเดากันเอาเอง

สถานการณ์ของพรรคเพื่อไทย ณ ขณะนี้ จึงไม่ต่างจากพ่ายศึกอีกครั้ง “ทักษิณ ชินวัตร” ต้องนั่งดู “อนุทิน” เถลิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ขณะที่ขุนพลอย่าง “ภูมิธรรม” บาดแผลเหวอะหวะ!!

ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ
++ “เพนกวิน” ฟาด “ส้ม” ทรยศหักหลัง 3 นิ้ว.. ดีลน้ำเงินหนุน “เสี่ยหนู”นั่งนายกฯ ทำลายศรัทธา

เกมการเมืองที่ "เสี่ยหนู" อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กำลังจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ส่วนสำคัญก็ต้องบอกว่ามาจาก “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” และพวกพ้องให้พรรคประชาชน สนับสนุน

ดีลระหว่างส้มกับน้ำเงินดัน “เสี่ยหนู”เป็นนายกฯนี้ ทำให้กลุ่ม 3 นิ้ว บันดาลโทสะ ประณามพรรคส้มรุนแรง ในทำนอง ปล่อยให้ความแค้นพรรคแดงเพื่อไทย ที่หักหลังตัวเองเข้าครอบงำ จนคิดแต่จะเอาคืน จนไม่ได้คิดว่า “พรรคน้ำเงิน” นี่แหละศัตรูอันดับหนึ่ง ที่จะย้อนมาทำร้ายตัวเอง!

งานนี้ “เพนกวิน” พริษฐ์ ชิวารักษ์ แกนนำ 3 นิ้ว กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ผู้หาคดี มาตรา112 ที่หลบหนี ลี้ภัยอยู่ต่างประเทศ อดรนทนดูไม่ไหว โพสต์จดหมายเปิดผนึก ผ่านเฟซบุ๊ก ออกโรงฉะไม่ยั้ง โดยระบุว่า พรรคส้มกำลังปล่อยให้ "ความแค้น" ที่ถูกพรรคเพื่อไทยหักหลังเข้าครอบงำ จนหลงลืมไปว่า "เสี่ยหนู" และพรรคภูมิใจไทยเป็น "ภัยคุกคามต่อประชาธิปไตย" ไม่แพ้กัน แถมพรรคภูมิใจไทย มีประวัติร่วมมือกับอำนาจเก่ามาอย่างยาวนาน และยังเคยเป็นต้นเหตุที่ทำให้เพื่อนพ้องสามนิ้ว ต้องเจ็บปวดเสียอิสรภาพ มาแล้ว

พริษฐ์ ชิวารักษ์
“เพนกวิน”จัดหนักจัดเต็ม ไล่เรียงความผิดของพรรคภูมิใจไทย อย่างไม่ยั้ง ไม่ว่าจะเป็นการขัดขวางการนิรโทษกรรม, การแก้ไขรัฐธรรมนูญ, ไปจนถึงนโยบายที่ล้มเหลวในช่วงโควิด-19 ที่ทำให้คนเจ็บตายกันมากมาย แต่ที่เด็ดที่สุดคือ การฟาดตรงๆ ว่า "เสี่ยหนู" และพรรคภูมิใจไทย คือ "ตัวแทนอำนาจเก่า" ที่มีความสัมพันธ์กันอย่างแนบแน่น และการที่ “พรรคส้ม”จะไปจับมือกับพรรคภูมิใจไทยนั้น ก็เท่ากับ "ติดปีกให้เสือบินได้" ซึ่งสุดท้ายแล้วจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองและขบวนการประชาธิปไตย ทั้งองคาพยพ

“แกนนำ3นิ้ว” คนนี้ ยังเตือนสติพรรคส้มว่า อย่าหลงทางไปกับการแก้แค้น และอย่าประพฤติตัวเหมือนกับพรรคที่เคยหักหลังตัวเองไปก่อนหน้านี้ เพราะที่ผ่านมา พรรคส้มได้รับการยอมรับในฐานะ "ความหวังของความก้าวหน้า" จากคนในขบวนการประชาธิปไตย แต่หากยังตัดสินใจหนุน "เสี่ยหนู" จริงๆ ก็เท่ากับว่าพรรคส้มได้ "ถอยกลับไปเป็นพรรคการเมืองดาษดื่นทั่วไป" ที่ไม่ต่างจากพรรคอื่น ที่เคยถูกประณามมาก่อน

ท้ายที่สุด “เพนกวิน” ใช้ถ้อยคำที่รุนแรง ประณามการตัดสินใจของพรรคส้มครั้งนี้ว่า เป็นการ "ทรยศหักหลัง” การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของเครือข่าย และพวก 3 นิ้วอย่างรุนแรง พร้อมกับเรียกร้องให้เพื่อนๆ ที่อยู่ในพรรคส้มตอนนี้ ช่วยกันทบทวนการตัดสินใจนี้ และเตือนว่าหากยังเดินหน้าต่อไป จะต้องเสียความน่าเชื่อถือไปตลอดกาล

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
“เพนกวิน” ยังส่งสาส์น ไปถึงบรรดา "มิตรสหายนักเคลื่อนไหว" ที่ได้เป็น สส.ของพรรคส้ม ให้งดเว้นการสนับสนุน "เสี่ยหนู" ไม่ว่าในทางใดก็ตาม เพราะไม่อยากเห็นการต่อสู้ที่ผ่านมาต้อง "สูญเปล่า" เพียงเพราะไปขายการต่อสู้ให้กับ "สัญญาลมๆ แล้งๆ ของฝ่ายจารีต" ที่ประวัติศาสตร์ได้พิสูจน์แล้วว่า… ไม่เคยไว้ใจได้!!

งานนี้ต้องรอดูว่า พรรคส้มจะรับฟังเสียงจากเพนกวินแกนนำสามนิ้วหรือไม่? หรือจะเดินหน้าตามเกมที่ “ธนาธร”และพวกวางไว้ เพื่อแก้แค้นพรรคแดงที่เคยหักหลังพวกเขาในอดีต? และแก้ธรรมนูญที่ตัวเองต้องการ

บอกได้คำเดียวว่า "เกมนี้มีเดิมพันสูง" ที่ “ติ่งส้ม” และกลุ่ม 3 นิ้ว ซึ่งเคยให้ใจกับพรรคเป็นเนื้อเดียวกันมาตลอดจะถึงเวลาทางใครทางมัน เพราะหมดศรัทธา!


กำลังโหลดความคิดเห็น