โพลเขย่าขวัญ อุ๊งอิ๊ง-ทักษิณภาพติดลบ !?

เมืองไทย 360 องศา

แม้ว่ายังเป็นช่วงเริ่มต้นของรัฐบาลที่นำโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ใช้เวลาผ่านมาเพียงไม่กี่วัน อีกทั้งเพิ่งเสร็จสิ้นการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาไปเพียง 2-3 วันเท่านั้น ทำให้การบริหารบ้านเมืองเพิ่งเดินหน้าได้เต็มสูบ แต่ขณะเดียวกัน การบริหารก็ต้องเริ่มต้นด้วยความเชื่อมั่นแล้วมันก็จะส่งผลกระทบในอนาคตทำให้การทำงานและการสร้างผลงานยากลำบากขึ้น

สำหรับ “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นั้นทราบกันดีว่า เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีด้วยการผลักดันของนายทักษิณ ชินวัตร มีภาพของการเป็น “ลูกเถ้าแก่” ไม่ได้ถูกมองว่าเติบโตด้วยการไต่เต้า หรือมีพัฒนาการทางการเมือง ถูกมองว่าไม่มีประสบการณ์ความสำเร็จในเชิงการบริหาร โดยเฉพาะผลงานในทางธุรกิจ ตำแหน่งผู้บริหารล้วนเป็นธุรกิจในครอบครัว

อีกทั้งด้วยวัยวุฒิยังน้อย ประสบการณ์น้อย และมีประวัติเรื่องการศึกษาที่น่าสงสัย ทุกอย่างล้วนทำให้เกิดคำถามตามมามากมาย อย่างไรก็ดี ก็ยังมีหลายคนเชื่อว่าด้วยความที่เป็น “ลูกทักษิณ” ที่มีภาพลักษณ์ที่ประสบความสำเร็จมาก่อน น่าจะทำให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี

อย่างไรก็ดี ทุกอย่างทำท่าจะไม่เป็นอย่างที่หวัง เพราะล่าสุดวันที่ 15 กันยายน มีการเผยแพร่ผลสำรวจของ “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ที่มีการสำรวจเมื่อวันที่ 9-11 กันยายน ที่ผ่านมา

เมื่อถามความเชื่อมั่นของประชาชนต่อรัฐบาลนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ในการแก้ไขปัญหาของประเทศ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 35.42 ระบุว่า ไม่ค่อยเชื่อมั่น รองลงมา ร้อยละ 28.17 ระบุว่า ค่อนข้างเชื่อมั่น ร้อยละ 22.52 ระบุว่า ไม่เชื่อมั่นเลย ร้อยละ 13.13 ระบุว่า เชื่อมั่นมาก และร้อยละ 0.76 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

ด้านความกังวลของประชาชนเกี่ยวกับรัฐบาลนายกฯแพทองธาร ชินวัตร พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 36.03 ระบุว่า เป็นเรื่องผลงานของรัฐบาลไม่เป็นไปตามที่สัญญาและคาดหวัง รองลงมา ร้อยละ 32.14 ระบุว่า อายุและประสบการณ์ทางการเมือง/การบริหารของนายกฯ อาจทำให้เกิดการตัดสินใจที่ผิดพลาด

และบทบาทของคุณทักษิณ ชินวัตร ที่เกินขอบเขตจนนำไปสู่การถูกฟ้องเรื่องการครอบงำ นายกฯ/พรรค/รัฐบาล ในสัดส่วนที่เท่ากัน ร้อยละ 24.89 ระบุว่า การบริหารงานที่ไม่ระมัดระวังจนอาจเกิดการทุจริต คอร์รัปชัน ร้อยละ 21.76 ระบุว่า การบริหารงานที่ผิดพลาด จนนำไปสู่สถานการณ์วิกฤต ร้อยละ 21.53 ระบุว่า การชุมนุมประท้วงรัฐบาลจนเกิดความวุ่นวายทางการเมือง ร้อยละ 18.85 ระบุว่า กลุ่มผู้ต่อต้านคุณทักษิณ ชินวัตร ที่พร้อมจะร้องเรียนและล้มรัฐบาลนายกฯ แพทองธาร ร้อยละ 18.63 ระบุว่า ไม่มีความกังวลใด ๆเลย ร้อยละ 14.73 ระบุว่า การก่อรัฐประหารล้มรัฐบาล ร้อยละ 11.83 ระบุว่า พรรคร่วมรัฐบาลจ้องจะล้มนายกฯ แพทองธาร ร้อยละ 10.08 ระบุว่า การทำงานของพรรคฝ่ายค้านที่จะนำไปสู่การล้มลงของรัฐบาล และร้อยละ 0.46 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

ท้ายที่สุดเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนต่อบทบาทของ คุณทักษิณ ชินวัตร ที่จะส่งผลกระทบต่อคะแนนนิยมทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยในช่วงรัฐบาลนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 40.23 ระบุว่า ส่งผลกระทบในทางลบต่อคะแนนนิยมทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย รองลงมา ร้อยละ 33.29 ระบุว่า ไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อคะแนนนิยมทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 22.21 ระบุว่า ส่งผลกระทบในทางบวกต่อคะแนนนิยมทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย และร้อยละ 4.27 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

แน่นอนว่า นี่เป็นเพียงผลสำรวจในช่วงแรกๆ ที่เริ่มออกมายังไม่อาจวัดผลอะไรได้มากนัก แต่ถึงอย่างไร เมื่อเปิดหัวกันมาแบบนี้ถือว่าไม่ค่อยโสภากันเท่าไหร่นัก เพราะอีกด้านหนึ่งมันจะกลายเป็น “ภาพจำ” ในทางลบในระยะยาว เพราะส่วนใหญ่ในทางการเมืองมักจะมีเวลาในช่วง “ฮันนีมูน” อย่างน้อยสามเดือนถึงหกเดือน แต่นี่ “อุ๊งอิ๊ง” เริ่มด้วย “ความไม่เชื่อมั่น” ด้วยเปอร์เซ็นต์ที่สูงมาก เพราะเมื่อรวมความไม่ค่อยเชื่อมั่น ร้อยละ 35.42 บวกด้วยไม่เชื่อมั่นเลย ร้อยละ 22.52 รวมแล้วก็เกินครึ่งหนึ่งแล้ว ขณะที่บอกว่า “ค่อนข้างเชื่อมั่น” แค่ 28.17 เท่านั้น ส่วน “เชื่อมั่นมาก” เพียงแค่ 13.13 เท่านั้น

แต่ที่น่าตกใจไปอีกก็คือ เมื่อสอบถามความเห็นเรื่อง บทบาทของ นายทักษิณ ชินวัตร ทำให้ส่งผลกระทบในทางลบต่อคะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทยและรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สูงถึงร้อยละ 40.23 เลยทีเดียว ถือว่าน่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะก่อนหน้านี้ ทั้ง นายทักษิณ รวมไปถึงผู้สนับสนุนต่างมั่นใจว่า การแสดงบทบาทชี้นำของเขา น่าจะสร้างความเชื่อมั่น สร้างการยอมรับให้กับทั้งตัวนายกรัฐมนตรี และรัฐบาล แต่เมื่อผลออกมาเป็นตรงกันข้ามแบบนี้ทำให้ต้องมาประเมินกันใหม่

อย่างไรก็ดีหากมองในอีกมุมหนึ่งมันอาจสะท้อนความเป็นจริงแบบนี้มาตั้งแต่ต้นแล้วก็ได้ เพราะหากพิจารณาจากแบ็กกราวด์และการแสดงบทบาทของตัว นายกรัฐมนตรีเอง ทั้งก่อน และระหว่างดำรงตำแหน่งยังทำได้ไม่น่าประทับใจนัก ไม่ว่าจะเป็นช่วงการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภายังทำได้ไม่ดีพอ ลักษณะเป็นการ “อ่านโพย” แบบไม่เงยหน้า ไม่ชี้แจงตอบคำถาม ขณะเดียวกันเมื่อเกิดภาวะน้ำท่วมร้ายแรงภาคเหนือในหลายจังหวัด แต่กลายเป็นว่าการ “แอ็กชั่น” ของน.ส.แพทองธาร ยังล่าช้า การบริหารจัดการและการแสดงภาวะผู้นำ ยังทำได้ไม่โดดเด่นพอ ทั้งที่บางครั้งอาจเป็นการใช้สถานการณ์ในการสร้างการยอมรับและสร้างภาพจำที่ดีได้

แต่ที่ผ่านมา การลงพื้นที่ในสองเหตุการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา ทั้งที่จังหวัดน่านก่อนหน้านี้ และล่าสุดที่จังหวัดเชียงราย ผลออกมาไม่เป็นผลบวกกับนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลได้มากนัก โดยเฉพาะการอ่านโพยบรรยายสภาพน้ำท่วม และความพร้อมในการช่วยเหลือชาวบ้าน ถือว่าสอบไม่ผ่าน

ดังนั้นแม้ว่าผลสำรวจล่าสุดที่ออกมาสะท้อนภาพที่ไม่เป็นบวกให้กับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และ นายทักษิณ ชินวัตร ถือว่าผิดความคาดหมายไปมาก แต่ขณะเดียวกันมันก็ส่งสัญญาณไม่ดีสำหรับพวกเขาและรัฐบาลที่เพิ่งเริ่มต้นได้ไม่นาน เพราะหากเปิดหัวมาไม่ดีแบบนี้ หนทางข้างหน้ามันยิ่งลำบาก โดยสำหรับ นายทักษิณ ที่ถือว่าเป็นทุกอย่าง หากสายตาของชาวบ้านในปัจจุบันมองเป็นลบมันก็ถือว่าเสี่ยงหายนะเหมือนกัน !!