xs
xsm
sm
md
lg

ก้าวไกลรู้ชะตา ป่วนก่อนยุบ !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พิธา ลิ้มเจริญรัตน์  - ศิริกัญญา ตันสกุล
เมืองไทย 360 องศา

ลุ้นระทึกกันเลยทีเดียวสำหรับ พลพรรคก้าวไกล บรรดา “ด้อมส้มสามนิ้ว” ทั้งหลาย เพราะอย่างที่รู้กันดีว่า วันที่ 7 สิงหาคม ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ร้องให้ยุบพรรค

โดยก่อนหน้านั้น คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยนายทะเบียนพรรคการเมืองยื่นคำร้องกรณีมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคก้าวไกล มีพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเข้าลักษณะกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อันเป็นเหตุแห่งการยุบพรรคผู้ถูกร้องตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92 วรรคหนึ่ง (1) และ (2) ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะออกนั่งบัลลังก์ เพื่ออ่านคำวินิจฉัย ตั้งแต่เวลา 15.00 น.เป็นต้นไป

ที่ต้องบอกว่าลุ้นระทึก เพราะหลายคนเชื่อในแบบที่ว่าโอกาส “ยุบ” สูงมาก เพราะเมื่อพิจารณากันตามรูปการณ์แล้ว เนื่องมาจากเป็น “ช็อตต่อเนื่อง” จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัย จากการถูกร้องด้วยข้อหาตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 92 นั่นคือ เมื่อคณะกรรมการมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองใดกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้น

(1) กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ

(2) กระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

อีกทั้ง เมื่อวันที่ 31 มกราคม ที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัย กรณีที่มีผู้ร้องยื่นให้วินิจฉัยกรณี พรรคก้าวไกลใช้การเสนอแก้ไข มาตรา 112 เป็นนโยบายหาเสียง และศาลฯก็วินิจฉัยว่า เป็นการล้มล้างการปกครองฯ มีเจตนาเซาะกร่อนบ่อนทำลาย แบ่งแยกสถาบันออกจากชาติ เป็นเหตุให้สถาบันชำรุดทรุดโทรม เสื่อมทราม หรือ อ่อนแอลง”จนนำมาซึ่งช็อตต่อเนื่องดังกล่าวนั่นเอง และในวันที่ 7 สิงหาคม ที่ว่านี้ นอกจากลุ้นว่าจะถูกยุบพรรคหรือไม่แล้ว ยังเป็นการพ่วงการที่คณะกรรมการบริหารพรรคถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปีด้วย

แม้ว่าคณะกรรมการชุดนี้ จะถูกมองว่าเป็นพวก “แถวสอง” เมื่อเทียบกับกรณีถูกยุบพรรคอนาคตใหม่เมื่อหลายปีก่อนจากกรณี “ปล่อยเงินกู้ให้พรรค” ซึ่งคราวนั้นมี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นหัวหน้าพรรค และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เป็นเลขาธิการพรรค แต่ถึงอย่างไร พวกแถวสองวันนี้ กลับกลายเป็นว่าพวกเขากำลัง “ฮอต” กว่าชุดแรกเสียอีก โดยเฉพาะนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่หากต้องโดนก็ยาวไปเลย รวมไปถึงบรรดาอื่นๆ เช่น นายชัยธวัช ตุลาธน ที่เป็นหัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน แต่ขณะที่เกิดเรื่องนั้นเขาเป็นเลขาธิการพรรค และ นายพิธา เป็นหัวหน้าพรรค

อย่าได้แปลกใจที่เวลานี้บรรดาสมาชิกพรรค และแกนนำพรรคทั้งหลายจะรู้สึกหวั่นไหว เหมือนกับ “รู้ชะตากรรม” กันล่วงหน้าแล้วว่า “โดนแน่” ทำให้เกิดรายการ “ปลุกเร้า” ทั้งในและภายนอกกันอย่างเต็มที่ เรียกว่า “เร้า” กันเต็มพิกัด โดยเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ที่ผ่านมาพรรคก้าวไกล ได้เลือกเอาวันสำคัญของคนไทยทั้งชาติ เชิญชวนในลักษณะเหมือนกับต้องการแสดงความเคลื่อนไหวบางอย่าง ที่ไม่ว่ามองในมุมไหนก็เหมือนกับการ “กดดัน” และปลุกระดมสังคม มีการจัดกิจกรรมที่พรรคในวันที่ 7 สิงหาคม ตั้งแต่บ่ายยันค่ำ

อย่างไรก็ดี นาทีนี้ถือว่ามีการ “มองข้ามช็อต” ไปแล้วเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะการเตรียมหาพรรคใหม่ รวมไปถึงการวางตัวหัวหน้าพรรคคนใหม่เอาไว้พร้อมแล้ว ซึ่งก็คือ นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล ที่ปัจจุบันเป็นรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล นั่นเอง

นางสาวศิริกัญญา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลปล่อยคลิปวิดีโอโหมโรงก่อนศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคดียุบพรรค ซึ่งมีบทสัมภาษณ์ของตนเองมากกว่าคนอื่น ทำให้ถูกมองว่าอาจจะเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ ว่า คลิปนี้ถ่ายไว้สักพักแล้ว เป็นช่วงที่มีการประชุมสามัญประจำปี แต่พอมีเรื่องต่างๆ เข้ามา ก็เลยเพิ่งมาปล่อยในช่วงนี้ ถ้าจะมีตนมากหน่อย ก็น่าจะเป็นเพราะตนอยู่มานานกว่าคนอื่นในพรรค ตั้งแต่สมัยอนาคตใหม่ เพราะตอนนั้นเข้ามาทำงานเป็นสตาฟในการฐานะผู้อำนวยการฝ่ายนโยบาย จึงมีไทม์ไลน์อาจจะยาว เนื่องจากอยู่มานานกว่าคนอื่นเท่านั้นเอง

“วันที่ 7 สิงหาคม ก็จะเป็นการตัดสินครั้งที่สำคัญเหมือนกันนะคะ เราก็คิดว่าประชาชนส่วนหนึ่งก็คงจะเกิดข้อกังวลไม่แพ้กับเราเหมือนกัน อาจจะจำเป็นที่จะต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน สร้างความมั่นใจว่า อย่างไรพรรคก็คงเดินหน้าต่อ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม” นางสาวศิริกัญญา ระบุ

ส่วนกรณีหากพรรคก้าวไกลถูกยุบพรรค หากได้รับเลือกพร้อมจะรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคที่จะตั้งขึ้นใหม่หรือไม่ นางสาวศิริกัญญา ตอบว่า ก็แล้วแต่ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากวันที่ 7 สิงหาคม ซึ่งผลก็ออกได้หลายทาง เราก็คิดว่าการต่อสู้ของเรายังคงมีน้ำหนักและข้อเท็จจริง ก็มีความพร้อม ในด้านเทคนิค ด้านกฎหมาย เราก็มีข้อต่อสู้ที่แข็งแรง เราคงคาดหวังว่าวันที่ 7 สิงหาคม นี้ เราจะรอดพ้นจากการต้องถูกยุบพรรคอีกครั้งหนึ่งแน่นอน

ถามย้ำว่า ไม่ติดใช่หรือไม่ ถ้ามีคนเสนอชื่อ นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า “ค่ะ แล้วแต่ทางพรรค”

ส่วนขณะนี้ได้ข้อสรุปหรือยังเรื่องพรรคใหม่นั้น รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า มีการเตรียมไว้บางส่วน เราก็ไม่อยากให้กลายเป็นลางที่ไม่ดี แต่เราก็มีการเตรียมไว้แล้ว ถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นจริง ก็พร้อมที่จะไปอยู่บ้านหลังใหม่ด้วยกัน

เมื่อพิจารณากันตามรูปการณ์ ท่าทีและความเคลื่อนไหวของคนในพรรคก้าวไกล มันก็เหมือนกับการรับรู้ชะตากรรมล่วงหน้าแล้วว่า “น่าจะโดนแน่” เพียงแต่ขอใช้โอกาสแบบนี้ “ปลุกเร้า” หรือ สร้างกดดันหรือ “ป่วน” ให้เต็มที่ไว้ก่อน เพราะพิจารณาจากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยเมื่อตอนต้นปีว่ามีพฤติกรรมล้มล้างการปกครองฯรวมถึง การเสนอแก้ไขมาตรา 112 มาใช้เป็นนโยบายหาเสียง ยังเป็นการ “บ่อนเซาะกัดกร่อน แบ่งแยกสถาบันฯออกจากชาติ” ทุกอย่างมันก็ชัด อีกทั้งมติของศาลฯที่ผ่านมาก็เป็นมติเป็นเอกฉันท์ ดังนั้นหากมองตามนี้ถึงได้บอกว่า “รอดยาก” เพียงแต่ให้รอลุ้นอีกทีก็แล้วกัน อาจไม่เป็นตามนี้ก็ได้ !!


กำลังโหลดความคิดเห็น