xs
xsm
sm
md
lg

งามไส้ "บิ๊กดีเอสไอ" ร่วมวงปาร์ตี้บ้านเครือข่าย "คดีโกงปตท." นี่หรือไม่ ที่คดีไม่ไปถึงไหน !? ** “ศิริกัญญา” พร้อมนั่งหัวหน้าพรรคใหม่ หากก้าวไกลถูกยุบ จะได้วัดฝีมือกับ“อุ๊งอิ๊ง”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง - ธนกร นันที  - พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ -ศิริกัญญา ตันสกุล
ข่าวปนคน คนปนข่าว


 ++ งามไส้ "บิ๊กดีเอสไอ" ร่วมวงปาร์ตี้บ้านเครือข่าย "คดีโกงปตท." นี่หรือไม่ ที่คดีไม่ไปถึงไหน !?

งานนี้ "ทวี สอดส่อง" รมว.ยุติธรรม ไม่สอดส่องไม่ได้แล้ว

ไม่ใช่แค่สอดส่องอย่างเดียว ต้องเรียก "บิ๊ก" คนที่ว่ามาเค้นเอาคำตอบให้ปรากฏว่าจริงหรือไม่ อย่างไร และก็ต้องแจ้งต่อสาธารณะให้ทราบด้วย

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เพราะเมื่อหลายวันก่อน มีคนเห็นคนหน้าตาคล้าย "พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ" รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ไปร่วมวงสังสรรค์เฮฮาปาร์ตี้ ที่บ้านของ "ธนกร นันที"
 
งานปาร์ตี้ทั่วไป ใครๆ ก็มีได้ไม่แปลก แต่กรณีนี้ระหว่างเจ้าที่ระดับสูงของรัฐ ซึ่งต้องดูแลรับผิดชอบคดีพิเศษ กลับไปร่วมวงกับคนที่ถูก ป.ป.ช.กล่าวหา และ มีสายสัมพันธ์เป็นเครือญาติกับผู้ที่กำลังถูกดำเนินคดีโกงปตท. อย่างนี้ก็ได้หรือ!?

แบบนี้ไม่เรียกว่า "งามไส้" จะเรียกว่าอะไร

ดูไม่จืดจริงๆ... พ.ต.ต.ยุทธนา รักษาการ อธิบดี DSI กำลังจะขึ้นเป็นอธิบดี กับ "ธนกร นันที" อดีตนักการเมือง อดีตเลขาฯ "สุวัจน์ ลิปตพัลลภ" ผู้ที่ถูกองค์คณะป.ป.ช.กล่าวหาพัวพันคดีปาล์มอินโดฯ ที่สร้างความเสียหายให้กับ ปตท. กว่า 2 หมื่นล้านบาท และยังเป็นเครือญาติกับบุคคลที่ถูกดำเนินคดีสต็อกลม 2 พันกว่าล้านบาท ของ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล หรือ GGC ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ ปตท.
 
อยู่ด้วยกัน ร่วมปาร์ตี้ดวดเหล้า ดื่มไวน์ กับพรรคพวกด้วยกัน

มองมุมไหนก็ไม่สมควร! เหมิดคำสิเว้า!

ประเทศชาติยังจะมีความหวังกับองค์กรอย่าง DSI อีกหรือ !?

“ธนกร” เปิดบ้านแล้วเชิญบิ๊กดีเอสไอมาร่วมวงครั้งนี้ นอกจากแสดงถึงความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างคนทั้งสอง ยังยืนยันถึงพฤติการณ์ของ พ.ต.ต.ยุทธนา ที่ผ่านมาว่า นี่หรือไม่ ที่คดีสต็อกลมของ GGC ไม่ไปถึงไหน!?

คดีสต็อกลมของ GGC เรื่องเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2561 โดย GGC ได้แจ้งความคดีวัตถุดิบคงคลังของบริษัทสูญหาย

จากนั้นสำนักงาน กลต. ได้กล่าวโทษอดีตกรรมการผู้จัดการและผู้บริหาร GGC 2 ราย พร้อมคู่ค้าอีก 9 ราย ซึ่งในจำนวนนี้ มีเครือญาติของ “ธนกร”รวมอยู่ด้วย ฐานร่วมกันดำเนินการให้ GGC ซื้อวัตถุดิบและจ่ายชำระเงินค่าซื้อเต็มจำนวนให้แก่ผู้ขาย โดยไม่ได้รับวัตถุดิบทั้งหมด หรือได้รับเพียงบางส่วน รวมทั้งกรณีส่งมอบวัตถุดิบไปกลั่นโดยไม่ได้มีการกลั่นจริง อันทำให้ GGC ได้รับความเสียหาย คิดเป็นมูลค่าความเสียหายรวม 2,157 ล้านบาท
 
GGC ในฐานะผู้เสียหายได้ติดตามเร่งรัดการดำเนินคดีทั้งคดีแพ่งและคดีอาญากับอดีตผู้บริหาร และคู่ค้าทุกรายมาอย่างต่อเนื่อง จนหลายๆ คดีศาลได้พิพากษาตัดสินถึงที่สุดแล้ว และหลายคดีมีความคืบหน้าไปอย่างมาก และการสืบสวนสอบสวนคดีอาญาโดย “กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ” หรือ ปอศ. ได้สรุปสำนวนเพื่อเตรียมส่งฟ้องอดีตผู้บริหาร และ คู่ค้าทุกรายต่ออัยการ

ทว่า..กำลังจะยื่นฟ้อง ปลายปีที่แล้ว จู่ๆ DSI สอดมือมายุ่ง ใช้อำนาจตามกฎหมายโอนคดีสต็อกทิพย์ ไปเป็นคดีพิเศษ ของ DSI หน้าตาเฉย!
 
ตอนนั้นมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่า กลุ่มผู้ถูกดำเนินคดี มีความสนิทสนมกับผู้ใหญ่ใน DSI ลอบบี้ให้คดีมาอยู่ที่ DSI จะได้หาทางช่วยเหลือกัน

ทั้งที่ DSI มีงานล้นมือ มีคดีพิเศษที่ต้องทำ และที่นายกรัฐมนตรี “เศรษฐา ทวีสิน” สั่งให้เร่งหลังจากที่อืดเป็นเรือเกลือ เช่น คดีหมูเถื่อน คดีสตาร์ค

รักษาการอธิบดีดีเอสไอ “พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ” แทนที่จะทำคดีสต็อกลมให้เสร็จ กลับมีเรื่องชวนสงสัย เมื่อเป็นคนเดียวเข้าไปติดต่อผู้บริหารระดับสูง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ปตท. เพื่อมาตรวจสอบการทำงานของ GGC ว่า บกพร่องหรือไม่
ปรากฏว่า ปตท. ตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้วสรุปว่าทำถูกต้องทุกอย่าง ไม่มีข้อบกพร่อง “พ.ต.ต.ยุทธนา”ก็หน้าแหกไป

ว่ากันว่า “พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ” เป็นรองอธิบดีดีเอสไอที่ "พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง" รมว.ยุติธรรม ซึ่งเป็นเจ้านายเก่า และสนิทสนมกันมาก อยากจะตั้งเป็นอธิบดีดีเอสไอ ตัวจริง หลังจากอธิบดีคนก่อนหน้า โดนพิษหมูเถื่อนตกเก้าอี้ แต่ติดที่ปลัดกระทรวงฯ ไม่ยอม เพราะว่า คนจะขึ้นเป็นอธิบดี จากรองอธิบดี ต้องไปเป็นผู้ตรวจราชการก่อน 1 ปี
 
ดังนั้น “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” ต้องแก้เกมด้วยการเอา “พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ” มารักษาการอธิบดีจนถึงปัจจุบัน และรอผลักดันเสนอ ครม.เพื่อแต่งตั้งให้ได้
 
ปาร์ตี้บ้าน “ธนกร” ที่มีคนเห็นคนหน้าตาคล้าย “พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ” ไปร่วมด้วยช่วยเมานี้ หาก “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” จะทำไม่รู้ไม่ชี้ ไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วยังดันก้นกันให้นั่งเก้าอี้ใหญ่ คดีทั้งหลายทั้งมวลที่ DSI ทำ จะให้สังคมเขาคิดกันอย่างไรว่า องค์กรนี้น่าเชื่อถือ !?


++ “ศิริกัญญา” พร้อมนั่งหัวหน้าพรรคใหม่ หากก้าวไกลถูกยุบ จะได้วัดฝีมือกับ“อุ๊งอิ๊ง”

วันที่ 7 ส.ค.นี้ ศาลรัฐธรรมนูญ นัดพิจารณาวินิจฉัย ชี้ขาดคดียุบพรรคก้าวไกล ข้อหาล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ซึ่งทางพรรคได้ออกประกาศ เชิญชวนประชาชน และแฟนคลับ ให้ใส่เสื้อที่มีตราสัญลักษณ์พรรคก้าวไกล ไปร่วมรับฟังคำวินิจฉัยพร้อมกัน ที่ทำการพรรคก้าวไกล อาคารอนาคตใหม่ ตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป
ไฮไลต์สำคัญระหว่างรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ คือ “ปิยบุตร แสงกนกกุล” เลขาธิการ คณะก้าวหน้า จะมาบรรยายพิเศษ ในหัวข้อ “ศาลรัฐธรรมนูญกับการยุบพรรคการเมือง”

นอกจากนี้ ทาง “เพจพรรคก้าวไกล” ยังได้เผยแพร่คลิปวีดีโอ หัวข้อ “จากอนาคตใหม่ สู่ก้าวไกล สู่อนาคต” ซึ่งคลิปดังกล่าวเป็นคล้ายการสัมภาษณ์ สส.ระดับแกนนำพรรค คือ “ศิริกัญญา ตันสกุล”รองหัวหน้าพรรค “ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” รองเลขาธิการพรรค และ “พริษฐ์ วัชรสินธุ” โฆษกพรรคว่า วันที่ 7 ส.ค.นี้ จะเกิดอะไรขึ้น และพรรคจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
โดย“ศิริกัญญา” ระบุในช่วงหนึ่งว่า หากพรรคก้าวไกลถูกยุบ ก็ไม่ได้ทำให้ประชาชนเปลี่ยนใจ หรือรู้สึกหมดหวัง เพราะพรรคก้าวไกล ได้กลายเป็นสถาบันการเมืองไปแล้ว ไม่ว่าคนจะเปลี่ยนไปกี่รุ่น หัวหน้าพรรคจะเปลี่ยนไปกี่คน แต่ความเป็นอนาคตใหม่ และความเป็นก้าวไกล จะยังคงอยู่

ล่าสุด “ศิริกัญญา” ได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า หากพรรคก้าวไกลถูกยุบ กรรมการบริหารพรรคถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ทางพรรคก็ได้เตรียมพรรคใหม่ไว้รองรับสส. และสมาชิกพรรคแล้ว ขณะเดียวกันตัวเธอก็พร้อมขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ หากสมาชิกให้ความเห็นชอบ

สำหรับประวัติ "ศิริกัญญา ตันสกุล" ชื่อเล่น “ไหม”เกิดวันที่ 4 เมษายน พ.ศ.2524 ปัจจุบันอายุ 43 ปี

ครอบครัวของ “ศิริกัญญา” มีเชื้อสายจีนแต้จิ๋ว ประกอบกิจการเดินรถเมล์ใน จ.ชลบุรี

จบมัธยมต้น ที่โรงเรียนชลกันยานุกูล จบชั้นมัธยมปลาย ที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ปริญญาตรี สาขาเศรษฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ปริญญาโท เศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์

หลังเรียนจบปริญญาโท “ศิริกัญญา’ เริ่มทำงานที่ สมาคมตราสารหนี้ ประมาณ 4 ปี ทั้งทำวิจัย ทำ Marketing research จนเก็บเงินได้ก้อนหนึ่ง จากนั้นส่งตนเองไปเรียนที่ประเทศฝรั่งเศส โดยเลือกเรียนเกี่ยวกับการแข่งขันทางการค้า ทำให้มีความรู้ เกี่ยวกับกฎหมายการแข่งขันทางการค้าไปด้วย ตอนทำวิทยานิพนธ์ ก็ทำเรื่องเศรษฐศาสตร์การเมือง

หลังกลับจากฝรั่งเศส เริ่มทำงานในสายวิชาการ เป็นนักวิจัย งานวิจัยส่วนใหญ่เกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์มหภาค วิเคราะห์ Outlook เศรษฐกิจประเทศไทย , นโยบายสาธารณะ หรือนโยบายการคลัง เป็นประสบการณ์ที่นำมาใช้การในการทำงานสภา โดยตำแหน่งสุดท้ายคือ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย สถาบันอนาคตไทยศึกษา

"ศิริกัญญา" เข้ามาสู่เวทีการเมือง ด้วยการชักชวนของ “ชัยธวัช ตุลาธน” หัวหน้าพรรคก้าวไกลคนปัจจุบัน โดยเข้ามาเป็นผู้จัดการฝ่ายนโยบาย ของพรรคอนาคตใหม่ ตั้งแต่ช่วงที่มีการก่อตั้ง และเธอได้เป็น สส.บัญชีรายชื่อ มา 2 สมัย คือ การเลือกตั้งในปี 2562 กับปี 2566

งานสำคัญในฐานะสส. นอกจากการทำนโยบายพรรคแล้ว บทบาทในสภาเธอถูกยกให้เป็นดาวสภาคนหนึ่ง ที่อภิปราย ตรวจสอบ การใช้งบประมาณของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้อย่างมีน้ำหนัก

หลังการเลือกตั้ง ปี 2566 พรรคก้าวไกลชนะเลือกตั้ง ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ช่วงนั้น “ศิริกัญญา” ก็มีชื่อเป็น ว่าที่ “รมว.คลังหญิงคนแรก” และในช่วงที่ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ลาออกจากหัวหน้าพรรค เธอก็เป็นแคนดิเดต หัวหน้าพรรคก้าวไกล เพียงแต่สุดท้าย คนที่ได้เป็นหัวหน้าพรรคตัวจริง คือ “ชัยธวัช ตุลาธน”

หากวันที่ 7 สิงหาคม นี้ ศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินยุบพรรคก้าวไกล และกรรมการบริหารพรรคถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง คนเด่น คนดังอย่าง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ -ชัยธวัช ตุลาธน -ปดิพัทธ์ สันติภาดา ก็จะถูกตัดสิทธิ์ จึงถึงเวลาของ “แกนนำแถว 3” จะขึ้นมาเป็นผู้นำพรรค

อาทิ... ศิริกัญญา ตันสกุล -พริษฐ์ วัชรสินธุ- รังสิมันต์ โรม - วิโรจน์ ลักขณาอดิศร-ณัฐวุฒิ บัวประทุม-สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ - ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ - กรุณพล เทียนสุวรรณ -วาโย อัศวรุ่งเรือง เป็นต้น

พิจารณาแล้ว “ศิริกัญญา” ที่มีบารมีเป็นถึง หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ และได้พิสูจน์ฝีมือให้เห็นแล้วว่า ตัวเธออยู่ในระดับมันสมองของพรรค การขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคจึงไม่ใช่เรื่องไกลเกินจริง

และหาก “ศิริกัญญา” ได้ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคจริง จะได้วัดกึ๋น วัดฝีมือ กับ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กันไปเลยว่าใครจะแน่กว่ากัน


กำลังโหลดความคิดเห็น