xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ ตอบกระทู้ “ไหม” ปรับดิจิทัลวอลเล็ต ยึดตามข้อมูลจริง-ฟังรอบด้าน ยันจับมือพรรคร่วมสร้างปัจจุบันที่ดีกว่า พร้อมสู้แรงค้านที่ไร้อนาคต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เศรษฐา” ตอบกระทู้สดฝ่ายค้าน แจงลดจำนวนคนได้เงินดิจิทัลวอลเลต เหลือ 45 ล้านคน คาดจากข้อมูลแจกเงิน รบ.เก่า ปรับเปลึ่ยนสินค้า พิสูจน์รัฐบาลรับฟังความเห็นรอบด้าน ยัน 24 ก.ค. มีความชัดเจน ระบุมีหลายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ยันจับมือพรรคร่วม สร้างปัจจุบันที่ดีกว่า พร้อมสู้แรงค้านที่ไร้อนาคต

วันนี้ (11 ก.ค.) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กระทู้ถามสด นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ เรื่อง โครงการเติมเงินผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ว่า กรณีที่มีการแถลงเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต ที่มีการปรับแก้เงื่อนไขเพิ่มเติมออกมามากมาย เปลี่ยนไปมาตลอดเวลา มือถือจากเดิมที่บอกว่าซื้อได้ เมื่อวานนี้ย้ำว่าซื้อไม่ได้ ส่วนปุ๋ยเมื่อวันก่อนบอกว่าซื้อไม่ได้ แต่วันนี้ซื้อได้ แล้วเงื่อนไขประหลาดเกี่ยวกับเครื่องใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ บอกว่าจะซื้อไม่ได้ทั้งที่คนไทยผลิตเองหลายผลิตภัณฑ์ แต่ที่สำคัญ คือ การปรับลดเป้าหมายเหลือ 45 ล้านคน โดยอ้างว่าจะมีคนมีสิทธิแต่ไม่มาลงทะเบียนประมาณ 10% และอาจจะไม่ยืมเงิน ธ.ก.ส.แล้ว เพราะมีเงินที่จะแจกเพียงแค่ 4.5 แสนล้านบาท คำถามว่าตอนนี้งบประมาณมีไม่พอแล้วหรืออย่างไร งบจาก ปี 67 ที่เคยจะใช้ 1.7 แสนล้านบาท ตอนนี้เหลือเพียงแค่ 1.6 แสนล้าน ส่วนที่เหลือจะไปใช้ในปี 68 จำนวน 2.5 แสนล้านบาท ถามว่า หากสุดท้ายหากคนมาลงทะเบียน 50 ล้านคน จะทำอย่างไร ยังจะได้รับสิทธิอยู่หรือไม่ และอีก 5 หมื่นล้านบาท จะนำเงินที่ไหนมาใช้ หรือจะใช้เงินคงคลัง

“ความจริงถามไปก็เท่านั้น เพราะท่านคงต้องตอบว่ารอความชัดเจนก่อน แต่ถ้าตอบอะไรได้ก็ขอให้ตอบก่อน ตกลงจะมีการใช้งบกลางของ ปี 67 หรือไม่ หรือจะบริหารจัดการอย่างไร มีการใช้เงินทุนสำรองจ่ายที่อยู่ในอำนาจของรัฐมนตรีคลังหรือไม่”
โดย นายเศรษฐา ชี้แจงยืนยันว่า โครงการดังกล่าวจะมีการแถลงความชัดเจน ในวันที่ 24 ก.ค.นี้ ส่วนการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ เช่น ประเภทของสินค้า นั้นแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลได้ฟังความเห็นของประชาชน ผู้ประกอบการ และฝ่ายค้าน เพื่อให้โครงการประสบความสำเร็จเป็นรูปธรรม โดยปรับปรุงแต่งให้โดนใจปะชาชนและถูกจุดประสงค์ที่มีเป้าหมาหลัก คือ กระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนงบประมาณที่จะนำมาใช้ คือ งบกลาง จำนวน 4.3 หมื่นล้านบาท โดยจะพยายามเตรียมงบให้เต็มที่ และพินิจพิเคราะห์ได้อย่างดี เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย ซื่อสัตย์ ตามกติกาของการใช้งบที่ถูกต้อง

“โครงการดิจิทัลวอลเล็ตเป็นนโยบายหลัก ใช้เงินหมื่นบาท โดยใช้ให้จำกัดพื้นที่เพื่อให้เกิดการพัฒนากระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดที่มีการพัฒนาต่ำ เช่น จังหวัดหนองบัวลำภู จังหวัดมหาสารคาม เพื่อพัฒนาเศษฐกิจภูมิภาค” นายเศรษฐา ชี้แจง
นายกฯ ชี้แจงด้วยว่า สำหรับการใช้งบกลางไม่ใช่กันไว้เพื่อโครงการดังกล่าวเท่านั้น แต่ใช้เพื่อบรรเทาความทุกข์ยากของประชาชนด้วย สำหรับประเด็นที่ตั้งถามถึงการแก้ปัญหาเศรษฐกิจด้านอื่นๆ หรือไม่นั้น รัฐบาลมีมาตรการเพื่อพยุงเศรษฐกิจ เช่น การกระตุ้นการท่องเที่ยว ยกเว้นวีซ่า สร้างความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว รวมถึงอุตสาหกรรมรถอีวี เป็นต้น

“มีเงินใหม่เข้ามาในระบบ 4.7 แสนล้านบาท หรือ 5 แสนล้านบาท ผลิตสินค้ารองรับการซื้อของประชาชนในระบบหรือไม่ เกิดการผลิต การจ้างงาน ประชาชนมีความหวัง นอกจากนั้นแล้ว ยังต้องแก้ไขปัญหาสังคมที่ผูกโยงกับปัญหาเศรษฐกิจ เช่น ปัญหายาเสพติด ซึ่งผมได้ลงพื้นที่ และพูดคุยกับ เจ้าหน้าที่ กอ.รมน. ทั้งนี้ กอ.รมน. ไม่เห็นด้วยให้ยุบ เพราะ กอ.รมน. ยังมีบทบาทในมิติความมั่นคง รวมถึงการดูแลประชาชน ดูแลชายแดน” นายกฯ ชี้แจง

นายเศรษฐา ชี้แจงต่อคำถามเกี่ยวกับมาตรการช่วยค่าครองชีพของประชาชน ว่า ทางแก้ทางหนึ่ง คือ ความร่วมมือด้านความมั่นคงพลังงาน แหล่งพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลบริเวณไหล่ทวีประหว่างไทยและกัมพูชา หรือ โอซีเอ ซึ่งรัฐบาลประกาศจะแก้ไข เท่าที่ฟังตัวเลขจากการประเมินในพื้นที่ทับซ้อนกัมพูชา ถึง 20 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ เพื่อแก้ปัญหาโครงสร้างทางพลังงาน ให้มีใช้ในประเทศไม่ต้องนำเข้า

ทั้งนี้ น.ส.ศิริกัญญา ตั้งคำถามด้วยว่า สิ่งที่นายกฯ ไม่ได้ตอบคำถามที่ถาม ยืนยันว่า ไม่มีมาตรการพยุงค่าครองชีพประชาชนระยะสั้นเฉพาะหน้า ไม่มีการแก้ปัญหาโรงงานปิดกิจการและเอสเอ็มดีล้ม วินิจฉัยโรคถูก แต่ทางออกมืด 8 ด้าน ไม่มีรูปธรรม ไม่ต้องรอดิจิทัลวอลเล็ต หรือรอนักลงทุนแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างไร หากงบประมาณไม่พอใช้ช่วยเหลือเยียวยา ค่าครองชีพ ก่อน รอถึงปลายปีนี้ ตนมีข้อเสนอให้รัฐบาลสร้างแรงจูงใจท้องถิ่นนำเงินสะสมท้องถิ่น 2 หมื่นล้านบาท ใช้เพื่อลงทุนขนาดเล็ก เกิดการจ้างงานในพื้นที่ชนบท ที่ผ่านมา นายกฯ เน้นการช่วยเหลือกลุ่มทุน มีมาตรการช่วยเหลือเน้นภาคอสังหาริมทรัพย์ และล่าสุด ที่นายกฯ ให้ศึกษาเกี่ยวกับประเด็นทรัพย์อิงสิทธิ ให้ต่างชาติ 99 ปี ซึ่งเป็นมาตรการช่วยเหลือด้านอื่นมากกว่าประชาชน
ขณะที่ นายเศรษฐา ชี้แจงยืนยันว่า รัฐบาลได้ดำเนินการมาตรการช่วยเหลือ ในกรณีของการศึกษาการให้ต่างชาติเช่าอสังหาริมทรัพย์เป็นเวลา 99 ปี มีการเสนอให้ศึกษาเรื่องดังกล่าว เพราะมีฝ่ายต่างประเทศเรียกร้อง ให้ปรับจากจาก 30 ปี เป็น 99 ปี ดังนั้น ต้องศึกษาว่าเหมาะสมหรือไม่ หากทำแล้ว จะส่งผลระยะยาวต่อโครงสร้างเศรษฐกิจไทย การลงทุนระหว่างประเทศสูงขึ้นหรือไม่

“ยืนยันว่า ไม่ใช่เรื่องขายชาติ แต่ต้องศึกษาและตั้งใจทำให้ซื่อสัตย์ สุจริต ปลอดจากผลประโยชน์ทับซ้อน ไม่ได้มีการกดดันใครทั้งสิ้น รัฐบาลนี้ภายใต้การนำของผม เราจะวิ่งสู้เพื่ออนาคตและทุกพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคจะร่วมวิ่งสู้ต่อไป เพื่อปัจจุบันที่ดีกว่า เราต้องสู้กับแรงค้านที่ไร้อนาคต” นายเศรษฐา ชี้แจง


กำลังโหลดความคิดเห็น