ข่าวปนคน คนปนข่าว
** เกมลูกพี่-ลิ่วล้อ “โจ๊ก-ตั้ม” รุมขย้ำ“บิ๊กต่อ” กดดัน ก.ตร.ก่อนนัดชี้ชะตาวันนี้
สองคู่หู ลูกพี่-ลิ่วล้อ “โจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล และ “ทนายตั้ม” ษิทรา เบี้ยบังเกิด เคลื่อนไหวกันคนละที แต่เป้าหมายเดียวกัน คือ รุมขยี้ บี้ “บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.
เกมนี้เป็นความพยายามดิ้นเฮือกสุดท้าย ก่อนที่ ก.ตร. จะประชุมวาระพิจารณาการให้ออกจากราชการของ “โจ๊ก” ในวันนี้ (26 มิ.ย.)
“โจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ส่ง พล.ต.ต.พงษ์นคร นครสันติภาพ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรมสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เป็นตัวแทนไปยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ให้พิจารณายกเลิก หรือเพิกถอนคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจออกจากข้าราชการไว้ก่อน
เนื้อหาในหนังสืออ้างว่า กรณีที่ “พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์” รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ในขณะนั้นมีคำสั่ง แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน และให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อนเมื่อวันที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งคำสั่งดังกล่าวขัดกับพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ 2565 จึงถือว่าเป็นคำสั่งโดยไม่ชอบ
เมื่อ “พล.ต.อ.ต่อศักดิ์” กลับมาปฏิบัติหน้าที่ ผบ.ตร. ตามเดิม จึงขอให้พิจารณาตามอำนาจหน้าที่เพื่อระงับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการใช้ดุลยพินิจโดยไม่ชอบ ไม่ถูกต้องและไม่เป็นธรรม ของ “พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ” พร้อมทั้งมอบหมายหน้าที่และความรับผิดชอบ ให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล กลับเข้าไปรับตำแหน่งหน้าที่ตามเดิม
หนังสือของ “โจ๊ก”ขู่ด้วยว่า หากพบว่า “พล.ต.อ.ต่อศักดิ์” ไม่ดำเนินการ ละเลย หรือประวิงเวลา จนได้รับผลกระทบหรือได้รับความเสียหายต่อสิทธิที่ควรจะได้รับ ถือว่ามีเจตนากระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ขณะที่ “ทนายตั้ม” ษิทรา เบี้ยบังเกิด ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เพื่อให้กำชับเร่งรัดการสอบสวนคดี ที่ก่อนหน้านี้ตนเองได้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษ ให้ดำเนินคดีกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และภรรยา และบัญชีม้าอีก 2 ราย ในความผิดฐานสมคบกันฟอกเงินเว็บพนันออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. ที่ผ่านมา
งานนี้ เป็นการยื่นหนังสือถึง “บิ๊กต่อ” เพื่อให้จัดการกับ “บิ๊กต่อ”!? เป็นใครก็ดูออก “ทนายตั้ม” เจตนาเล่นเกมมากกว่าจะต้องการความคืบหน้าคดีจริงๆ
มิหนำซ้ำ พาดพิงไปถึง “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี กำลังทำอะไรอยู่ ทั้งที่รู้ว่า ผบ.ตร.ถูกกล่าวหารับเงินคดีเว็บพนันออนไลน์ แต่กลับไม่มีการทำอะไร และอนุญาตให้กลับมาทำหน้าที่เหมือนเดิม ขณะที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ต้องถูกออกจากราชการ
“ทนายตั้ม” อ้างว่า ไม่ได้รู้กันกับ “ลูกพี่โจ๊ก” แต่ชาวบ้านเขารู้ทัน เพราะพฤติการณ์มันฟ้อง “อ้าปากก็เห็นถึงลิ้นไก่”
ระหว่าง “โจ๊ก” กับ “ทนายตั้ม” ความสัมพันธ์กันเป็นอย่างไร รับรู้กันมานานแล้วว่าทั้งคู่มีความสนิทสนมกันอย่างมาก
ถ้าจะเล่นละครว่า ไม่ได้รู้กัน ไม่ได้จับมือกันเคลื่อนไหว นาทีนี้อมพระมาพูดก็ไม่มีใครเชื่อ
แถม มีรายงานว่า ระหว่างเดินทางมายื่นหนังสือที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ “ษิทรา” ขับ “ปอร์เช่” คาเยนน์ ไฮบริด ซูเปอร์คาร์ ราคาแพงเข้ามาจอดในช่องจอดรถของ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” ด้านหลังอาคาร 1 ตร. อีกต่างหาก
โชว์พาวด์ความเป็นทนาย VVIP ซี้โจ๊ก ให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาสื่อ ซึ่งปกติแล้วตำรวจจะไม่อนุญาตให้รถยนต์ของประชาชนทั่วไป เข้าไปจอดในช่องจอดรถยนต์เฉพาะแบบนี้
สุดท้าย ดิ้นเฮือกสุดท้าย “โจ๊ก” และ “ตั้ม” การละคร เลือกจังหวะเวลาออกมาเล่นเกมรุมขยี้ บี้บาดแผลบิ๊กต่อ จะกดดันก.ตร.ได้แต่ไหน ต้องติดตามผลการประชุมวันนี้อย่ากระพริบตา!
** ลงเล่นเอง!! “ทักษิณ”เข้าพรรค รับบทวิทยากรพิเศษ ติวเข้มสส.รุ่นใหม่ในโครงการ “เพื่อไทยอคาเดมี”
หลังจากได้รับการพักโทษ “นักโทษเทวดา” ทักษิณ ชินวัตร ก็ลงจากชั้น 14 รพ.ตำรวจ ใส่ปลอกคอ ที่พยุงแขน กลับไปอยู่บ้านจันทร์ส่องหล้า
ต่อมาช่วงกลางเดือน มี.ค.ไป เช็งเม้ง ทำบุญให้บรรพบุรุษ ที่ จ.เชียงใหม่ แต่ดูแล้วเหมือนไปตรวจราชการ และแวะรับประทานอาหารเจ้าประจำ รำลึกความหลังที่ต้องห่างหายไปนาน
กลับจากเชียงใหม่ ก็มีบรรดารัฐมนตรี แกนนำพรรค รวมทั้งมวลชนคนเสื้อแดง อยากเข้าพบ อยากแสดงความยินดี แต่ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร เห็นว่าการไปพบที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ไม่สะดวก จึงบอกว่าไปเจอกันที่ ที่ทำการพรรคเพื่อไทยดีกว่า
บ่ายวันที่ 26 มี.ค. “ทักษิณ” ก็ถอดปลอกคอ ที่พยุงแขน เดินทางเข้าไปเหยียบพรรคเพื่อไทยเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี โดยมีแกนนำพรรค ทั้ง แพทองธาร ชินวัตร, ภูมิธรรม เวชยชัย, สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ, เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช, และอีกหลายคน รวมทั้งมวลชนคนเสื้อแดง รอให้การต้อนรับกันอย่างคึกคัก
“อุ๊งอิ๊ง” บอกว่าได้พาพ่อไปดูออฟฟิศ ดูห้องทำงานของตนเอง และทักทาย สส.ใหม่ และสส.เก่า ที่รู้จักกันตั้งแต่รุ่นพ่อ มาถึงรุ่นลูก เป็นการพบปะทักทายกันให้หายคิดถึง ไม่ได้พูดเรื่องงาน
หลังจากนั้น “ทักษิณ” ก็เริ่มออกเดินสาย ลงพื้นที่จังหวัดต่างๆ เพื่อเรียกคะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทย รวมทั้งดึงมวลชนที่เคยสนับสนุนกลับคืนมา และยังมีการให้สัมภาษณ์สื่อในประเด็นการเมืองมากขึ้น
จนมีเสียงวิพากวิจารณ์ตามมาว่า ตกลงจะกลับมาเลี้ยงหลาน หรือมาสานต่อการเมืองกันแน่
ล่าสุดเมื่อวานนี้ (25มิ.ย.) “ทักษิณ” เข้าพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง ในฐานะ “วิทยากรพิเศษ” ตามคำเชิญของ “อุ๊งอิ๊ง” เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ทางการเมืองให้กับ “ทีม PTPAcademy” หรือ Pheu Thai Party Academy ซึ่งเป็นหน่วยงานพัฒนาศักยภาพบุคลากร สร้างองค์ความรู้ทางวิชาการ เพื่อเปิดเชื่อมโยงการทำงานของพรรคกับหน่วยงานข้างนอก โดยมี สส.และแกนนำพรรคเพื่อไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่เข้าร่วม
ระหว่างบรรยาย “ทักษิณ” ยังได้แสดงความชื่นชมและให้กำลังใจ สส.ที่อภิปราย ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 68 ช่วงวันที่ 19-21 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่า ตนเองได้ติดตามการอภิปรายของ สส.รุ่นใหม่อยู่ ดูแล้วก็เห็นแนวโน้มที่ดี ก็ขอให้ทุกคนฝึกเพิ่มเติม อย่าทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว ต้องใฝ่รู้ และเรียนรู้อยู่เสมอ หากตนไม่ติดอะไรแล้ว ก็พร้อมมาเป็นผู้ช่วยหัวหน้าพรรค และให้คำปรึกษา
แน่นอนว่า การมาบรรยายครั้งนี้ สร้างความประทับใจแก่ สส.รุ่นใหม่ของพรรค บางคนก็นำรูปตนเองที่ถ่ายคู่ “ทักษิณ”ไปโพสต์ในโซเชียลฯ กันอย่างคึกคัก
อย่างเช่น “วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์” สส. เชียงราย ได้โพสต์ภาพถ่ายคู่กับทักษิณ ลงเฟซบุ๊ก พร้อมแคปชันว่า “ ความฟินของวัน คนฉลาด จะไม่ยึดตามแต่หนังสือ แต่จะนำความรู้ มารู้จักใช้ให้ทันโลก”
หรืออย่าง “ธนาธร โล่สุนทร” สส.ลำปาง ก็โพสต์ภาพถ่ายคู่กับทักษิณ พร้อมระบุว่า “วันนี้เป็นโอกาสดีมากๆ ที่ท่านอดีตนายกฯ ทักษิณ ได้มาเป็น วิทยากรพิเศษ ให้กับ PTP Acadamy ประสบการณ์ของท่าน และมุมมองทางการเมือง เศรษฐกิจ ยังคมอยู่เสมอ พวกเราได้ความรู้กลับไปมากมายครับ”
ส่วน“จิรัชยา สัพโส” สส.สกลนคร โพสต์ข้อความ พร้อมภาพถ่าย ว่า... คลาสสุดท้ายของ PTP Academy วันนี้ ท่านอดีตนายกฯทักษิณ นายกฯในดวงใจของแจม ให้เกียรติมาเป็นวิทยากรในคลาสเรียนเพื่อไทย อคาเดมีค่ะ ได้ฟังเรื่องราวจุดเริ่มของพรรคไทยรักไทย และบทเรียนของการเป็นนักการเมืองอย่างแท้จริง ที่ใช้หัวใจในการทำงาน เพื่อพี่น้อง ... ขอบคุณท่านนายกทักษิณ ที่มอบบทเรียน ทั้งกระบวนการคิด และประสบการณ์ของผู้นำบทเส้นทางการเมืองของท่าน มาให้พวกเรานักการเมืองรุ่นใหม่ ได้เรียนรู้ อย่างที่พวกเราตั้งใจไว้แต่ต้น ว่าพวกเราในฐานะพรรครัฐบาล จะทำให้พี่น้องประชาชนอยู่ดีกินดี เราจะทำให้ได้...”
นับว่าเป็นอีกก้าวหนึ่งที่ “ทักษิณ” ต้องลงมาเล่นเอง เป็นการโชว์วิชั่น เพื่อสร้างขวัญ กำลังใจ ให้กับบรรดา สส.รุ่นใหม่ของพรรคในการเตรียมสู้ศึกเลือกตั้งครั้งใหม่ เพื่อสู้กับพรรคก้าวไกล ที่มีมวลชนคนรุ่นใหม่เป็นฐานเสียงหลักที่ให้การสนับสนุนเช่นกัน
รูป -พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล -- พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล - ษิทรา เบี้ยบังเกิด
-ทักษิณ ชินวัตร (2รูป)