xs
xsm
sm
md
lg

เอาละเหวย…ทนาย “แม้ว” จ่อฟ้อง “หมอวรงค์” ปูดถุงขนมที่ฮ่องกง เรียกค่าเสียหายหลายร้อยล้าน โดนสวนทันควัน กูไม่กลัวมึง! ** *วัดใจทักษิณ เช็กบิล “คนบ้านป่า” หรือไม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม  - วิญญัติ ชาติมนตรี - ทักษิณ ชินวัตร - พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
ข่าวปนคน คนปนข่าว

**เอาละเหวย…ทนาย “แม้ว” จ่อฟ้อง “หมอวรงค์” ปูดถุงขนมที่ฮ่องกง เรียกค่าเสียหายหลายร้อยล้าน โดนสวนทันควัน กูไม่กลัวมึง!

ได้กลับไปนอนบ้านจันทร์ส่องหล้าเป็นที่เรียบร้อย สำหรับ “ทักษิณ ชินวัตร” เมื่อศาลอนุญาตให้ประกันตัวในคดี ม.112 ด้วยหลักทรัพย์ 5 แสนบาท พ่วงเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ

สร้างความอิ่มเอมใจให้บรรดากองเชียร์และผู้รับใช้ใกล้ชิด ออกอาการกระดี๊กระด๊า กันตามสมควร

ที่สำคัญ การไปปรากฏตัวของ “นายใหญ่” ที่ศาลอาญาเพื่อให้อัยการสูงสุดส่งฟ้องต่อศาลเมื่อวาน ยังเป็นการหักปากกาเซียนวิเคราะห์การเมืองหลายต่อหลายคน ที่คาดการณ์กันว่า ทักษิณ ชินวัตร จะไม่ไปพบอัยการสูงสุดตามนัดหมายวันที่18 มิถุนาฯ
บ้างก็ว่า เป็นเพราะดีลไม่ลงตัว ความมั่นใจร่อยหรอ อาจจะไม่ได้ประกันตัว ต้องกับเข้าไปนอนคุกแบบของจริง ก็เลยขอหนีไปตั้งหลักก่อนดีกว่า

แต่แนววิเคราะห์ที่สร้างความฮือฮาตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็คงไม่มีเรื่องไหนเกิน “ถุงขนมภาคสอง” ของ “หมอวรงค์ เดชกิจวิกรม” ประธานพรรคไทยภักดี ไปได้

“หมอวรงค์” โพสต์เรื่องเล่า “ถุงขนมภาค 2” ในเฟซบุ๊กของตัวเองมาตั้งแต่อาทิตย์ก่อน

ทำนองว่า มีขบวนการส่งมอบถุงขนม มูลค่าราว 2,000 ล้านบาท ผ่านบริษัทกาสิโนที่ฮ่องกง เพื่อให้อัยการชงสำนวนอ่อนๆ ให้ศาลตบง่ายๆ ในการให้ประกันตัว โดยมีระดับอธิบดีของหน่วยงานตุลาการเดินทางไปฮ่องกง เพื่อภารกิจนี้ด้วย ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา

“หมอวรงค์” โพสต์ข่าวด่วนอีกครั้ง เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2 วันก่อนกำหนดนัดหมายที่ทักษิณต้องไปพบอัยการสูงสุด ว่า “ด่วน ถุงขนม 2,000 ล้าน ประเทศสารขัณฑ์พ่นพิษ นักโทษ 112 ใช้วิธีป่วยไปนอนในโรงพยาบาลเมื่อคืน คาดว่า 18 มิถุนายนนี้ ไม่มา”
ทำให้คนที่ได้อ่าน เข้าใจว่า “ทักษิณ” จะไม่ไปพบอัยการสูงสุดตามนัด เพราะการออกมาปูดเรื่องถุงขนม 2,000 ล้าน ทำให้เกิดปัญหา อะไรทำนองนั้น

เล่นเอาบรรดาคนใกล้ชิดของทักษิณ ต้องแก้เกมด้วยการโชว์ภาพนายใหญ่ไปกินเป็ดพะโล้ ยืนยันว่าไม่ได้ป่วยเข้าโรงพยาบาลตามที่มีการปล่อยข่าว

และเมื่อ “นายใหญ่” มาปรากฏตัวต่อศาล เข้าสู่กระบวนการฟ้องร้องดำเนินคดี ไม่ได้หนี หรือขอยื้อเวลาตามข่าวลือที่ปล่อยออกมา บรรดาลิ่วล้อและบริวารก็ได้ทีขี่แพะไล่ หวังเอาคืนคนปล่อยข่าวด้อยค่านายใหญ่ให้สาสม

เมื่อวาน หลังเสร็จจากภารกิจช่วยนายใหญ่เรื่องคดีความ และการประกันตัวเรียบร้อย “วิญญัติ ชาติมนตรี” ทนายความที่ทักษิณ ให้ความไว้วางใจใช้บริการมาอย่างยาวนาน ได้ให้สัมภาษณ์นักข่าว ด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า จะถอดเทปคำพูดเพื่อดำเนินคดี “หมอวรงค์” อย่างแน่นอน พร้อมกับเรียกค่าเสียหายอยากหนัก จำนวนหลายร้อยล้านบาท ซึ่งในสัปดาห์หน้า จะเริ่มดำเนินการ
แม้เรื่องถุงขนม 2,000 ล้าน จะได้รับความสนใจจากคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) ถึงขั้นมีมติในการประชุม เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา เสนอให้ประธานศาลฎีกาพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการสดับตรับฟังข้อเท็จจริง เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นตามขั้นตอน

แต่ “ทนายวิญญัติ” ก็พยายามด้อยค่าเรื่องถุงขนมห่อเบ้อเริ่มดังกล่าว โดยบอกว่า ศาลจะรับฟังข้อเท็จจริงและแสวงหาหลักฐาน ไม่ให้น้ำหนักข่าวลือ หรือข่าวโคมลอย

ที่ ก.ต.ตั้งคณะกรรมการสดับตรับฟังข้อเท็จจริง “ทนายวิญญัติ” บอกว่า ก็เป็นเรื่องที่ดี เเต่มองว่าไม่ควรจะให้น้ำหนักเพราะมีเเต่ข่าวลือ พยานหลักฐานมีหรือไม่ถ้าศาลเชื่อข่าวลือข่าวปั้นสังคมนี้จะเชื่ออะไรได้บ้าง

ไม่เพียงแค่ทนายความส่วนตัวทักษิณเท่านั้นที่แสดงท่าที ฮึ่มๆ ใส่ “หมอวรงค์” รัฐมนตรียุติธรรมอย่าง “ทวี สอดส่อง” ที่แม้ไม่ได้อยู่พรรคเพื่อไทย แต่ก็เป็นที่รู้กันว่า คือส่วนหนึ่งของระบอบทักษิณ ก็ออกมาปราม “หมอวรงค์” เช่นกันว่า จะต้องรับผิดชอบต่อคำพูด การจะพูดข้อเท็จจริงอะไรต้องมีพยานหลักฐาน เพราะเกี่ยวข้องกับหลายองค์กร ยืนยันว่ากระบวนการยุติธรรมทุกคน ต้องทำตามกฎหมาย

“หมอวรงค์” คงไม่ใช่หมูที่กลัวน้ำร้อน หลังจากคนของนายใหญ่ ทั้งทนายความและรัฐมนตรีออกมาขู่ ก็ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ตอบโต้สั้นๆ แต่ได้ใจความว่า

“กูไม่กลัวมึง”

พร้อมขยายความเรื่องถุงขนม 2,000 ล้าน กับ “กระบวนการยุติธรรมประเทศสารขัณฑ์” ว่า เป็นข้อมูลจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ และให้ข้อมูลมาหลายครั้งแล้ว ไม่เคยผิด

แล้วเรื่องที่พูดก็เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมประเทศสารขัณฑ์ จะมาเดือดร้อนทำไม ทำไมต้องกินปูนร้อนท้อง

“หมอวรงค์” ยังย้ำว่า “การโกหกไม่ใช่สันดานของผม และผมได้โพสต์ในประเด็นที่แหล่งข่าวผมยืนยันเท่านั้น”

“ผมเชื่อว่านักโทษที่โกหกได้แม้แต่การถวายฎีกาว่า ยอมรับผิด สำนึกผิด ยอมรับในกระบวนการยุติธรรม หลังจากได้รับการพักโทษกรณีพิเศษ กลับมาพูดว่า ถูกยัดข้อหา คนพวกนี้ต่างหากที่โกหกเป็นสันดาน และควรถูกตำหนิ” หมอวรงค์สวนหมัดคืน
ก็เอาเป็นว่า ถ้า “ทนายวิญญัติ” จะฟ้อง “หมอวรงค์” ขึ้นมาจริงๆ อีกฝ่ายก็คงไม่ยอมง่ายๆ

อย่าลืมว่าโครงการจำนำข้าว สุดยอดนโยบายประชานิยมของพรรคเพื่อไทย ถึงคราวจอดไม่ต้องแจว ก็เพราะฝีมือการแฉของ “หมอวรงค์”คนนี้!!

ทักษิณ ชินวัตร - พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ  - พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ -ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
** วัดใจทักษิณ เช็กบิล “คนบ้านป่า” หรือไม่

สถานการณ์ทางการเมืองที่เคยร้อนแรงจากเรื่อง 40 สว. ยื่นถอดถอน “เศรษฐา ทวีสิน” พ้นตำแหน่งนายกฯ ด้วยปัญหาจริยธรรม ...เรื่องยุบพรรคก้าวไกล ที่มีพฤติการณ์เข้าข่ายล้มล้างการปรกครอง... เรื่องส่งตัว “ทักษิณ ชินวัตร” ขึ้นศาล ฟ้อง ม.112 และ เรื่องกฎหมายเลือกสว. ขัดรธน. หรือไม่

ถึงวันนี้ความร้อนแรงได้ลดลง เมื่อมีความชัดเจนว่า กฎหมายเลือกสว. ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ยังเดินหน้าต่อได้ ... ส่วน“ทักษิณ” ไปขึ้นศาลตามฟ้อง แล้วได้รับการประกันตัว มีเงื่อนไขห้ามออกนอกประเทศก่อนได้รับอนุญาต

สำหรับเรื่องถอดถอน “เศรษฐา” ศาลรธน. สั่งหน่วยงาน-บุคคล ทำความเห็น-ส่งหลักฐานภายใน 15 วัน ก่อนถกต่อ 10ก.ค.นี้ ส่วนคดียุบพรรคก้าวไกล สั่งบุคคลเสนอบันทึกถ้อยคำความเห็นยื่นต่อศาลใน 7 วัน นัดถกต่อ 3 ก.ค.
สามเรื่องหลังนี้ จึงยังไม่ถึงกับปลดล็อก เพียงยืดเวลาชี้เป็นชี้ตายออกไปเท่านั้น

การเมืองในภาพกว้าง มีการวิเคราะห์กันว่า หาก “เศรษฐา” ถูกถอดถอน รัฐบาลก็พ้นไปทั้งคณะ ต้องมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ เลือกนายกฯกันใหม่ ที่คราวนี้ไม่มี สว.มาร่วมโหวตแล้ว ...การตั้งรัฐบาลจะมีการจับขั้วกันใหม่หรือไม่

หากมีการยุบพรรคก้าวไกล ในจังหวะที่กำลังจะมีการตั้งรัฐบาลใหม่ บรรดา “งูเห่าสีส้ม” จะเลื้อยไปเข้าพรรคไหน เพื่อจะได้ไปอยู่ข้างรัฐบาล มีโอกาสเป็นรัฐมนตรี

ที่ผ่านมามีกระแสข่าวว่า “พรรคพลังประชารัฐ”เตรียมเปิดบ้านรับงูเห่า เพื่อเพิ่มพลังต่อรองในการสานฝัน “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีก่อนล้างมือการเมือง

ต้องไม่ลืมว่าการยื่นถอดถอน “เศรษฐา ทวีสิน” โดยกลุ่ม 40 สว.นั้น ถูกมองว่าเป็นการเดินเกมของกลุ่มอำนาจเก่า ฝ่ายอนุรักษ์นิยม เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนตัวนายกฯ เพราะเป็นที่รู้กันว่าบรรดา สว.เหล่านั้นได้รับการแต่งตั้งมาจากใคร

ไม่เช่นนั้น “ทักษิณ” คงไม่ออกมาเปิดหน้าชน ประกาศว่าการเมืองที่วุ่นวายอยู่ทุกวันนี้ เป็นเพราะ“คนบ้านป่า”

การเมืองไทยเวลานี้ จึงถูกมองว่า เป็นการห้ำหั่น ฟาดฟัน ระหว่าง “ทักษิณ ชินวัตร” นายใหญ่แห่งพรรคเพื่อไทย กับ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

แม้วันนี้ “ทักษิณ” จะมีบ่วง 112 คล้องคอ แต่ก็ยังพอมีเวลาหายใจ หายคอ กว่าคดีจะถึงที่สุด

เช่นเดียวกับคดีของ “เศรษฐา” ที่ศาลรธน. สั่งหน่วยงาน-บุคคล ทำความเห็น-ส่งหลักฐาน ก่อนถกต่อ 10 ก.ค.นี้ ซึ่งก็ยังไม่ใช่วันที่จะตัดสินชี้ขาดแต่อย่างใด

ประเด็นที่ถูกพูดถึง และถูกจับตา คือ รัฐบาลจะถือโอกาสปรับครม.ในช่วงนี้เลยหรือไม่ ถ้ามีการปรับ พรรคพลังประชารัฐจะถูกปรับออก แล้วดึงประชาธิปัตย์ และพรรคเล็กมาเสียบแทนหรือไม่

เรื่องนี้ “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะ ประธานที่ปรึกษาพรรคพลังประชารัฐ “น้องชายลุงป้อม” กล่าวถึง กระแสข่าวพรรคพลังประชารัฐ อาจจะถูกเช็กบิลออกจากพรรคร่วมรัฐบาลว่า ไม่เคยได้ยินข่าวนี้ และจากการที่ได้คุยกับ “เศรษฐา ทวีสิน” ในช่วงที่ผ่านมา ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะเอาพรรคพลังประชารัฐ ออกจากพรรคร่วมรัฐบาล หรือจะมีการปรับครม. ในเร็ววันนี้

ส่วนกระแสข่าวที่ว่า คนในพรรคพลังประชารัฐ ไปดีล “งูเห่าสีส้ม” ก็เป็นเพียงข่าวที่เขียนกันไป

ขณะที่ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ก็บอกว่า ไม่รู้เรื่องที่พรรคพลังประชารัฐ จะถูกเช็กบิล และคนในพรรคก็ไม่เห็นพูดถึงเรื่องนี้ ข่าวออกมาได้อย่างไรก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” ยังแข็งแรงดี

จึงต้องจับตาว่าเกมนี้ หาก “ทักษิณ”ยังเอาอยู่ และผ่านวิกฤตไปได้ พรรคพลังประชารัฐ อาจถูกเขี่ยออกจากพรรคร่วมรัฐบาล แล้วพรรคเพื่อไทยก็พร้อมจะหาอะไหล่มาทดแทน

แต่ถ้า “เศรษฐา” ตกเก้าอี้ พร้อมๆ กับการยุบพรรคก้าวไกล เงื่อนไขนี้ “คนบ้านป่า” อาจไปถึงฝันก็เป็นได้


กำลังโหลดความคิดเห็น