ข่าวปนคน คนปนข่าว
** “โทนี่” แกงหรือไม่? ได้รู้กัน แต่ "ถุงขนม2,000ล้าน" ลอยเข้าที่ประชุมก.ต. เรียบโร้ย
วันนี้ (18มิ.ย.) จะได้รู้กันว่า "ทักษิณ ชินวัตร" จะไปตามนัด อัยการหรือไม่ ?
ฟังว่า “วิญญัติ ชาติมนตรี” ทนายโทนี่ ยืนยันเป็นมั่นเหมาะ หากทักษิณไม่ไป จะผิดสัญญาประกัน แถมไม่มีร้องขอความเป็นธรรม มีแต่พร้อมชี้แจง
ถ้าเป็นไปตาม “ทนายวิญญัติ” ว่า คงจะได้เห็น"ทักษิณ"ตัวเป็นๆ เดินขึ้นศาล แต่จะได้รับการประกันตัวหรือไม่ ก็อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องลุ้นกัน
ความว้าวุ่นก็อยู่ตรงนี้เอง เพราะ “โทนี่” จะได้ประกันหรือไม่ได้ประกัน กลายเป็นหัวข้อที่ถูกขยาย-ขยี้กันบันเทิงโซเชียลฯ มาตลอดหลายวัน
โดยเฉพาะ "ถุงขนม" ภาคสอง ที่ลือหึ่งกันมาว่า เป็นถุงเบ้อเร่อ จุถึง 2,000ล้าน !
ข่าวคราวนี้ลอยไปถึงตุลาการในกระบวนการยุติธรรมเรียบร้อย โดย "สรวิศ ลิมปรังษี" โฆษกศาลยุติธรรม บอกว่า ในการประชุม คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา สํานักงานศาลยุติธรรม ได้รายงานให้ ก.ต.ทราบเกี่ยวกับข่าวดังกล่าวแล้ว
ที่ประชุม ก.ต.เสนอให้ประธานศาลฎีกาพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการสดับตรับฟังข้อเท็จจริง เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นตามขั้นตอน โดยหากมีความคืบหน้าในการดําเนินการ จะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง
ทั้งหลายทั้งปวง ถุงขนม 2,000 ล้าน ถูกกล่าวขานเชื่อมโยงเข้ากับความพยายามแทรกแซง กระบวนการยุติธรรม และ วิ่งเต้น เรื่อง การประกันตัวผู้ต้องหาบางราย
ขณะที่ "หมอวรงค์" นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยภักดี กัดติดเรื่องนี้ต่อเนื่อง
“หมอวรงค์” โพสต์เฟซบุ๊กในหัวเรื่อง “ถุงขนมภาคสอง ตอนที่3” ใจความระบุว่า “หลังจากที่ประชาชนในประทศสารขัณฑ์ มีความตื่นตัวต่อเรื่องถุงขนม 2,000 ล้าน ที่ฮ่องกงเกี่ยวข้องกับคดีของนักการเมือง
ล่าสุด ได้มีประชาชนชาวสารขัณฑ์ ไปยื่นเรื่องร้องเรียน ต่อประมุขของกระบวนการยุติธรรม และได้มีตัวแทนมารับแล้ว
สิ่งที่น่าแปลกใจมาก บุคคลในกระบวนการยุติธรรม มีตำแหน่งใหญ่โต มีนักการเมืองมาขอเคลียร์เรื่องนี้แทนตนเอง เพราะปกติแล้ว ท่านต้องไม่ยุ่งกับการเมือง…เราขอยืนในหลักการความถูกต้อง
ท้ายนี้ ทุกอย่างอยู่ที่ ท่านประมุขและกรรมการ หลังจากรับเรื่องไปแล้ว ว่าจะมีอะไรออกมาอย่างไร เพราะชาวสารขัณฑ์ ยังมองว่าท่านประมุข คือที่พึ่งของกระบวนการยุติธรรม"
ขณะที่ฝั่งของคนเพื่อไทย ยังไงๆก็เชื่อว่า “นายใหญ์โทนี่” ไม่หนีไปไหน “วิสุทธิ์ ไชยณรุณ” ประธานวิปรัฐบาล ถึงกับบอก "โอ้...ล้านเปอร์เซ็นต์" ทักษิณ ไปตามนัดอัยการ และน่าจะได้ประกันตัวแน่นอน
ส่วนกรณี "หมอวรงค์" ที่ออกมาปูดเรื่องถุงขนมนั้น “วิสุทธิ์” ถือโอกาสทำแต้ม ฟาดแทน “โทนี่”บอกเป็นเจ้าประจำชอบมโน โกหกประชาชนบ่อยๆ จนเขาก็รำคาญ พูดไปก็ไร้สาระ
งานนี้ ดรามามาจนนาทีสุดท้าย “โทนี่112” จะแกงอัยการหรือไม่ ?! ถุงขนม 2,000ล้าน จะจริงเท็จประการใด! ล้วนแล้วแต่น่าสนใจติดตามยิ่ง!!
** “ก้าวไกล”ลุ้นศาลรธน. ต่อลมหายใจ เปิดไต่สวน 2 ฝ่าย
ตามปฏิทินการเมือง วันที่ 18 มิ.ย. ถูกจับจ้อง และมีการวิพากวิจารณ์กันมาก เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาใน 3 เรื่องที่กำลังอยู่ในความสนใจของสังคม คือ คดียุบพรรคก้าวไกล คดีถอดถอนนายกรัฐมนตรี และคดีเลือก สว.จะขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ จะโมฆะหรือไม่
ขณะที่วันเดียวกันนี้ อัยการสูงสุดก็นัดนำตัว “ทักษิณ ชินวัตร” ส่งฟ้องศาลในคดีมาตรา 112 และ คดีพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
พรรคก้าวไกลจะถูกยุบหรือไม่...รัฐบาลจะพังหรือไม่ จะมีการจับขั้วกันใหม่หรือไม่ หาก “เศรษฐา ทวีสิน” ตกเก้าอี้... “ทักษิณ”จะไปพบอัยการ เพื่อให้นำตัวส่งฟ้องศาลหรือไม่ หรือจะป่วยกะทันหัน ถ้าไปเมื่อตกเป็นจำเลยในคดีแล้ว จะได้ประกันตัวหรือไม่... การเลือกสว. ที่ตอนนี้เดินหน้าไปถึงขั้นการเลือกระดับประเทศ ซึ่งถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายแล้ว ก่อนจะได้ 200 สว. จะโมฆะหรือไม่
เหล่านี้คือประเด็นที่ถูกหยิบยกมาวิพากวิจารณ์ ถกเถียงกัน
หากโฟกัสไปที่เรื่อง “ยุบพรรคก้าวไกล” ตามขั้นตอนกระบวนการ ตอนนี้ พรรคก้าวไกล ได้ส่งเอกสารคำชี้แจงแสดงเหตุผล เพื่อสู้คดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ ไปเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมา จากนั้นวันที่ 9 มิ.ย. “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ก็แถลงถึงรายละเอียดและแนวทางการต่อสู้ ใน 9 ประเด็น ที่ยื่นไปคือ
1. ศาลรธน.ไม่มีขอบเขตอำนาจในการพิจารณาคดีนี้ 2. กระบวนการยื่นคำร้องของกกต.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
3. คำวินิจฉัยเมื่อ 31 ม.ค.67 เรื่องแก้ไขมาตรา 112 ไม่ผูกพันกับการวินิจฉัยคดีนี้ 4. การกระทำที่ถูกกล่าวหา ไม่ล้มล้าง ไม่อาจเป็นปฏิปักษ์ 5. การกระทำตามคำวินิจฉัย เมื่อวันที่ 31 ม.ค.67 ไม่ได้เป็นมติพรรค 6. โทษยุบพรรคต้องเป็นมาตรการสุดท้าย เมื่อจำเป็นเท่านั้น 7. ศาลรธน. ไม่มีอำนาจตัดสิทธิ์ กก.บห. 8. จำนวนปีในการตัดสิทธิ์ทางการเมือง ต้องได้สัดส่วนกับความผิด และ9. การพิจารณาโทษต้องสอดคล้องกับกก.บห. ในช่วงที่ถูกกล่าวหา
ต่อมา 12 มิ.ย. ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการประชุม และอภิปรายกันถึงเรื่องนี้ ก่อนจะมีคำสั่งให้ กกต.ในฐานะผู้ร้อง ยื่นบัญชี ระบุพยานหลักฐาน ต่อศาลฯภายในวันจันทร์ที่ 17 มิ.ย 67 และศาลฯได้นัดพิจารณาครั้งต่อไป ในวันอังคารที่18 มิ.ย67
“ชัยธวัช ตุลาธน” หัวหน้าพรรคก้าวไกล คาดหมายว่า เมื่อพรรคยื่นชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา พร้อมยื่นบัญชีพยานเพิ่มเติมไปแล้ว เมื่อศาลฯเห็นประเด็นสำคัญในข้อต่อสู้ของพรรคก้าวไกล จึงให้สั่งให้กกต. ยื่นบัญชีพยาน หลักฐานเพิ่มเติม
ดังนั้น ที่ต้องลุ้นกัน น่าจะเป็นเรื่องที่ศาลรธน.จะเปิดให้มีการไต่สวน ดูพยาน หลักฐาน จากทั้งฝ่ายผู้ร้อง และผู้ถูกร้องหรือไม่ ... ศาลฯคงไม่ได้พิจารณาวินิจฉัยชี้ขาดว่า “ยุบ หรือไม่ยุบ” พรรคก้าวไกล ในวันนี้
นั่นเป็นความเห็นจากพรรคก้าวไกล ที่มองในทางบวกไว้ก่อน
แต่ถ้าศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าทั้งข้อกฎหมาย ข้อมูลพยาน หลักฐาน เอกสารต่างๆ มีเพียงพอแก่การพิจารณาวินิจฉัยได้แล้ว อาจไม่ต้องเปิดให้มีการไต่สวนเพิ่มเติม
การพิจารณาวินิจฉัย ว่า “ยุบ หรือไม่ยุบ” อาจเกิดขึ้นในวันนี้ ก็เป็นได้ !!
ขณะที่เรื่องของพรรค ยังอยู่ในการคาดเดาว่าจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร ก็มีเรื่องเกี่ยวกับตัวบุคคล เข้ามาเพิ่มเติม
นั่นคือ กรณีที่“พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ออกมาแถลงถึงแนวทางการต่อสู้ของพรรค พร้อมนำข้อมูลกว่า 70 หน้า เผยแพร่ในเฟซบุ๊กของ ตนเอง ให้สาธารณชนทั่วไปเข้าถึง และสามารถ download ได้ ทั้งๆ ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีคำสั่งก่อนหน้านั้นว่า ก่อนที่ศาลรธน.มีคำวินิจฉัย คู่กรณีไม่สมควรแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคดี ที่เป็นการชี้นำสังคม อันอาจกระทบต่อการดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลฯได้
เพื่อ“พิธา”ไม่ฟังศาลฯ “เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ” จึงนำเรื่องนี้ ร้องต่อศาลรธน.ให้พิจารณาว่า การรกระทำของ “พิธา” เข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งศาลฯ หรือไม่ และการกระทำดังกล่าว จะถือเป็นการละเมิดอำนาจศาลรธน. ตามความใน มาตรา 39 แห่งพ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561หรือไม่
ตอนนี้ พรรคก้าวไกล เลยต้องลุ้นทั้งเรื่องของพรรค และตัวบุคคล โดยเฉพาะประเด็นหลังที่ตามมานี้ ไม่ใช่เรื่องที่จะดูเบากันได้ เพราะเป็นการกระทำที่ “สวนคำสั่งศาล” ที่เพิ่งประกาศออกมา เหมือนลองของศาลรธน.ว่า ทำอย่างนี้แล้วไง?!
