ไม่มีพี่น้อง“แจ๊ส”ซัด“ทักษิณ” ขู่ยุบพรรค!?

เมืองไทย 360 องศา


จาก วลี “มีวันนี้เพราะพี่ให้” ของพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตนายตำรวจ ที่สะท้อนถึงความผูกพันและการให้ความเคารพนับถือนายทักษิณ ชินวัตร ในยุคที่เรืองอำนาจ บารมี รวมไปถึงการที่สามารถบันดาลทุกสิ่งทุกอย่างให้กับเขาจนสะท้อนออกมาเป็นคำพูดดังกล่าว

อย่างไรก็ดี มาถึงวันนี้ ทุกอย่างกำลังกลายเป็นตรงกันข้าม จากพี่น้อง จากนายกับลูกน้อง มาเป็น“คู่แข่ง” หรือแม้กระทั่งกำลังกลายเป็น “ศัตรู” ทางการเมืองกันไปแล้ว ส่วนสาเหตุอาจเป็นเพราะผลประโยชน์ทางการเมืองขัดกัน จนไม่อาจประสานกันได้ อีกทั้งในสนามเลือกตั้ง มันต้องเป็นผู้ชนะเท่านั้น ไม่มีที่ยืนสำหรับผู้แพ้

สำหรับต้นเหตุที่ทำให้ “พี่น้อง” ต้องตัดขาดกันในวันนี้ เท่าที่สังเกตเห็นน่าจะเริ่มตั้งแต่การเลือกตั้งส.ส.คราวที่แล้ว ที่มีเสียงพูดกันว่า ไม่เป็นไปตามคำพูดที่สัญญากันไว้ ส่วนใครผิดสัญญาค่อยมาว่ากัน แต่เอาเป็นว่าสมัยเลือกตั้งคราวก่อน คนของพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ที่ตอนนั้นเป็น นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ต้องมาลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ในนามพรรคภูมิใจไทย ขณะที่พรรคเพื่อไทย กลับส่งผู้สมัครอีกชุดหนึ่งลงสนาม
แม้ว่าคนภายนอกอาจจะไม่รู้ตื้นลึกหนาบางว่าสาเหตุเป็นเพราะอะไรกันแน่ ด้วยข้อจำกัดในเรื่องจำนวนเขตเลือกตั้ง หรือเป็นเพราะต่างฝ่ายต่างก็มีคนของตัวเองกันอยู่แล้วหรือเปล่า แต่กลายเป็นว่าความบาดหมางน่าจะเริ่มมาทั้งแต่ตอนนั้น และบานปลายมาจนถึงวันนี้ ที่มีการ“เลือกข้าง” กันชัดเจน

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี แม้ว่าจะเป็นการเมืองระดับท้องถิ่น แต่ก็มีผลต่อเนื่องไปถึงการเลือกตั้งในสนามใหญ่ อย่างการเลือกตั้งส.ส. ซึ่งแต่เดิมพรรคเพื่อไทยครอบครองพื้นที่มาก่อน รวมไปถึงเป็นเขตของ “คนเสื้อแดง”ก็ว่าได้ แต่ผลจากการเลือกตั้งคราวที่แล้ว พรรคเพื่อไทยต้องสูญเสียที่นั่งเกือบทั้งหมดให้กับพรรคก้าวไกล จนทำให้การเมืองในพื้นที่ “รวน” ขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

และการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมฯคราวนี้ ที่แม้ว่าเป็นผลมาจากการลาออกจากตำแหน่งของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ก่อนกำหนด เป็น“แท็กติก”ทางกฎหมาย แทนที่จะรอให้มีการเลือกตั้งใหญ่พร้อมกันในต้นปีหน้าก็ตาม แต่มันก็ทำให้เห็นภาพชัดเจนทางการเมืองที่เชื่อมโยงมาถึงสนามใหญ่ และความขัดแย้งที่ปรากฏชัดขึ้น

เพราะในการเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี คราวนี้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ลงสมัครในนามอิสระ ขณะที่ คู่แข่งคือ นายชาญ พวงเพชร์ จากพรรคเพื่อไทย โดยมีการเปิดตัวกันอย่างอลังการ เพราะมีแกนนำพรรค เช่น นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรค นำทีมมาร่วมเปิดตัวกันอย่างคึกคัก และเมื่อไม่กี่วันก่อน ก็ยังมีนายทักษิณ ชินวัตร และน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค ยกทีมใหญ่มาร่วมงานบวช ลูกชายของนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี สร้างบรรยากาศอย่างยิ่งใหญ่ ขณะเดียวกันภายในงานดังกล่าวนี่แหละ นอกจากเป็นการประกาศท่าทีทางการเมืองอย่างชัดเจนว่า งานนี้พรรคเพื่อไทย เลือกข้างแล้ว เดินคนละทางกับ “แจ๊ส” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ อย่างชัดเจน

ขณะเดียวกัน จากงานดังกล่าวมันก็กลายเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการ “ตัดพี่ตัดน้อง” ระหว่าง ทักษิณ กับ คำรณรวิทย์ นั่นแหละ เพราะล่าสุดพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ส่งคนไปร้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าผู้สมัครฝ่ายตรงข้ามทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง รวมถึงขู่ว่ามีโทษถึงขั้นยุบพรรค (เพื่อไทย)เลยทีเดียว

โดยเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ที่ผ่านมา ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.วัฒนา วงศ์จันทร์ ผู้ประสานงานผู้สมัคร นายกอบจ. เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ กกต. เนื่องจากมีผู้สมัครนายก อบจ.ปทุมธานี คาดว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้ง โดยมี นายกิตติ์ธเนศ จันวิวัธน์เวช รองผู้อำนวยการ กกต.ประจำจังหวัดปทุมธานี เป็นผู้รับหนังสือร้องเรียน เพื่อตรวจสอบและดำเนินตามขั้นตอนต่อไป

โดย พล.ต.ต.วัฒนา ได้มอบหลักฐานประกอบด้วย หนังสือร้องเรียนจำนวน 7 หน้า คลิปวิดีโอ จำนวน 7 คลิป และภาพถ่ายจำนวน 15 ภาพ เป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า มีผู้สมัครนายก อบจ.ปทุมธานี เข้าข่ายกระทำความผิดกฎหมายเลือกตั้ง

พล.ต.ต.วัฒนา กล่าวว่า เนื่องจากการจัดงานบวชที่อดีตนายกฯทักษิณ มางานบวช เราได้มาตรวจสอบดูแล้ว น่าจะมีการกระทำความผิดเกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้ง จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานมายื่นร้องเรียนให้ กกต.ตรวจสอบในวันนี้ เพราะว่าเราเชื่อว่า มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุ

ด้านพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีต นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ตนกำชับทีมงานทั้งหมดได้สั่งว่า ทั้งหมดต้องอยู่ในกรอบขอกฎกติกาที่ กกต.กำหนดกฎหมายการเลือกตั้ง แต่ขณะเดียวกันตอนนี้ ทั้งทีมงานทีมกฎหมาย ทีมสจ.ที่ช่วยกันเดินหาเสียงโดยเราอยู่ในกรอบ แต่ทำไมฝ่ายตรงข้ามซึ่งมีพรรคการเมืองหนุนหลัง เขาปฏิบัติตั้งแต่ก่อนการรับสมัคร วันรับสมัคร และหลังจากรับสมัคร มีการจัดงานมหรสพ มีการเอ่ยบนเวที เบอร์หนึ่ง เบอร์หนึ่ง อะไรลักษณะนี้ เขาไม่เห็นเคารพกฎกติกาข้อบังคับของกฎหมาย กกต.ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งอยู่ในสายตาเลยหรือ เพราะฉะนั้นทีมกฎหมาย จึงได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมด โดยเป็นหลักฐานที่ชัดเจน

“เท่าที่ผมดู เพราะผมก็เป็นพนักงานสอบสวนมาก่อน จึงได้ให้ทีมงานไปยื่นหลักฐาน และเหตุผลทั้งหมด เพื่อให้ กกต.ได้พิจารณา ผมอยากให้เป็นไปตามกฎ ตามกติกา และขอให้ระมัดระวังกันหน่อย บ้านเมืองมีกฎหมายอยู่ อย่าคิดว่าคุณอยู่เหนือกฎหมายทำอะไรก็ได้ ผมต้องการให้การเลือกตั้งทุกระดับ มีความบริสุทธิ์ ยุติธรรม ไม่มีการเอารัดเอาเปรียบคู่แข่งขัน เมื่อเราดูแล้วมันมีเหตุ มีผล ที่เป็นการขัดต่อระเบียบข้อบังคับในการเลือกตั้ง จึงมีความจำเป็นให้ทีมกฎหมายไปยื่นร้องเรียนกับ กกต. ซึ่งทางพรรคการเมืองที่หนุนหลัง ก็ฝากไว้แล้วกัน อย่าทำอะไรที่ฝ่าฝืนกฎหมาย อาจจะนำพาไปสู่การยุบพรรคได้”พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าว

จากท่าทีดังกล่าว มันก็แสดงให้เห็นว่า นอกจากในสนามแข่งขันนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีจะดุเดือดแล้ว ยังเป็นการ “แตกหัก”กันอย่างชัดเจนระหว่าง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กับ นายทักษิณ “ไม่เป็นพี่เป็นน้อง” กันอีกแล้ว จะ “สร้างบาง” ของตัวเอง อะไรประมาณนั้น

ขณะเดียวกัน หากผลการเลือกตั้งในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ออกมาว่าฝ่ายที่พรรคเพื่อไทยสนับสนุนไม่ชนะเลือกตั้ง ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ เพราะนั่นเท่ากับว่า กระทบกระเทือนกับพรรคเพื่อไทย ในสนามจังหวัดปทุมธานีในอนาคตอันใกล้นี้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะกระทบกับนายทักษิณ ชินวัตร เข้าอย่างจัง เพราะงานนี้เขาออกตัวแรง และทุ่มสุดตัว และล่าสุดเริ่มมีผลสำรวจออกมาให้เห็นแล้วว่า ทุกอย่างไม่เป็นใจ “แววเสื่อม” เริ่มเห็นชัดแล้ว !!