xs
xsm
sm
md
lg

“ทักษิณ”นักโทษเทวดา ได้พักโทษ18 ก.พ.นี้ แต่ถูกอายัดตัวคดี 112 ต้องจับตาจะได้กลับบ้านหรือไม่?! **คนไม่เท่ากัน “พิธา” โดนจับโกหกรัวๆ สื่อเฉย “พี่เอ้” โป๊ะแตกครั้งเดียวสื่อรุมกระทืบ หรือเพราะท่านชายแห่งพระตะบองหน้าตาหล่อกว่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว



** “ทักษิณ”นักโทษเทวดา ได้พักโทษ18 ก.พ.นี้ แต่ถูกอายัดตัวคดี 112 ต้องจับตาจะได้กลับบ้านหรือไม่?!

ข่าวสะพัดว่า “ทักษิณ ชินวัตร” นักโทษเทวดา ที่ยังไม่ถูกขังคุกเลยสักวันเดียว จะได้รับการพักโทษในวันที่ 18 ก.พ.นี้ เนื่องจากมีคุณสมบัติเข้าหลักเกณฑ์ โครงการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษเนื่องจากเจ็บป่วยร้ายแรง หรือ พิการ หรือ มีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป ซึ่งหลักเกณฑ์ที่ว่านี้ ต้องเป็นนักโทษเด็ดขาด ต้องโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 หรือ 6 เดือน ขึ้นอยู่กับว่าอันไหนมากกว่ากัน

กรณีของ “ทักษิณ” ต้องโทษจำคุก 8 ปี ได้รับพระราชทานอภัยโทษ เหลือจำคุก 1 ปี และได้รับโทษโดยอยู่ที่ รพ.ตำรวจ จะครบ 180 วัน ในวันที่ 22 ก.พ.นี้

เรื่องนี้ “สหการณ์ เพ็ชรนรินทร์” อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ยอมรับว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการพักโทษ เมื่อเสร็จสิ้นแล้วก็จะเสนอไปยัง “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” รมว.ยุติธรรม พิจารณาให้ความเห็นชอบ พักโทษ จากนั้นต้องแจ้งไปยังกรมคุมประพฤติ เพื่อรับผิดชอบในขั้นตอนต่อไป

จึงมีการคาดการณ์ว่า วันที่ 18 ก.พ. หรือ 22 ก.พ.นี้ ขึ้นอยู่กับการนับเวลาของกรมราชทัณฑ์ จะเป็นวันที่ “ทักษิณ” ได้รับการปล่อยตัว

ทักษิณ ชินวัตร
แต่ในช่วงที่ “ทักษิณ” กลับมารับโทษนี้ อธิบดีกรมราชทัณฑ์เผยว่า ได้รับรายงานจาก ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปอท. และพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้มีหนังสือแจ้งการขออายัดตัว “ทักษิณ ” ไว้ดำเนินคดี 112

โดยคดี 112 ของ “ทักษิณ”นี้ ต้องย้อนไปเมื่อวันที่ 16 ก.พ.59 สำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับสำนวนจากกองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามทางเทคโนโลยี ในข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่นแสดงความอาฆาตมาดร้าย และร่วมกันเข้าสู่คอมพิวเตอร์ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 พ.ค.58 ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ และประเทศไทยต่อเนื่องกัน และอัยการสูงสุด มีคำสั่งทางคดี เห็นควรสั่ง ฟ้องเมื่อ 19 ก.ย.59 คดีนี้มีอายุความ 15 ปี จะขาดอายุความ 21 พ.ค.73

เมื่อ“ทักษิณ” เดินทางกลับเข้ามารับโทษ ในวันที่ 22 ส.ค.66 ทางพนักงานสอบสวนก็ได้นำหมายจับไปแจ้งอายัดตัวกับกรมราชทัณฑ์ เป็นที่เรียบร้อย และวันที่ 17 ม.ค.67 อัยการและตำรวจ ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหากับ“ทักษิณ” พร้อมเข้าสอบปากคำ ซึ่งเจ้าตัวได้ให้การปฏิเสธ และยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุดไปแล้ว

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง
“พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” รมว.ยุติธรรม ชี้แจงเรื่องการพักโทษว่า จะมีการพิจารณาทุกเดือน เดือนละหลายร้อยคน ซึ่งทางคณะกรรมการ ต้องดูทุกเรื่อง และให้คณะกรรมการของราชทัณฑ์เป็นผู้พิจารณา ซึ่งประกอบไปด้วยหน่วยงานต่างๆ รวม 19 คน ทั้ง กระทรวงมหาดไทย สาธารณสุข ศาล อัยการ ตำรวจ แต่ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” รวมอยู่ด้วยหรือไม่ และหากได้รับการพักโทษ จะต้องใส่ “กำไลอีเอ็ม”หรือไม่ อยู่ที่การพิจารณาของอัยการ

กรณีของ “ทักษิณ”จะมีปัญหาหรือไม่ เพราะไม่ได้ติดคุกแม้แต่วันเดียว แต่ได้รับการพักโทษ “พ.ต.อ.ทวี” บอกว่า ในทางกฎหมาย การรักษาตัวที่โรงพยาบาล ก็ถือว่า ถูกควบคุมตัว ก็คือได้รับโทษ แต่ในความรู้สึกของคน อาจมีมุมมองที่แตกต่าง ซึ่งดุลพินิจนี้ ก็ขึ้นอยู่กับ โรงพยาบาลว่าจะให้อยู่ห้องควบคุมพิเศษ หรือห้องควบคุมทั่วไป

ขณะที่ “พิชิต ชื่นบาน” หรือ “ทนายถุงขนม” ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน พูดถึงกรณี “ทักษิณ”ถูกอายัดตัวในคดี 112 ว่า เป็นกรณีที่ท่านพูดที่ประเทศเกาหลีใต้ เป็นความผิดนอกราชอาณาจักร และเท่าที่ตรวจสอบ ในขณะนั้นที่ท่านถูกแจ้งข้อกล่าวหา และออกหมายจับ ท่านไม่มีโอกาสได้แก้ตัวหรือชี้แจง

...คลิปที่นำมาเผยแพร่ ก็เป็นเพียงบางท่อนบางตอน ไม่อยากกล่าวหาว่าเป็นการตัดต่อ และยังมีบางส่วนที่ขาดหายไปในหลายเรื่อง รวมถึงการสอบสวนผู้สื่อข่าวที่สัมภาษณ์ท่าน ก็ไม่ได้ดำเนินการ อีกทั้งเรื่องนี้ต้องใช้ พ.ร.บ.ความร่วมมือคดีอาญาระหว่างประเทศ ในการสอบสวน ก็ไม่ทราบว่าพนักงานสอบสวนหรืออัยการได้ดำเนินการขั้นตอนนี้แล้วหรือยัง เพราะเป็นกฎหมายสากล...

สหการณ์ เพ็ชรนรินทร์
อย่างไรก็ตาม กระบวนการต่างๆ มีการดูแลแล้ว คงไม่มีหมายอะไรมาจับท่านหรอก พนักงานสอบสวน และอัยการก็ได้ทำหน้าที่ของตัวเองแล้ว เพียงแต่ไม่อยากให้เป็นข่าว เพราะว่ามันมีสังคมอีกส่วนหนึ่ง ต้องการที่จะทำให้เกิดบางอย่าง และทำให้บ้านเมืองไม่สงบ ยืนยันว่ากระบวนการในการดำเนินการกรณี “ทักษิณ” เป็นไปด้วยดี ขอให้สบายใจได้

เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่า หากได้รับการพักโทษแล้ว จะไม่ถูกอายัด หรือถูกควบคุมตัวไว้อีก “ทนายพิชิต” ถึงกับ เอามือตบอก บอกว่า มั่นใจว่าทำถูกต้องทุกอย่างล้านเปอร์เซ็นต์!!

ต้องติดตามว่า 18 ก.พ.นี้ เมื่อ “ทักษิณ”ได้พักโทษ จะได้กลับบ้านหรือยังถูกอายัดตัวไว้สอบสวนในคดี 112 ต่อ

**คนไม่เท่ากัน “พิธา” โดนจับโกหกรัวๆ สื่อเฉย “พี่เอ้” โป๊ะแตกครั้งเดียวสื่อรุมกระทืบ หรือเพราะท่านชายแห่งพระตะบองหน้าตาหล่อกว่า

โดนจับโป๊ะไม่พัก “แดดดี้พิธา” ล่าสุดก็เรื่องโพสต์ภาพตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ ที่เมืองพระตะบอง กัมพูชา ไว้ในไอจี พร้อมข้อความเคลมว่า เป็นบ้านเก่าคุณยายที่เคยอยู่เมื่อ100ปีก่อน

แล้วโดนชาวเน็ตขุดเอาความจริงมาตีแสกหน้าว่า บ้านหลังนี้เจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ เจ้าเมืองพระตะบอง คนสุดท้ายภายใต้การปกครองของสยาม สร้างเสร็จแล้วไม่ได้อยู่ เพราะเกิดกรณีพิพาทไทย-ฝรั่งเศส เสียก่อน จึงอพยพครอบครัวมาอยู่ที่ปราจีนบุรี

แล้วตกลง “ยายของพิธา” ไปอยู่ที่บ้านหลังนั้นตอนกี่โมง

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์
ไม่กี่วันก่อนหน้า ก็โดนขุดเรื่องภาพวาดที่เอามาประมูลขาย หาทุนรักษามะเร็งเมื่อหลายปีก่อน โดยลอกเลียนภาพวาดของ “โมเน่ต์” ศิลปินดังระดับโลก

แต่ในไอจีที่ “พิธา” โพสต์ภาพนี้ ไม่ได้อ้างอิงถึงต้นฉบับแม้สักแอะเดียว ราวกับว่าเป็นภาพที่ออกมาจากความคิดของตัวเองทั้งดุ้น

ถึงจะโดนจับโกหกแบบรัวๆ จนได้ฉายา “พิธาคิโอ” แต่เหล่าด้อมส้ม ก็ยังรักยังหลงแด๊ดดี้พิธา ไม่เสื่อมคลาย ไปไหนมาไหน ก็ยังมีเหล่าสาวกพรรคสีส้มเข้ามาห้อมล้อม กรี๊ดกร๊าด ราวกับเจอกับซุปฯตาร์เคป๊อปเกาหลี

หลายคนเลยก็รู้สึก เอ๊ะ! ทำไมสังคมไทยเป็นแบบนี้!!

คนที่เอ๊ะ! เสียงดังกว่าใครๆ ก็เห็นจะเป็น “อาจารย์อานนท์” หรือ ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ แห่งนิด้านั่นเอง

เมื่อวาน(6 ก.พ.) “อาจารย์อานนท์” โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก “Arnond Sakworawich” ทำนองว่า นี่เป็นเพราะความอยุติธรรมของสื่อมวลชนไทย ที่เลือกปฏิบัติหรือเปล่า

ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์
โดยเปรียบเทียบกรณีของ “พิธา” กับ “พี่เอ้” ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ ลาดกระบัง (สจล.)
“อาจารย์อานนท์” บอกว่า “พี่เอ้” ศ.ดร.สุชัชวีร์ อาจจะขี้โม้สักหน่อย พูดว่าตัวเองเป็นลูกศิษย์ของหลานอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ครั้งเดียว แล้วทุกคนจับโป๊ะได้ว่าไม่เป็นความจริง “พี่เอ้” โดนสื่อทุกช่องทางเล่นข่าวนี้จน “พี่เอ้” ไม่ได้ผุดได้เกิดในทางการเมืองเลยจนบัดนี้

“ส่วนกรณีของ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ถูกจับโป๊ะแตกว่าขี้โม้โกหกสารพัด แต่สื่อส่วนใหญ่เลือกปฏิบัติไม่นำเสนอเล่นงานนายพิธา ไม่เหมือนกับกรณีของพี่เอ้”

“อาจารย์อานนท์” ยกตัวอย่างโป๊ะแตกของ “พิธา” มีมากมาย เช่น

1.กลับจากเมืองนอกมางานศพพ่อไม่ทัน 2.บ้านของคุณยายเป็นจวนของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ที่พระตะบอง ในกัมพูชา 3.ติดสติกเกอร์ยกเลิก 112 แต่บอกว่า ไม่ต้องการยกเลิก 112 แค่ต้องการแก้ไข 4.ถูกส่งไปเรียนที่นิวซีแลนด์ตอนอายุ 11 5.จบปริญญาตรีสองใบจากธรรมศาสตร์และ University of Texas at Austin

6.เคยขึ้นสแตนด์เชียร์ รร.กรุงเทพคริสเตียน ในงานฟุตบอลจตุรมิตร 7.ไม่เคยสนับสนุนกัญชาทางการแพทย์ 8.ภาพวาดลอกเลียนแบบงานของโมเนต์ 9.เขียนอีเมล์หารุ่นพี่ MIT เจ้าของไฟเซอร์ ที่ตายไปแล้วเกือบร้อยปี ... ฯลฯ

ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์
“ทั้งหมดนี้แค่จะบอกว่าสื่อไทยไม่ยุติธรรม เล่นงานพี่เอ้จนแหลกเละทางการเมือง แต่ไม่เล่นงานพิธา ทั้งๆ ที่โป๊ะแตกกว่าพี่เอ้มากมาย” ดร.อานนท์ ว่ามาอย่างนี้

“พี่เอ้” นั้น สมัยเป็นอธิการบดี สจล.ถูกจับตามองในฐานะนักบริหารรุ่นใหม่ไฟแรง จนได้รับฉายา “The Disruptor เมืองไทย” ในฐานะเป็นผู้พลิกฟื้น สจล.สู่องค์กรระดับนานาชาติ ปรับโครงสร้างการบริหารการศึกษาที่ไม่เอื้อต่อการพัฒนา สู่สถาบันอุดมศึกษาชั้นนำแห่งหนึ่งของไทย

แต่พอลาออกมาสมัครเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม.ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ก็มาพลาดตรงที่ไปให้สัมภาษณ์สื่อตอนหนึ่งว่า สมัยเรียนที่ MIT สหรัฐอเมริกา เคยเรียนกับอาจารย์ที่เป็นหลานของ “ไอน์สไตน์” นักวิทยาศาสตร์บรรลือโลก แล้วมีคนจับได้ว่าอาจารย์คนนั้นไม่ใช่หลานของไอน์สไตน์ตัวจริง

เท่านั้นแหละ “พี่เอ้” โดนสื่อขุดคุ้ยถล่มเละ ไม่เหลือชิ้นดี พลาดเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.แบบแพ้ “ผู้ว่าฯชัชชาติ” คะแนนห่างหลุดลุ่ย พอมาถึงการเลือกตั้ง 14 พ.ค.66 ก็พลาดตำแหน่ง สส.บัญชีรายชื่ออีก เพราะพรรคประชาธิปัตย์ได้คะแนนไม่มากพอ

ตรงกันข้ามกับ “แดดดี้พิธา” ของเหล่าด้อมส้ม ตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง 14 พ.ค.66 ก็โดนจับโป๊ะนับเรื่องไม่ถ้วน แต่ก็ยังพาพรรคก้าวไกลคว้าเก้าอี้ สส.มากเป็นอันดับ 1

ผลออกมาเป็นแบบนี้ กูรูการเมืองก็วิเคราะห์ไม่ออกเหมือนกัน

แต่ก็มีบางเสียงวิเคราะห์แบบแซวๆ ว่า หรือจะเป็นเพราะหน้าตา “ท่านชายพิธา แห่งพระตะบอง” หล่อกว่า “พี่เอ้ ศิษย์หลานไอน์ไตน์” เลยมีด้อมตามแห่แหนเยอะกว่า สื่อก็เลยให้ความเกรงใจ

เอ๊ะ! หรือจะเป็นอย่างนี้จริงๆ ฮา…


กำลังโหลดความคิดเห็น