xs
xsm
sm
md
lg

ชักหงุดหงิด! “อาจารย์ป๊อก” ฉะ “ก้าวไกล” แผนปี 67 ไม่มีแก้ ม.112 อ้างรอศาล รธน.ตัดสิน 31 ม.ค.เท่ากับส่งสัญญาณหมอบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ปิยบุตร” ไม่เห็นด้วย แผนการพรรคก้าวไกลปี 67 ที่ทำขึ้นเพื่อรับ “พิธา” กลับมาเผย อ่านเนื้อหาทั้งหมดแล้วเห็นว่า ผิดพลาด เสนอ พ.ร.บ. 47 ฉบับ ไม่มีร่างแก้ไข ม.112 อ้างว่า ต้องรอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย 31 ม.ค.เท่ากับส่งสัญญาณ “หมอบ” ไม่บริหารจัดการความคาดหวังของคนเลือก หวังหลังคำวินิจฉัยออก จะได้ยินเสียงก้าวไกลวิจารณ์ศาล รธน.บ้าง

วันนี้ (27 ม.ค.) นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความเฟซบุ๊ก Piyabutr Saengkanokkul - ปิยบุตร แสงกนกกุล กรณีพรรคก้าวไกลกับการแก้มาตรา 112 ว่า "ผมมีส่วนร่วมในการตั้งพรรคอนาคตใหม่มา ผ่านประสบการณ์ทางการเมืองมา ยืนยันว่า การเมืองต้องผสมผสานอุดมคติของเรากับสภาพความเป็นจริงทางการเมือง มีรุก มีถอย ตามการประเมินสถานการณ์

“ผมเอง ก็เคยถอย มาหลายครั้ง เพื่อองค์กร เพื่อการเดินหน้าตามสถานการณ์ เรื่องพรรค์นี้ คือ การประเมิน ไม่มีอะไรถูกร้อย ไม่มีอะไรผิดร้อย ดังนั้น การวิจารณ์จังหวะก้าวของพรรคการเมือง จึงอาจมีผู้เห็นด้วย มีผู้เห็นต่าง คนทำพรรค อาจไม่เห็นด้วยกับข้อวิจารณ์ นับเป็นเรื่องปกติ …

“ผมไม่เห็นด้วยกับการแถลงการณ์แผนการพรรคก้าวไกลในปี 2567 ผมเข้าใจดีว่า ทีมงานของพรรคต้องการจัดแถลงการณ์นี้ขึ้นมา เพื่อต้อนรับการกลับมาของพิธา แต่เมื่อผมเห็นเนื้อหาทั้งหมดแล้ว ผมเห็นว่า… ผิดพลาด

“โดยเฉพาะ แผนเสนอร่าง พ.ร.บ.47 ฉบับ โดยไม่มีร่างแก้ไข 112 พรรคอาจไม่ได้คิดว่าต้องพูดเรื่องนี้ แต่สื่อเขาคิด และสื่อถาม จี้ ขยายผลว่า สรุป 47 ฉบับในปี 67 ไม่มีแก้ 112 ใช่มั้ย? กรณีนี้ ส่งผลอย่างไร?

1. ย้ำความคิดว่า เราต้องยอมรับให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญขึ้นมาอยู่เหนือฝ่ายนิติบัญญัติ การเสนอร่างกฎหมาย ต้องฟังว่าศาลรัฐธรรมนูญว่าอย่างไร?

2. การไม่เสนอ และพูดว่าไม่เสนอ เพราะรอศาลรัฐธรรมนูญ เสมือนกับส่งสัญญาณ “หมอบ” ก่อนคำวินิจฉัยในวันที่ 31 นี้

3. หากพรรคก้าวไกลคิดแบบเฉลียวเจ้าเล่ห์ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องแถลงในวันนี้เลย อดใจรอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย 31 ม.ค.นี้ก่อนก็ได้ เผื่อว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะหา ”ทางลง“ ให้พรรคก้าวไกล ด้วยการตีกรอบการแก้ 112 ไว้ ต่อไป พรรคก้าวไกลก็พูดตอบประชาชนโหวตเตอร์ได้ว่า แก้ 112 ไม่ได้ เพราะแนวคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญบอกไว้

“ผมไม่ได้ไร้เดียงสา ถึงขนาดว่าจะต้องแก้ 112 ให้ได้ จะต้องทำเรื่องนี้อย่างเดียว โดยไม่ต้องทำเรื่องอื่น ผมตระหนักดีถึงการรุก/รอ/ถอย แต่ผมเห็นว่า การเคลื่อนตลอดสัปดาห์นี้ไปจนถึงวันที่ 31 ม.ค.ที่ศาลจะตัดสิน ที่ทำๆ กันนั้น ไม่ได้คิดประเมิน รุก ถอย บริหารจัดการความคาดหวังคนเลือก แต่มุ่งไปในทิศทาง “หมอบ” เสียมากกว่า ด้วยคิดว่าจะช่วยทำให้รักษาพรรคได้

“แล้วพอเป็นแบบนี้ ก็เข้าทางฝ่ายตรงข้ามที่เขารอ “เอาคืน” จากการที่พวกเขาถูกหาว่าตระบัดสัตย์ ผมคาดเดาไว้แล้วว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยแบบใด

“ผมได้แต่หวังว่า คณะผู้นำพรรคก้าวไกลทั้งหมด จะประเมินเรื่องทั้งหมดให้รอบด้าน โดยมิได้ตั้งเป้ารักษาพรรค และกรรมการบริหารพรรค จนถึงขนาดต้องแลกกับทุกอย่าง

“ผมคาดหวังว่า หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยออกมาแล้ว จะได้ยินเสียงการวิจารณ์จากพรรคก้าวไกลบ้าง หากพรรคก้าวไกลไม่วิจารณ์ศาลรัฐธรรมนูญเลย ผมจะออกมาวิจารณ์พรรคก้าวไกลเป็นคนแรกๆ แน่นอน และผมจะวิจารณ์คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ตามปกติครรลองของกระบวนวิชาการตามที่ผมฝึกฝนมา …

“ปล. ดักคอกองเชียร์พรรคก้าวไกลไว้ก่อน ที่จะมาด่าว่า ทำไมผมไม่ไปบอกก่อน ไม่คุยภายใน ผมไม่รู้เรื่องที่พวกเขาทำกัน ผมเป็นคนนอก รู้เรื่องก็จากการอ่านข่าว รู้พร้อมๆ กับประชาชนคนทั่วไปที่ดูจากสื่อนั่นแหละ”



กำลังโหลดความคิดเห็น