“ปิยบุตร” ทนไม่ไหวทวีตอัด “ก้าวไกล” แต่เช้ามืด เหลือประธาน กมธ. 8 คณะ ทั้งที่ชนะเลือกตั้ง คนในไม่กล้าพูด จะมีหัวหน้าพรรคไปทำไม ถ้าต้องแพ้ทุกเกม ยอมรับอายพรรคอื่น หลังมีคนฟ้อง “ก้าวไกล” แย่งรองประธาน กมธ.กันเองในที่ประชุม
แม้จะเคยประกาศว่าจะไม่แสดงความเห็นทางการเมืองอีกแล้ว แต่ล่าสุด เมื่อเวลา 04.52 น. วันนี้ (6 ต.ค.) นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ทวีตข้อความผ่านแอพลิเคชัน X ถึงกรณีเก้าอี้ประธานคณะกรรมาธิการสามัญ สภาผู้แทนราษฎร ของพรรคก้าวไกล ที่ลดลงจากสัดส่วนที่คำนวณด้วยเก้าอี้ ส.ส. 151 ที่นั่ง จะได้ประธาน กมธ. 11 คณะ เหลือเป็นประธาน กมธ.ได้จริงๆ เพียง 8 คณะ โดยเมื่อวานนี้ นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้อธิบายว่า เป็นการสลับกันเป็นประธาน กมธ. 2 คณะ คือ กมธ.ศาลและองค์กรอิสระ และ กมธ.การอุดมศึกษาฯ กับพรรครวมไทยสร้างชาติ และ พรรคไทยสร้างไทย ตามลำดับ ส่วนอีก 1 ที่นั่ง ที่หายไป เพราะยกให้พรรคพลังประชารัฐ แลกกับการได้ประธาน กมธ.ที่ดิน และ กมธ.เกษตร นั้น
นายปิยบุตร บอกว่า ในกรณีนี้ ถ้าผู้สนับสนุนพรรคไม่เอ๊ะ ส.ส.ในพรรคไม่เอ๊ะ เป็นเรื่องผิดปกติ หากปล่อยให้เป็นแบบนี้จะไม่ใช่พรรคก้าวไกลในฝันแน่ๆ และยอมรับว่า ผิดคำพูดที่บอกจะไม่วิจารณ์พรรคก้าวไกลแล้ว เพราะคนในพรรคไม่กล้าที่จะพูดกันเอง ได้แต่ซุบซิบนินทาในวงข้าว และนอกจากนั้น ยังมี ส.ส.พรรคอื่นมาบอกอีกว่า ในพรรคไม่จัดการกันเองว่าใครจะเป็นรองประธาน กมธ.มาให้เรียบร้อย บางคณะมาแย่งตำแหน่งรองประธานกันเองที่หน้างาน เป็นเรื่องน่าอายมาก ไปทะเลาะแย่งตำแหน่งกันเองต่อหน้าพรรคอื่น โดยมีรายละเอียดข้อความดังต่อไปนี้
“จากแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
จากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
เหลือประธานกรรมาธิการ 8 คณะ จาก 35 คณะ
ถ้าผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกลไม่ “เอ๊ะ” ส.ส.พรรคก้าวไกลไม่ “เอ๊ะ”
ผมว่าผิดปกติแน่ๆ
ปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ไม่ใช่พรรคก้าวไกลในฝันแน่ๆ
ผมรู้ว่า ผมโพส ก็คงจะมีคนด่า…
ปิยบุตร เสือกอะไร ไหนว่าไม่พูดแล้วไง
แต่ถ้าผมไม่พูด ก็ไม่มีใครกล้าพูด ส.ส. สมาชิก ผู้สนับสนุนพรรค กลัวเกรงกันไปหมด ได้แต่บ่นๆ กับผม
แต่การบ่นซุบซิบนินทากันในวงข้าววงเหล้า มันไม่ใช่ทางแก้ปัญหาครับ
อยากให้พรรคก้าวไกลไปได้ดี ต้องกล้าพูดตรงไปตรงมา
แล้วนี่ ผมก็ต้องมาเสียคำพูดอีกแล้ว เพราะ ปล่อยไปแบบนี้ สุดท้าย ไม่มีใครกล้าชี้ให้เห็นปัญหาตรงๆ…
ป.ล. นี่ผมรู้นะ ส.ส. หลายคนในพรรค รอผมโพสต์ มารอดูอยู่ มาเชียร์ให้ผมพูดแบบนี้ ปัญหาคือ ทำไมพวกคุณต้องรอผมพูดผ่านสื่อสาธารณะ ทำไมพวกคุณไม่กล้าสู้กันในพรรคครับ
นอกจากเรื่องปล่อยให้ ปธ จาก 11 เหลือ 8 แล้ว เพื่อน ส.ส.จากพรรคอื่นๆ ยังโทร.มาเล่าให้ผมฟังอีกว่า พรรคก้าวไกลเป็นอะไร ทำไมภายในพรรค ไม่จัดวางตำแหน่ง ส.ส ของพรรคตนเองว่าใครจะเป็น รอง ปธ มาให้เรียบร้อย
พอมาหน้างาน ในหลายคณะ ส.ส.ก้าวไกล มาแย่งตำแหน่งรองประธาน กันเอง จนประธานจากพรรคอื่นงง เอ๊ะ ทำไมไม่เคลียร์กันมาก่อน
เพื่อน สส พรรคอื่นโทร.มาแจ้งผมแบบนี้ ผมว่า น่าอายมาก ไปทะเลาะแย่งตำแหน่งกันเอง ต่อหน้า ส.ส.พรรคอื่น นี่ถ้า ปธ จากพรรคอื่น เขาปล่อยให้โหวต ให้ ส.ส. ก.ก. แข่งกันเอง คงน่าสมเพชกว่านี้
ถ้าคิดแบบนี้ มีคณะเจรจาไปทำไมครับ มี ส.ส. 151 คนไปทำไมครับ
สรุป คือ คณะเจรจา และ หน.พรรค มีไว้ทำไมครับ ปัญหา คือ สู้หรือยัง สู้เป็นหรือเปล่า การใช้คำอธิบายแบบนี้ ในระยะยาว ไม่ว่าพรรคก้าวไกลจะตัดสินใจทางใด ก็จะมีคำอธิบายให้ตลอด
ระบบเป็นแบบนี้
เสียงข้างมากเป็นแบบนี้
แงๆๆ พวกเขารุมรังแก
เราไม่ผิดๆๆ
สรุป เราต้องการให้พรรคก้าวไกลมีคนบริหารกันแบบนี้หรือครับ
ถ้าแบบนี้ เราให้ใครไม่รู้ มาเป็นก็ได้ แล้วก็ช่วยกันสร้างคำอธิบายปลอบใจกันเองไปวันๆ ว่า มันก็เป็นแบบนี้แหละ”