xs
xsm
sm
md
lg

มาตรฐานใหม่ก้าวไกล ตัดจบ “หื่นกาม” ปัดตบทรัพย์!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ชัยธวัช ตุลาธน - เบญจา แสงจันทร์
เมืองไทย 360 องศา

ในที่สุดที่ประชุมพรรคก้าวไกลก็มีมติเป็นมติเอกฉันท์ ขับ นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ ส.ส.กรุงเทพฯ พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรค ด้วยคะแนนเสียง 128 เสียง โดยให้เหตุผลว่า ไม่ได้ปฏิบัติตามข้อเสนอที่ทางคณะกรรมการบริหารพรรคภายในระยะเวลาที่กำหนด

ทั้งนี้ การประชุมพรรคก้าวไกลดังกล่าว เกิดขึ้นวันที่ 7 พฤศจิกายน ที่จังหวัดระยอง เป็นการประชุมร่วมระหว่าง ส.ส.และกรรมการบริหารของพรรค เพื่อทบทวนบทลงโทษในข้อกล่าวหาคุกคามทางเพศ หลังจากก่อนหน้านี้ ที่ประชุมลงมติให้ขับออกมีเสียงไม่พอ สามในสี่ ตามกฎหมาย แต่ให้ตัดสิทธิประโยชน์ในตำแหน่งทางการเมือง และให้ขอโทษประชาชน เยียวยาผู้เสียหาย รวมถึงมีการคาดโทษเอาไว้

อย่างไรก็ดี ในการลงมติครั้งแรกที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ก็คือ “สองมาตรฐาน” นั่นคือ ในคราวเดียวกันนั้น มีการขับ ส.ส.ปราจีนบุรี คือ นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา ในข้อกล่าวหาเดียวกัน ขณะที่นายไชยามพวาน กลับมีเสียงโหวตน้อยกว่าจนเสียงไม่พอสามในสี่ดังกล่าว ทำให้เกิดคำถามว่า ทำไมถึงมีส.ส.ซึ่งส่วนใหญ่เป็น ส.ส.กรุงเทพฯ ที่ “งดออกเสียง” ซึ่งความหมายก็คือ “อุ้ม” นายไชยามพวาน นั่นเอง

เมื่อเจอกระแสสังคมกดดันและวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ทั้งในเรื่อง “สองมาตรฐาน” เรื่อง “คนไม่เท่ากัน” ตามที่เคยประกาศเป็นอุดมการณ์ของพรรคเอาไว้ ขณะเดียวกัน เรื่อง “ความเสมอภาคทางเพศ” ก็เป็นเรื่องสำคัญ แต่กลายเป็นว่า มี ส.ส.และคนในพรรคกลับ “ปกป้อง” คนที่ “คุกคามทางเพศ” ซึ่งตามรายงานข่าวบอกว่า มีมากถึงกว่า 20 คนเลยทีเดียว และมีขุดคุ้ยชื่อออกมาหลายคน ในจำนวนนั้นก็มีบรรดา ส.ส.ที่มักเคลื่อนไหวในเรื่องความเท่าเทียมกัน เรื่องสิทธิเสรีภาพของปวงชน มักประดิษฐ์ประดอย คำพูดสวยหรูออกมาตลอดเวลา แต่พอถึงเวลากลับปกป้องคนแบบนี้หน้าตาเฉย

ที่ผ่านมา มีเสียงเรียกร้องให้มีการเปิดเผย หรือแบบว่าให้ “กระชากหน้า” ออกมา แม้จะรู้กันว่ามีใครกันบ้าง เพราะมีการเปิดชื่อทางเพจบางเพจออกมาให้เห็นแล้ว แต่เจ้าตัวกลับนิ่งเงียบ ไม่มีความกล้าเหมือนกับที่เคยกล่าวหาคนอื่นก่อนหน้านี้

ขณะเดียวกัน กรณี ส.ส.พรรคก้าวไกล คุกคามทางเพศ ยังส่งผลให้เกิด “แรงกระเพื่อม” ตามมาอีก นั่นคือ การเปิดเผยข้อมูลการทุจริตในลักษณะ “ตบทรัพย์” ของผู้ช่วย ส.ส.ที่เป็นคนใกล้ชิดของกรรมการบริหารพรรคคนหนึ่ง โดยคนที่ออกมาเปิดโปงข้อมูลทุจริตดังกล่าวคือ นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา ที่ถูกโหวตขับออกจากพรรคนั่นแหละ

ล่าสุด นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ออกมาแถลงหลังการประชุมพรรคที่จังหวัดระยอง ทั้งสองเรื่อง นั่นคือ การลงมติขับ นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ ซึ่งเป็นการลงมติเป็นครั้งที่สอง หลังจากครั้งแรกไม่สำเร็จเนื่องจากมีเสียงไม่พอสามในสี่ หลังจากมี ส.ส.ราว 20 คน ลงมติงดออกเสียง (อุ้ม) จนเสียงไม่พอ

แต่คราวนี้มีเสียงเป็นเอกฉันท์ คือ 128 เสียง แต่ถึงออย่างไร นายชัยธวัช ยืนยันว่า จะไม่มีการเปิดเผยรายชื่อ ส.ส.และกรรมการบริหารพรรค ที่เคยลงมติงดออกเสียงก่อนหน้านี้ อ้างว่า เป็นเรื่อง “ลับ” ขณะเดียวกัน ก็ย้ำว่า น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับผู้ช่วย ส.ส.คนดังกล่าว รวมถึงไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องทุจริต ตามข้อกล่าวหาอีกด้วย

ในการแถลงหลังการประชุมพรรค นายชัยธวัช กล่าวปกป้อง น.ส.เบญจา แม้ยอมรับว่า เธอตั้งผู้ช่วย ส.ส. คนดังกล่าวขึ้น เพราะพรรคเสนอชื่อ เนื่องจากเห็นว่าเป็นคณะทำงานในจังหวัดปราจีนบุรี แต่เมื่อเข้าสู่กระบวนการสอบสวน นางสาวเบญจา ได้นำรายชื่อออกจากการเป็นผู้ช่วย ส.ส.แล้ว เพื่อไม่ให้เกิดการอคติในการตรวจสอบ เกี่ยวกับการรับผลประโยชน์ทับซ้อนใดๆ ในการพิจารณาสอบสวนเรื่องนี้

ส่วนจะมีการแจ้งความดำเนินคดีกลับกับนายวุฒิพงศ์ หรือไม่นั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า ในส่วนที่พรรคต้องทำ คือ การสอบสวนว่ามีการรับผลประโยชน์จริงหรือไม่ หากมีข้อเท็จจริงที่เชื่อมโยงกับนางสาวเบญจา แน่นอนว่าต้องมีการตรวจสอบ

“ต้องเรียนอย่างนี้นะครับ ข้อเท็จจริงที่ ส.ส.ปราจีนบุรี นำมากล่าวหา ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับคุณเบญจาเลย เป็นเพียงการกล่าวหาว่า บุคคลที่เป็นทีมงานของพรรคในจังหวัดปราจีนบุรี มีพฤติการณ์ที่เชื่อได้ว่ารับผลประโยชน์จากบ่อขยะ ซึ่งในข้อเท็จจริงทั้งหมด ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับคุณเบญจาเลย เพียงแต่มีการกล่าวหาว่า เพราะบุคคลท่านนี้เป็นผู้ช่วย ส.ส. ของคุณเบญจา ก็เลยเป็นเหตุที่มีแรงจูงใจในการขับเขาออกจากพรรค” นายชัยธวัช กล่าว

นายชัยธวัช กล่าวว่า ทั้ง 2 กรณี จะต้องพิจารณาแยกกัน เรื่องคุกคามทางเพศ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เรื่องทุจริตบ่อขยะก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง หากบุคคลที่ถูกกล่าวหารับผลประโยชน์จากบ่อขยะจริง ก็ไม่สามารถลบข้อครหาเรื่องคุกคามทางเพศหายไป

ถามว่า กรรมาธิการการ (กมธ.) การอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร จะรับลูกเชิญนายวุฒิพงศ์ เข้าไปให้ข้อมูล นายชัยธวัช ตอบทันทีว่า “ก็ดีเลยครับ” ตนก็อยากให้จริงจัง เพราะเครือข่ายผลประโยชน์ในการหากินกับบ่อขยะ รวมถึงขยะในอุตสาหกรรม มลพิษต่างๆ ในพื้นที่ภาคตะวันออก เกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลและนักการเมืองบ้านใหญ่เต็มไปหมด ตนยินดีด้วยซ้ำ หากทาง กมธ.มาช่วยสอบสวนแล้วคนของพรรคก้าวไกลผิดจริง ตนยิ่งขอบคุณ และอย่าหยุดแค่นั้น ต้องสอบไปดูว่านักการเมืองบ้านใหญ่ มีใครที่เกี่ยวข้องกับบริษัทพวกนี้ และเป็นเหตุผลสำคัญที่ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ชาวปราจีนบุรี เขต 2 เลือกคนของพรรคก้าวไกล

ส่วน ส.ส.ที่โหวตอุ้มนายไชยามพวาน 22 คนนั้น วันนี้ก็มาเข้าร่วมประชุม แต่ประเด็นการพิจารณาในวันนี้ ผิดร้ายแรงจากกรณีที่ขัดต่อกรรมการบริหารพรรค หรือไม่ ขัดต่ออุดมการณ์และทำให้พรรคเสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างร้ายแรง หรือไม่ ซึ่งเป็นการพิจารณาข้อความผิดคนละกรณีกัน ไม่สามารถพิจารณาซ้ำได้ เพราะเราพิจารณาเรื่องนี้ไปแล้ว

เมื่อถามว่า มีการเรียกร้องให้เปิด 22 รายชื่อ ผู้ที่อุ้มนายไชยามพวาน นั้น นายชัยธวัช ยืนยันว่า เปิดไม่ได้ ตนในฐานะหัวหน้าพรรค ได้เรียกร้องให้มีการลงมติ และเปิดอภิปรายถกเถียงอย่างเต็มที่ เพื่อให้ทุกคนไม่ต้องกังวล ตนเป็นคนกำชับเองว่าเมื่อลงมติไปแล้ว สามารถมีความคิดเห็นแตกต่างกันได้ แต่เมื่อลงมติไปแล้ว ต้องไม่โจมตีเพื่อนที่ลงมติแตกต่างจากตนเอง ไม่เช่นนั้นต่อไปในพรรค เวลาที่เปิดให้ทุกคนแสดงความเห็นอย่างเต็มที่ แม้จะเห็นไม่ตรงกัน ก็จะไม่สามารถทำได้

“ผมในฐานะหัวหน้าพรรค ขอให้ทุกคนไม่เอารายชื่อว่าใครโหวตอะไร มากล่าวหาโจมตีกัน ดังนั้น ผมเองก็เปิดเผยไม่ได้ ก็เป็นคนบอกให้ ส.ส.ไม่ให้ออกมาเปิดเผยเอง เหตุผลก็มีแค่นั้น เราไม่ได้ปกปิดว่าใครมีความเห็นว่าอย่างไร แต่เป็นเรื่องกระบวนการภายในของพรรค และผมยืนยันว่า การที่มีความเห็น การโหวตแตกต่างกันนั้น เป็นข้อเท็จจริงที่มีความชัดเจนไม่เท่ากันของทั้ง 2 กรณี”

เมื่อฟังจากปากของหัวหน้าพรรค คือ นายชัยธวัช ตุลาธน ทำให้เห็นว่า มีสองเรื่องที่เขาอยากสื่อออกไป นั่นคือ การ “ขับนายไชยามพวาน” ออกจากพรรค เพื่อลดกระแสกดดันจากสังคม รวมถึงบรรดา “ด้อมส้ม” ที่รับไม่ได้ กับการคุกคามทางเพศ แต่ถึงอย่างไรจะไม่มีการเปิดเผยรายชื่อบรรดา ส.ส.จำนวน กว่า 20 คน ที่เคยโหวตอุ้ม นายไชยามพวาน ก่อนหน้านี้ โดยเขาบอกว่าเป็นคนสั่งไม่ให้เปิดเผยเอง อ้างว่าเป็นเรื่องกระบวนการในพรรคเกรงว่าจะเกิดปัญหาตามมา

ขณะเดียวกัน เขาก็ยังปกป้องแบบ “ตัดจบ” ข้อกล่าวหาเรื่อง “ตบทรัพย์” โดยย้ำว่า น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องทุจริต ตามที่มีการกล่าวหา

อย่างไรก็ดี เชื่อว่า สังคมได้ไปไกลกว่าเรื่องการขับสอง ส.ส.ออกจากพรรค ทั้ง นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา ส.ส.ปราจีนบุรี และ นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร เพราะเวลานี้สังคมต้องการรับรู้ถึง “มาตรฐานทางจริยธรรม” ของสมาชิกพรรค และพรรคก้าวไกลมากกว่า เพราะเคยประกาศเอาไว้มาตั้งแต่เริ่ม ทำนองว่ามี “มาตรฐานสูง” กว่าพรรคอื่นที่เป็นพรรคของคนรุ่นเก่า ล้าหลัง แต่ต้องการสร้างการเมืองมาตรฐานใหม่ เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศ

อย่างไรก็ดี การที่มี ส.ส.กว่า 20 คน ยังโหวตปกป้อง ส.ส.ที่คุกคามทางเพศ ทำให้มติรอบแรกขับออกไม่ได้ และตอนนี้สังคมรวมถึงบรรดา “ด้อมส้ม” ไม่น้อยก็เรียกร้องอยากให้เปิดชื่อ ส.ส.พวกนั้นออกมาให้ได้รู้ว่าเป็นใครกันบ้าง รวมไปถึงพิสูจน์ข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริต ที่คนของพรรคไปเกี่ยวข้อง

แต่การที่ หัวหน้าพรรค คือ นายชัยธวัช ตุลาธน รีบตัดจบทั้งไม่ยอมเปิดชื่อ ส.ส.ทั้ง 22 คน ดังกล่าว อ้างว่า เป็นกระบวนการภายในพรรค และป้องกันปัญหาในอนาคตหากมีการโหวตแตกต่างกัน รวมไปถึงการ “ด่วนสรุป” ว่า น.ส.เบญจา แสงจันทร์ หนึ่งในกรรมการบริหารพรรค ที่ถูกระบุว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ช่วย ส.ส.รายหนึ่งเรียกรับเงินจากโรงงานกำจัดขยะในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ไม่เกี่ยวข้อง ดังนั้น หากบอกว่า งานนี้จบแค่สอง ส.ส.คุกคามทางเพศที่ถูกขับจากพรรค แต่สำหรับมาตรฐานทางจริยธรรมของพรรค ที่เคยโม้เอาไว้ถือว่า ป่นปี้ยับเยินไปแล้ว !!


กำลังโหลดความคิดเห็น