“ปูอัด” ร่ำไห้โดนขับพ้นพรรค เหมือนจะสำนึก แต่ขอกอดเก้าอี้สส.ไว้ก่อน **“ชัยธวัช”เฉลยเอง กก.บห.ก้าวไกล ที่มีผู้ช่วยไปรับ “ตั๋วโรงขยะ” คือใคร?!

ข่าวปนคน คนปนข่าว

**“ปูอัด” ร่ำไห้โดนขับพ้นพรรค เหมือนจะสำนึก แต่ขอกอดเก้าอี้สส.ไว้ก่อน

ในที่สุดก็ไม่รอด “สส.ปูอัด” ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กรุงเทพฯ โดนขับออกจากพรรคก้าวไกลเรียบร้อย โดยมติของที่ประชุมร่วมระหว่างสส.และกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ที่หลบสื่อเมืองกรุง ไปประชุมกันที่จังหวัดระยอง เมื่อวานที่ผ่านมา (7พ.ย.)

ทราบมาว่า เสียงลงมติรอบนี้ เป็นเอกฉันท์ทั้ง 128 เสียง เต็มองค์ประชุม ไม่มีใครกั๊ก จนเสียงไม่ครบ 3ใน 4 เหมือนการประชุมครั้งก่อน ที่ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่อง “สองมาตรฐาน” อื้ออึงไปทั่ว ทำนองว่าผิดคุกคามทางเพศเหมือนกัน “สส.แจ้” วุฒิพงศ์ ทองเหลา จากปราจีนบุรี โดนขับออก แต่ “สส.ปูอัด” ผู้มีความสนิทสนมกับแกนนำพรรค กลับโดนแค่คาดโทษ

ลงมติแก้ตัวใหม่ ขับออกด้วยเสียงเอกฉันท์แบบนี้ ก็พอมีโอกาสจะเรียกคะแนนจากเหล่ามวลชนสีส้ม กลับคืนมาได้บ้าง ทำให้เห็นว่าพรรคไม่ปกป้องคนผิด นิ้วไหนร้าย ก็พร้อมจะตัดนิ้วนั้นทิ้ง

การลงมติเที่ยวนี้ ก็โดยอ้างสาเหตุที่ “สส.ปูอัด” ยังไม่สำนึก แม้จะเปิดแถลงข่าวเมื่อวันที่ 3 พ.ย. โค้งคำนับขอโทษถึง 8 ครั้ง แถมตอนลงพื้นที่กำจัดวัชพืช ดูปัญหาน้ำท่วมย่านบางขุนเทียนเมื่อวานซืน ก็โค้งคำนับชาวบ้านไปแทบจะตลอดทาง

แต่คณะกรรมการบริหารพรรคก็เห็นว่า ไม่ได้จริงใจ หรือแสดงออกถึงการยอมรับผิดเรื่องพฤติกรรมคุกคามทางเพศของตัวเอง ซ้ำยังเอาข้อมูลของผู้ร้องมาเปิดเผย สร้างความเสียหายซ้ำเติมเข้าไปอีก ไม่เป็นไปตามเงื่อนไข “คาดโทษ” ที่พรรคมีมติครั้งก่อน

ส่วน “สส.ปูอัด” จะสำนึกหรือไม่ หลังจากโดนมติรอบ 2 ให้ออกจากพรรค ฟังจากที่ให้สัมภาษณ์เมื่อวานหลังจากทราบมติพรรค ก็เห็นว่ามีท่าทีอ่อนลงจากที่แถลง เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา พอสมควร


คราวนี้ “สส.ปูอัด” ยอมรับว่า ทำให้พรรคเสียหายมากจริงๆ เป็นความผิดของตนเองทั้งหมด ไม่ใช่ความผิดของพรรคเลย
“ผมที่ทำให้พรรคเจ็บขนาดนี้ มีรอยร้าวมากมายขนาดนี้ ก็เหมาะสมแล้วที่จะถูกขับออกมา และไม่อยากให้ประชาชนโทษ หรือโกรธพรรค” สส.ปูอัด ให้สัมภาษณ์ ด้วยท่าทีที่ยังมีเยื่อใยผูกพันอยู่กับพรรคก้าวไกล

พร้อมยืนยันว่า พรรคก้าวไกลยังเป็นพรรคที่มีอุดมการณ์ ยังมีบุคคลที่เก่งๆ อีกมาก ปัญหาวันนี้เป็นที่ตัวบุคคล พรรคก้าวไกลยังคงยืนหยัดในการทำงานเพื่อทุกคน ทั้งในและนอกสภาผู้แทนราษฎร ตนพร้อมยกมือช่วยเหลือในสภา หากช่วยได้ ก็ช่วยเต็มที่ เพราะยังเชื่อมั่นในพรรคก้าวไกล

นี่คงเป็นบทเรียนครั้งสำคัญในชีวิตของเด็กหนุ่มที่เข้ามาทำงานการเมือง ได้เป็นผู้แทนของประชาชนตั้งแต่อายุยังน้อย ถึงตอนนี้ “สส.ปูอัด” คงได้เรียนรู้อะไรมากแล้ว

“เป็นบทเรียนมหาศาลในช่วงวัยนี้ เราเป็นคนสาธารณะแล้ว ในวันที่เป็นบุคคลธรรมดาอาจทำได้ แต่เมื่อเป็นบุคคลสาธารณะ ก็ทำไม่ได้แล้ว เป็นบทเรียนให้เพื่อน สส.ทุกคนในอนาคตต่อไป” สส.ปูอัดให้สัมภาษณ์ตอนหนึ่งสลับกับการสะอื้อไห้เมื่อวาน

ฟังดูก็เหมือน สส.ปูอัด ได้สำนึกแล้ว ณ วันนี้ เวลานี้ แต่ปรากฏว่า ในส่วนของตำแหน่ง สส.นั้น “ปูอัด” ยืนยันว่าจะยังไม่ลาออก แต่จะรอให้มีคำตัดสินตามกระบวนการยุติธรรมออกมาเสียก่อน หลังจากที่มีข่าวว่า “พี่ศรี” ศรีสุวรรณ จรรยา นักร้องคนดังได้ไปยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. ไว้เรียบร้อย

โดยสรุปก็เท่ากับว่า แม้จะยอมรับมติพรรคที่ให้ขับออก แต่ก็ยังไม่ได้ยอมรับความผิดเรื่องคุกคามทางเพศ ตามมติพรรคนั่นเอง

**“ชัยธวัช”เฉลยเอง กก.บห.ก้าวไกล ที่มีผู้ช่วยไปรับ “ตั๋วโรงขยะ” คือใคร?!


กรณี“สส.แจ้” วุฒิพงศ์ ทองเหลา ส.ส.ปราจีนบุรี แฉกลับ หลังถูกพรรคก้าวไกลมีมติให้ขับออกจากพรรค ด้วยผิดจริยธรรมร้ายแรง ที่ไปมีพฤติกรรมคุกคามทางเพศกับทีมงานของตัวเอง ว่าต้นเรื่องมาจากการที่ตนเองได้ร้องเรียนไปยังพรรค ว่ามี “ผู้ช่วย” ของส.ส.คนหนึ่ง ที่มีตำแหน่งเป็นถึงกรรมการบริหารพรรค ไปรับผลประโยชน์จากจากโรงงานกำจัดขยะ ในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี หลายล้านบาท

และส.ส.ที่เป็นกรรมการบริหารพรรคคนนั้น ก็เป็นคนพา “หญิงผู้เสียหาย” มาร้องเรียนว่าถูก“สส.แจ้”คุกคามทางเพศ

ขณะที่ผู้คนกำลังคาดเดาว่า กรรมการบริหารพรรคคนนั้นคือใคร ที่ไปพัวพันกับ “ตั๋วโรงขยะ” ทาง “หัวหน้าต๋อม” ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ก็ออกมาเฉลยในช่วงที่มีการแถลงข่าว กรณีที่ประชุมพรรคก้าวไกล มีมติขับ “ปูอัด” ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. พ้นพรรค

...ว่าเป็น “เบญจา แสงจันทร์” สส.บัญชีรายชื่อ และประธานคณะทำงานชุดพิเศษเพื่อแก้ไขปัญหาความรุนแรงทางเพศ ของพรรคก้าวไกลนั่นเอง... พร้อมปกป้องว่า “เบญจา” ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรียกรับผลประโยชน์ ตามที่ “สส.แจ้” เอามาแฉ

เพราะเบญจาก็ส่วนเบญจา ผู้ช่วยสส.ก็ส่วนผู้ช่วยสส.


“ชัยธวัช” บอกว่า การแต่งตั้ง “ผู้ช่วยสส.”คนนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นจากความสัมพันธ์ส่วนบุคคล ระหว่าง “เบญจา” กับผู้ช่วยคนนั้น แต่เป็นคนที่พรรคเสนอชื่อให้ เนื่องจากเห็นว่าเป็นคณะทำงานในจังหวัดปราจีนบุรี และเมื่อพรรคนำเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการสอบสวน ก็ได้ตัดรายชื่อคนนั้นออกจากการเป็นผู้ช่วยสส.แล้ว

ด้วยเหตุผลที่ว่า เพื่อไม่ให้มีปัญหาเรื่องอคติ หรือเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน!!

“ต้องเรียนอย่างนี้นะครับ ข้อเท็จจริงที่ สส.ปราจีนบุรี นำมากล่าวหา ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับคุณเบญจาเลย เป็นเพียงการกล่าวหาว่า บุคคลที่เป็นทีมงานของพรรค ในจังหวัดปราจีนบุรี มีพฤติการณ์ที่เชื่อได้ว่า รับผลประโยชน์จากบ่อขยะ ซึ่งในข้อเท็จจริงทั้งหมด ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับคุณเบญจาเลย เพียงแต่มีการกล่าวหา เพราะบุคคลท่านนี้เป็นผู้ช่วยสส. ของคุณเบญจา ก็เลยเป็นเหตุที่มีแรงจูงใจในการขับเขาออกจากพรรค”

หัวหน้าพรรคก้าวไกล บอกว่า ทั้ง 2 กรณี จะต้องพิจารณาแยกกัน เรื่องคุกคามทางเพศก็เป็นเรื่องหนึ่ง เรื่องทุจริตบ่อขยะ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง หากบุคคลที่ถูกกล่าวหารับผลประโยชน์จากบ่อขยะจริง ก็ไม่สามารถลบข้อครหาเรื่องคุกคามทางเพศของ สส.วุฒิพงศ์ ให้หายไปได้


พูดง่ายๆว่า แม้ “สส.แจ้” จะขยันขันแข็ง ตรวจสอบทุจริต ให้ความสำคัญกับเรื่องกำจัดขยะมลพิษ ต่อสู้เรื่องสิ่งแวดล้อมเพื่อชาวบ้านอย่างแข็งขัน แต่ก็ไม่สามารถลบล้าง หรือชดเชยกับความผิดในเรื่องคุกคามทางเพศไปได้ ...อย่าเอามาปะปนกัน

แต่เรื่องนี้ ตนเองและผู้บริหารพรรคก้าวไกล ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับการตรวจสอบเรื่องทุจริตที่ว่า เพียงแต่ตอนนี้ “ผู้ช่วยสส.”คนนั้น กำลังบวชอยู่ ต้องรอให้สึกออกมาก่อน จึงค่อยเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริง

สิ่งที่ “หัวหน้าต๋อม” อธิบายมายืดยาวนั้น เท่ากับเป็นการปกป้องแบบ “ตัดจบ” ว่า “เบญจา แสงจันทร์” กรรมการบริหารพรรค ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรีดเงินโรงงานกำจัดขยะ ตามที่ “สส.แจ้”กล่าวหา

แต่สังคมทั่วไปจะเชื่อตามนั้นหรือไม่ นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะตอนนี้ปัญหาที่ประเดประดังเข้ามานั้น เป็นเรื่องที่ท้าทายถึง “มาตรฐานทางจริยธรรม” ที่พรรคก้าวไกลพยายามอวดโอ่เป็นอย่างยิ่ง!