xs
xsm
sm
md
lg

“ดร.อานนท์” ฟาดแรง “ก้าวไกล” การเมืองใหม่สุดน้ำเน่า “นิพิฏฐ์” ซัด “หมออ๋อง” เหตุผลฟังไม่ขึ้น ที่ถูกต้องลาออก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา หรือ หมออ๋อง จากแฟ้ม
สั้นๆ! “ดร.อานนท์” ฟาดแรง “ก้าวไกล” การเมืองใหม่สุดน้ำเน่าเหลือทน “นิพิฏฐ์” ซัด “หมออ๋อง” เหตุผลไม่ลาออกฟังไม่ขึ้น ชี้ น่าจับตาก้าวไกลไปยาวๆ “อ.ไชยันต์” ยก 3 เหตุผล ที่ “ก้าวไกล” จำเป็นต้องเลือกผู้นำฝ่ายค้าน

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (29 ก.ย.) จากกรณีพรรคก้าวไกล ได้ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ และ ส.ส.ของพรรค เพื่อวางแนวทางการทำงานที่รองรับเป้าหมายของพรรค จากนั้นพรรคได้ออกแถลงการณ์ กรณีให้ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาคนที่ 1 พ้นจากสมาชิกภาพ อันเป็นไปตามความคาดหมาย ที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้

ภาพ ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ จากแฟ้ม
ล่าสุด ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์ (NIDA) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Arnond Sakworawich ระบุว่า
“ขับออกจากพรรคเพื่อไปหาพรรคใหม่อยู่ ทำให้ได้เป็นผู้นำพรรคฝ่ายค้าน และยังได้ตำแหน่งรองประธานสภาโดยพฤตินัยอีกด้วย นี่คือการเมืองใหม่ที่สุดจะน้ำเน่าเหลือทนได้จริงๆ”

ภาพ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ จากแฟ้ม
ขณะเดียวกัน นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตส.ส.พัทลุง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า

“พรรคก้าวไกล สมยอมกันหรือเปล่า?

- กรณีพรรคก้าวไกล ขับ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา หรือ หมออ๋อง ส.ส.พิษณุโลก เขต 1 พ้นจากสมาชิกภาพของพรรคก้าวไกล ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101(9) และ ข้อบังคับพรรคก้าวไกล ข้อ 64(5) เพราะนายปดิพัทธ์ ไม่ยอมลาออกจากตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร

- เป็นเรื่อง “ความบิดเบี้ยว” ของสมาชิกพรรคก้าวไกล หรือ “ความบิดเบี้ยวของรัฐธรรมนูญ”

- ในความเห็นส่วนตัว เห็นว่า เป็นความบิดเบี้ยวของสมาชิกพรรคก้าวไกล (หมออ๋อง) มากกว่า เพราะต้องการตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรไว้

- การเมือง จึงต้องดูกันนานๆ อำนาจเมื่อเสพแล้วมันจะติด มันไม่เข้าใคร-ออกใครหรอก

- พรรคก้าวไกล และหมออ๋อง จากกันด้วยน้ำตาไหลพราก ผมคิดว่า มิได้จากกันเพราะโกรธกันเรื่องจากหมออ๋อง ทำผิดวินัยหรือ ผิดจริยธรรมอย่างแรง ตามข้อบังคับพรรคหรอก

- ผมไม่โทษพรรคก้าวไกล เพราะหากพรรคก้าวไกล ต้องการตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน เขาก็ต้องขับสมาชิกพรรคออก

- แต่ผมติดใจเหตุผลของหมออ๋อง ทุกเหตุผลที่ยกมาอ้าง ในความเห็นส่วนตัว ผมว่ารับฟังไม่ได้ ท่านได้รับการเลือกตั้งเพราะสังกัดพรรคก้าวไกล ท่านควรจะลาออกจากตำแหน่งรองประธานอย่างสง่างาม และมาช่วยพรรคก้าวไกลขับเคลื่อนความเป็นฝ่ายค้านอย่างเข้มแข็ง เหมือนที่พรรคก้าวไกลเคยแหกปากบอกประชาชนไว้

- ในภายภาคหน้า ท่านจะกลับมาลงสมัครพรรคก้าวไกลอีกหรือเปล่า หรือพรรคก้าวไกลจะจัดการอย่างไรในเขต 1 พิษณุโลกต้องคอยดูกัน

- สำหรับพรรคนี้ เหมือนหนังยาวครับ ต้องดูกันนานๆ

- หมออ๋อง คนนี้แหละ คือคนที่ใช้เงินหลวงเลี้ยงหมูกะทะแม่บ้านสภา 370 คน และ เป็นหมออ๋อง คนเดียวกันที่ใช้เงินสภา 1.3 ล้านบาท ยกทริปไปดูงานสิงคโปร์ในวันเสาร์-อาทิตย์

- ด่ารัฐธรรมนูญอยู่ทุกวัน แต่เวลาใช้เพื่อประโยชน์ตัวเอง ก็อ้างรัฐธรรมนูญที่ตัวเองด่านี่แหละ”

ภาพ ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร จากแฟ้ม
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กส่วนตัว Chaiyan Chaiyaporn ระบุว่า

“ความสมเหตุสมผลและความจำเป็นที่พรรคก้าวไกลต้องเป็นผู้นำฝ่ายค้าน คือ

1. นอกเหนือจากพรรคที่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลแล้ว

พรรคก้าวไกลเป็นพรรคที่มี ส.ส. มากที่สุดในสภาฯ ซึ่งเป็นเงื่อนไขปกติที่ต้องทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ

2. จากข้อ 1 ผู้นำฝ่ายค้านและคณะ จะทำหน้าที่เป็นคณะรัฐมนตรีเงา ตรวจสอบ วิจารณ์ และให้คำแนะนำต่อรัฐบาล

นั่นคือ แสดงผลงานให้เป็นที่ประจักษ์เพื่อคะแนนเสียงในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

3. หากมีการลงมติไม่ไว้วางใจ หรือเสียงแตกในรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ทำให้ได้เสียงไม่เกินกึ่งหนึ่งของสภาฯ (หลังเมษายน 2567 เป็นต้นไป) โดยไม่มีการยุบสภาฯ

ตามหลักการของระบบรัฐสภา ผู้นำฝ่ายค้านเท่านั้นที่มีความชอบธรรมที่จะทำหน้าที่เป็นแกนในการหาเสียงสนับสนุนจากพรรคการเมืองต่างๆ ในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ทันที จากบทบาทของการทำหน้าที่เป็นคณะรัฐมนตรีเงามาก่อนหน้า”


กำลังโหลดความคิดเห็น