“แกนนำ คปท.” อ้างหลักฐานมัด “ทักษิณ” ไม่ได้ป่วย เตือน “อธิบดีราชทัณฑ์-หมอใหญ่ รพ.ตร.” จะติดคุก หากเข้าข่ายช่วยนักโทษ จี้ ตอบสังคมปมผ่าตัด ใหญ่หรือเล็ก “นิพิฏฐ์” แนะ 6 ข้อ วิธีตรวจสอบปมป่วยหนัก ไม่ง่าย แต่ทำได้
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (22 ก.ย. 66) นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หัวข้อ ระวังติดคุก โดยระบุว่า
“อธิบดีราชทัณฑ์ หมอใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ อนาคตจะส่งคุณเข้าเรือนจำเสียเอง
คุณจะติดคุกเพราะช่วยนักโทษออกนอกคุก
หลักฐานมันชัด
1. น.ช.ทักษิณ อ้างเอกสารจากการรักษาตัวจากต่างประเทศ
2. พยานที่ชื่อ อุ๊งอิ๊ง บอกว่า พ่ออ่อนเพลีย เครียด (อาการคนป่วยหนักเหรอแบบนี้)
3. การผ่าตัด หลักฐาน เอกสาร มันต้องมีว่าผ่าอะไร ไม่ใช่ผ่าริดสีดวง แล้วอ้างผ่าตัดใหญ่ อย่าลืมนะครับ การป่วยจนต้องขอออกมารักษาตัวนอกเรือนจำ กับการผ่าตัดจนต้องขอขยายเวลามันต้องมีคำอธิบายตั้งแต่ต้น และคำอธิบายมันคนละชุดกันจะสอดคล้องกันหรือไม่อีกประเด็นหนึ่ง
4. การผ่าตัดเป็นหนึ่งในขบวนการที่เตรียมมาก่อนหรือไม่ หมายถึงผ่าตัดเล็กๆ ที่วางแผนว่า เมื่อใกล้ครบ 30 วันค่อยผ่า หรือไม่ผ่าก็ไม่ตาย แต่ผ่าเพื่อจะได้อ้างในการอยู่ต่อ
ทั้งหมดมันคือละครที่จะมีการกล่าวโทษ ให้ดำเนินการเอาผิดผู้เกี่ยวข้องแน่ๆ ครับ ไม่ปล่อยให้สมคบกันหลอกประชาชนเช่นนี้หรอก
คปท.ยื่นหนังสือมาหลายที่เพื่อสร้างเป็นหลักฐานเอกสาร ว่า เราได้ดำเนินการตามกระบวนการทางช่องทางแล้ว ได้เตือนแล้วด้วยลายลักษณ์อักษรที่ยื่นแต่ละครั้ง
พรุ่งนี้ไปยื่นให้ อธิบดีราชทัณฑ์ อีกคน
1. จะเสนอให้เปิดเผยอาการป่วยและการผ่าตัดว่ามันเป็นอย่างไร ทำไมพูดไม่ได้ แต่กรณี เอกชัย หงษ์กังวาล ทำไมพูดได้
2. อธิบดีจะอนุญาตให้หน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนอื่น หน่วยงานด้านทนายความ กรรมาธิการด้านกฎหมายของสภา เข้าเยี่ยมหรือสังเกตการณ์ เหมือนกรณีเข้าไปพบผู้ต้องขังอื่นได้หรือไม่
อย่างกรณีผมเข้าเรือนจำ ก็มีตัวแทนจาก un 2 คนมาสอบถามความเห็น
อธิบดีต้องตอบสังคมให้ได้
ไม่งั้นท่านเองจะต้องตอบศาลก่อนเข้าเรือนจำเสียเอง”
ขณะเดียวกัน นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ระบุว่า
“*ทุกคนต้องเสมอภาคกันต่อหน้ากฎหมาย
- มีคนจำนวนมาก ไม่เชื่อว่า คุณทักษิณป่วยถึงขนาดต้องไปนอนโรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14 ซึ่งรองรับผู้ป่วยวีไอพี
- หาก คุณทักษิณ ไม่ป่วยถึงขนาดนั้น การกระทำของกรมราชทัณฑ์/คณะแพทย์ และ ผอ.รพ.ตำรวจ อาจถือว่า เป็นการเลือกปฏิบัติต่อบุคคลอย่างไม่เสมอภาค ซึ่งในยุคปัจจุบัน การกระทำแบบนี้ถือว่าร้ายแรง และอาจถือว่าเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ในหมวด 2 ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม ส่วนจะไปไกลถึงขนาดปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157 หรือไม่ ผมยังไม่วิเคราะห์ไปถึงขนาดนั้น
- แต่ผมเชื่อว่า การที่คุณทักษิณ ไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว และเข้า รพ.แบบวีไอพี ในคืนนั้นเลย “ผิดปกติ”
- การตรวจสอบเรื่องนี้ ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยาก ตามหลักไม่มีฆาตกรไหนที่ทำผิดแล้วไม่ทิ้งร่องรอย ผมแนะนำ การตรวจสอบอย่างนี้
1. ยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.ซึ่งผมคิดว่า น่าจะมีผู้ยื่นแล้ว การยื่นต่อ ป.ป.ช.ไม่จำเป็นต้องระบุเลขมาตราการกระทำผิด ระบุเพียงข้อเท็จจริง เจ้าหน้าที่จะเป็นคนสรุปข้อเท็จจริง เข้ากับข้อกฎหมายเอง
2. ยื่นเรื่องต่อ ผอ.รพ.ตร.ขอให้เก็บภาพในกล้องวงจรปิดไว้ตลอดเวลาที่คุณทักษิณพักอยู่ใน รพ.ให้สามารถตรวจสอบได้ว่า ใครเข้าพบวันไหน เวลา เท่าไหร่ แพทย์, พยาบาล คนไหน เข้าตรวจเวลาเท่าไหร่
3. ยื่นเรื่องต่ออธิบดีกรมราชทัณฑ์ ให้บันทึกรายละเอียดตั้งแต่การรับตัวคุณทักษิณ จนถึงการส่งตัวคุณทักษิณไป รพ.ตร.
4. ขอให้ รพ.ตร.เก็บหลักฐานทางการแพทย์ ของผู้ป่วยไว้ทุกอย่าง รวมทั้งการวินิจฉัย และ ผลการประชุมของคณะแพทย์ว่าแต่ละคนมีความเห็นอย่างไร
5. ขอให้ ป.ป.ช.กันบุคคลที่เป็นประโยชน์ต่อคดีไว้เป็นพยาน
6. ในกรณีที่ ป.ป.ช.จงใจไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ตามข้อ 1. ประชาชนสามารถลงชื่อกันให้ได้ 20,000 คน เพื่อยื่นต่อประธานศาลฎีกา เพื่อแต่งตั้งผู้ไต่สวนอิสระ ตาม รธน.มาตรา 236 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 49 ผมเชื่อว่า ป.ป.ช.คงไม่กล้าที่จะปฏิเสธการตรวจสอบเรื่องนี้
*ใครที่คิดว่า เป็นผู้กล้า เดินตามข้อ 1-6 เถอะครับ ผมยินดีเป็นที่ปรึกษาให้ อย่าให้บ้านเมืองของคุณเลอะเทอะไปกว่านี้”