xs
xsm
sm
md
lg

“เพจดัง” แฉ ส.ส.ก้าวไกล หนีกลับจากดูงานสิงคโปร์เฉย โผล่ร่วมงานพรรค “นิพิฏฐ์” เสียดายความเห็นต่าง “ปิยบุตร”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ เพจดังแฉ ส.ส.ก้าวไกล หนีกลับจากดูงานที่สิงคโปร์ ขอบคุณข้อมูล-ภาพ จากเพจเฟซบุ๊ก วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร
อีกแล้ว! เพจ วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร แฉ ส.ส.ก้าวไกล หนีกลับจากดูงานสิงคโปร์เฉย เพื่อร่วมกิจกรรมพรรค ถาม ค่าใช้จ่ายเงินใคร ภาษีประชาชนหรือไม่ ฝากสื่อหาคำตอบ “นิพิฏฐ์” เสียดายความเห็นต่างของ “ปิยบุตร” แนะ ทบทวน

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (24 ก.ย. 66) เพจเฟซบุ๊ก วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร อยู่ที่ อาคารกีฬาเวสน์ 1 สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง โพสต์ภาพ พร้อมข้อความระบุว่า

“#ทุกคนคะ มี สส. ก้าวไกล หนีกลับจากสิงคโปร์ก่อนค่ะ
หมออ๋องเคยแจ้งว่า ดูงานที่สิงคโปร์ครั้งนี้สำคัญ ใช้เวลา 4 วัน 3 คืน คัดเลือก ส.ส.ก้าวไกล ที่เหมาะสมไป หนึ่งในนั้นคือ ส.ส. เท้ง

วันศุกร์พบภาพ ส.ส. เท้ง อยู่ที่สภาสิงคโปร์ตามที่แจ้ง แต่วันนี้ (อาทิตย์) พบ ส.ส. เท้ง อยู่ที่กรุงเทพฯ มาร่วมงานของพรรคก้าวไกล

#คำถามค่ะ
1. ทำไม ส.ส. เท้ง ถึงกลับก่อนกำหนดคะ งานไม่มีให้ดูแล้วหรือคะ ถ้าไม่มี คนอื่นอยู่ต่อทำไมคะ ถ้ามีกลับก่อนทำไมคะ

2. ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นใครเป็นคนออกคะ ใช้ภาษีประชาชนหรือไม่คะ

3. ไม่ว่าเหตุผลการกลับก่อนกำหนดคืออะไร แต่การทิ้งภารกิจดูงานในนามประเทศไทย เพื่อมาร่วมงานของพรรคก้าวไกล แสดงให้เห็นว่า ประโยชน์ของพรรคสำคัญกว่าประโยชน์ของประเทศหรือไม่คะ

ฝากพี่ๆ นักข่าวช่วยถาม หมออ๋อง และ ส.ส. เท้ง ให้ด้วยค่ะ”

ภาพ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ จากแฟ้ม
ขณะเดียวกัน นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง โพสต์เฟซบุ๊ก นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ระบุว่า

“ถึง อ.ปิยบุตร

ผมอ่านข่าว ทำนองว่า อ.ปิยบุตร แสงกนกกุล จะไม่วิจารณ์การเมืองอีกแล้ว แต่จะไปเขียนหนังสือและทำงานวิชาการที่ถนัด

ผมเสียดาย! แม้บางเรื่องผมกับท่านมีความเห็นไม่ตรงกัน แต่ความเห็นหลายเรื่องของท่านน่าสนใจ

ผมเห็นคนเข้าไปแสดงความเห็นในเฟซบุ๊กของ อ.ปิยบุตร เห็นแล้วผมก็ตกใจ และผมก็เริ่มไม่เข้าใจประชาชนที่วิจารณ์ท่านเหมือนกัน

นานมาแล้ว ตอนท่านเข้าการเมืองใหม่ๆ ผมเคย debate กับท่าน สัญชาติญาณบอกผมว่า ท่านคือดาวรุ่ง ดวงใหม่ของการเมืองไทย

ในฐานะที่ผมผ่านการเมืองมาก่อนท่านอย่างยาวนาน ผมจึงน่าจะรู้จักโลกที่เป็นจริง และโลกเสมือนจริงมากกว่าท่าน ผมยังแอบหวั่นว่าท่านจะเดินไปไม่ถึงปลายทาง สุดท้ายสิ่งที่ผมหวั่นก็เป็นจริง อย่างที่ผมเคยเขียนหลายครั้งว่า อุดมการณ์เมื่อมันเดินมาถึงปลายทาง บางครั้ง มันก็เหลือเพียงแต่ซาก

ผมผ่านการเมืองยุคสงครามเย็นมา มีคำเปรียบเทียบว่า “แม้เราไม่ใช่ชอบคอมมิวนิสต์ แต่เราก็ไม่เป็นศัตรูกับคนที่เป็นคอมมิวนิสต์” เราเห็นต่างกันบางเรื่องเท่านั้น แต่เราไม่ใช่ศัตรูกันอย่างแน่นอน

ผมกวาดหนังสือ “การปฏิวัติฝรั่งเศส” มาอ่านทุกเล่ม ทั้งที่เป็นภาษาไทย และที่เป็นภาษาฝรั่งเศสให้เขาอ่านและแปลให้ฟัง เพื่อจะมาโต้แย้งกับท่าน เมื่อท่านไม่แสดงความเห็นทางการเมือง ผมคืนหนังสือนั้นไปหมดแล้ว

ผมอยากจะกล่าวว่า สังคมไหนที่ไม่ปกป้องคนที่เห็นต่าง แน่นอนว่า สังคมนั้นคือสังคมเผด็จการ

คนไทยสูญเสียความสามารถในการรับฟังซึ่งกันและกันไปอย่างสิ้นเชิง ประชาธิปไตยที่อาจารย์หวังจึงเหี่ยวเฉาก่อนที่จะเบิกบาน

เราสร้างสังคมให้อยู่ในกลุ่มปิด ที่สื่อสาร และรับฟังกันเฉพาะคนในกลุ่มเดียวกัน ตามความเห็นของแคสส์ ซันสไตน์ แห่ง ม.ฮาร์วาร์ด ที่เรียกว่า “ห้องแห่งเสียงสะท้อน” (echo chamber)

ผมตระหนักถึงเรื่องนี้ ผมจึงเดินออกจากประชาธิปไตย (เพียวๆ) มาสมาทานเป็นนัก “เสรีนิยมประชาธิปไตย” ไม่ยุ่งกับสังคมที่เป็นอยู่ใน “ห้องแห่งเสียงสะท้อน” ผมจึงไม่ยุ่งกับรัฐ และรัฐก็อย่ามายุ่งกับผม

ใครจะเห็นด้วย หรือ ไม่เห็นด้วยกับผมก็ตามสบายเถิด เพราะผมไม่ใช่นักประชาธิปไตย ที่แออัดกันอยู่ในห้องแห่งเสียงสะท้อน (echo chamber)

ผมเพียงเห็นว่าสังคมนี้ควรจะมี อ.ปิยบุตร แสงกนกกุล โลดเล่นให้ความเห็นในวงการเมือง ถ้าทบทวนได้ผมอยากให้อาจารย์ทบทวน เพราะถ้าอาจารย์หยุด ผมก็คงเฉาเพราะไม่รู้จะเถียงกับใครเพื่อให้เกิดปัญญา

#ผมไม่ใช่ด้อมส้ม”


กำลังโหลดความคิดเห็น