xs
xsm
sm
md
lg

“เศรษฐา” เริ่มสมูท แต่ “เทวดาโทนี่” พาพัง!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เศรษฐา ทวีสิน - ทักษิณ ชินวัตร
เมืองไทย 360 องศา


เป็นอันว่า นายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งมีสถานะเป็น “นักโทษเด็ดขาด” ชาย มีโทษจำคุกเหลืออยู่ 1 ปี จากโทษจำคุกรวมทั้งหมด 8 ปี หลังจากที่ได้รับพระราชทานอภัยลดโทษลงมาเรียบร้อยแล้ว และเพื่อให้เข้าใจกันมากขึ้น นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่เชี่ยวชาญเรื่องกฎหมายได้ให้ความรู้ว่า


เมื่อมีพระราชทานอภัยลดโทษ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีแล้ว ขั้นตอนหลังจากนี้ ก็จะดำเนินการตามปกติกับนักโทษทั่วไป เมื่อ นายทักษิณ หายป่วยก็กลับเข้าเรือนจำ ถ้าอาการป่วยไม่ดีขึ้น ก็ต้องรักษาตัวต่อไป และเมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ก็บังคับใช้ได้ทันที ตั้งแต่วันที่มีการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลงมา ซึ่ง นายทักษิณ ไม่สามารถที่จะขอพระราชทานอภัยโทษได้อีก เพราะเป็นพระมหากรุณาธิคุณลงมาแล้ว และ นายทักษิณ ต้องโทษจำคุกอีก 1 ปี ไม่มีลดหย่อนโทษอีกแล้ว เพราะเป็นพระราชอำนาจเด็ดขาดแล้ว

ขณะเดียวกัน เขายืนยันว่า ไม่เคยให้ความเห็นว่า นายทักษิณ ชินวัตร ไม่สามารถลดหย่อนโทษได้อีก จากที่ได้รับพระราชทานอภัยลดโทษจาก 8 ปี เป็น 1 ปี เพียงแต่ให้ความเห็นว่า ถือเป็นพระราชอำนาจเด็ดขาดเท่านั้น

นายวิษณุ กล่าวอีกว่า กรณีของ นายทักษิณ ถือว่า เป็นนักโทษที่ถูกจำคุก 1 ปี ซึ่งนักโทษจำคุก 1 ปี คนอื่นได้รับสิทธิประโยชน์อย่างไร นายทักษิณ ก็จะได้รับสิทธิเช่นนั้น รวมถึงการได้รับการลดหย่อนโทษเมื่อถึงเวลาลดหย่อนทั่วประเทศ ถ้ามีการลดกัน ก็จะได้สิทธิ์เหมือนกับนักโทษคนอื่นๆ

“ยังลดโทษได้อีก แต่จะลดไหม ไม่รู้ บางคนคาดหมายว่า วันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ วันพ่อแห่งชาติ อาจลดได้อีก” นายวิษณุ กล่าว

ก่อนหน้านั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความประจำตัวของ นายทักษิณ เปิดเผยว่า ตลอดการเข้าพบพูดคุยกับนายทักษิณ ที่ผ่านมา นายทักษิณ ยังคงมีอาการอ่อนเพลียบ้าง แต่ยังพูดคุยตอบโต้ได้ ไม่ถึงขนาดมีอาการเหนื่อยหอบ ส่วนเรื่องอาการของโรคหัวใจ หรือโรคอื่นๆ รวมถึงการรักษาพยาบาล ยังคงอยู่ในการประเมินวินิจฉัยของทีมแพทย์ รพ.ตำรวจ และทางเรือนจำแบบวันต่อวัน เวลานี้จึงยังไม่มีแนวโน้มว่าอาการเจ็บป่วยของนายทักษิณทุเลาดีขึ้น หรือจะได้รับการพิจารณาจากแพทย์ เพื่อส่งกลับไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไม่สามารถยืนยันในส่วนนี้ได้

ถามถึงเรื่องความเป็นไปได้ของนายทักษิณ ที่อาจได้รับการพิจารณาพักการลงโทษ เนื่องจากเป็นผู้ต้องขังสูงวัย และมีอาการเจ็บป่วยนั้น นายวิญญัติ ตอบว่า มีความคิดเห็นหลากหลายของบุคคลในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพูดถึงประเด็นนี้ อย่างไรก็ตาม กระทรวงยุติธรรม และกรมราชทัณฑ์ก็จะต้องพิจารณาว่า มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน และเข้าเกณฑ์ตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 หรือกฎกระทรวงของราชทัณฑ์ หรือไม่

ถามว่า นายทักษิณหรือครอบครัวจะยื่นขอพระราชทานอภัยโทษสำหรับวโรกาสสำคัญหลังจากนี้ หรือไม่ เช่น วันที่ 13 ต.ค. หรือ 5 ธ.ค. นายวิญญัติ กล่าวว่า การยื่นขอพระราชทานอภัยโทษที่ผ่านมา และนายทักษิณได้รับการอภัยลดโทษ ก็ถือว่าเป็นที่สิ้นสุดแล้วในครั้งนั้น ซึ่งตนมองว่า เป็นรายครั้งมากกว่า ส่วนในครั้งถัดไปหากมีวาระโอกาสสำคัญ หรือวันสำคัญ นายทักษิณ ก็มีสิทธิ์ได้รับประโยชน์ หรือมีผลเป็นคุณต่อตัวเองได้ ในฐานะที่เป็นผู้ต้องขังทั่วไป แต่ก็ต้องดูว่าขณะนี้ นายทักษิณ จัดว่าเป็นผู้ต้องขังชั้นใด หรืออยู่ในหลักเกณฑ์ใด อีกทั้งยังต้องไปดูในส่วนของพระราชกฤษฎีกา ที่ถ้าหากมีการประกาศออกมานั้น จะมีการระบุหมายเหตุ ข้อยกเว้น หรือสาระเนื้อหาแนบท้ายส่วนได้หรือไม่

ดังนั้น เมื่อได้ยินจากปากของกูรูด้านกฎหมายอย่าง นายวิษณุ เครืองาม แบบนี้ แล้วมันก็พอมองเห็นแนวโน้มได้ว่า นายทักษิณ ชินวัตร อาจจะไม่ต้องนอนในคุกเลยซักวันเดียว เพราะในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ที่จะมีวันสำคัญคือ “วันที่ 13 ตุลาคม” และ “วันที่ 5 ธันวาคม” เขาก็อาจได้รับพระราชทานอภัยโทษ เช่นเดียวกันบรรดานักโทษคนอื่นๆ ตามสิทธิ์ที่ได้รับ หากพิจารณาตามนี้แล้ว หากนับโทษที่เหลืออยู่แค่ 1 ปี กับอีกไม่กี่เดือน ที่อาจได้รับการพระราชทานอภัยโทษในวันสำคัญตามมาอีก ซึ่งมีแนวโน้มสูงว่า จะออกมาตามนั้น

ขณะเดียวกัน จะว่าไปแล้วเวลานี้ นายทักษิณ ชินวัตร ก็ไม่ได้ถูกจำคุกอยู่ในเรือนจำ เหมือนกับบรรดานักโทษเด็ดขาดทั่วไป โดยอ้างว่า “ป่วยหนัก” กำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ และเมื่อฟังจากปากของทนายความส่วนตัว ก็บอกว่า นายทักษิณ ยังมีอาการป่วยหนัก และอาการยังไม่ดีขึ้น รวมทั้งยังไม่มีกำหนดว่าจะส่งตัวกลับเข้าเรือนจำเมื่อใด

แน่นอนว่า นั่นเป็นเรื่องทางกฎหมาย สิทธิของผู้ต้องขัง รวมไปถึง “แท็กติก” ในการดำเนินการของทีมทนาย รวมไปถึงหน่วยงานรัฐ และเจ้าหน้าที่ในการช่วยเหลือ ซึ่งที่ผ่านมาสังคมย่อมมองออกว่า มีการปฏิบัติกับนายทักษิณ ชินวัตร ไม่ต่างจาก “เทวดา” และไม่เหมือนกับนักโทษทั่วไป และที่สำคัญ รับรองว่า แบบนี้ “คนไม่เท่ากัน”แน่นอน เพราะนี่คือความหมายของคำว่า “อภิสิทธิ์ชน” ทั้งที่จะว่าไปแล้ว โทษของเขาก็มาจาก“คดีทุจริต” นั่นเอง

และอย่าได้แปลกใจว่าเวลานี้กระแสความเคลื่อนไหวจากสังคมภายนอกที่กำลังเฝ้ามองอยู่ เริ่มแสดงอารมณ์ไม่พอใจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่มีแนวโน้มว่าจะแผ่วลงตามที่มีความพยายามอยากให้เป็น หรือความพยายามทำให้ “เรื่องเงียบ” มันก็ไม่น่าจะได้ผล ตรงกันข้ามมีแนวโน้มลุกลามไปกว่าเดิม หากมองดูแล้วมีความพยายามช่วยเหลือ แสดงออกในแบบ “อภิสิทธิ์ชน” หรือแบบ “เทวดา” อย่างน่าเกลียด

อีกทั้งสิ่งที่ชาวบ้านกำลังเฝ้ามองกันว่าในที่สุดแล้ว นายทักษิณ ชินวัตร จะติดคุกสักวันหรือไม่ เพราะหลังจากที่เข้าไปในเรือนจำได้ไม่กี่ชั่วโมง ก็ต้องออกมาข้างนอก โดยอ้างว่ามีอาการป่วยต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ และจนบัดนี้ก็ยังไม่มีการเปิดเผยอาการป่วย ทำให้มองได้ว่านายทักษิณ น่าจะ “โคม่า” เพราะรักษาอาการเกินสัปดาห์แล้ว อย่างไรก็ดี สิ่งที่สังคมสงสัยกันก็คือ ในที่สุดแล้วเขาก็จะไม่มีทางติดคุกสักวันเดียว และนี่แหละอาจจะเป็นปัญหาที่ท้าทายความรู้สึก

ขณะเดียวกัน กรณีของ นายทักษิณ ชินวัตร ยังอาจส่งผลกระทบกระเทือนมาถึงรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน อีกด้วย ทั้งที่เริ่มต้นได้ไม่เลว อย่างน้อยก็สามารถสร้างความคาดหวัง และลดเสียงยี้ลงไปได้มาก หลังจากมีการ “ถอย” ของรัฐมนตรีบางคนที่มีภาพลักษณ์ในทางลบ อย่างน้อยก็ถอยชั่วคราว แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คือ กรณีของ นายทักษิณ ชินวัตร ที่กำลังถูกมองว่าไม่ต่างจาก “เทวดา” และกำลังเริ่มท้าทายความรู้สึกของสังคมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในเรื่องของ “คนไม่เท่ากัน” ซึ่งน่าหวาดเสียว และพาให้รัฐบาลพังตั้งแต่เริ่มต้นก็เป็นไป อย่าทำเป็นเล่นไป !!


กำลังโหลดความคิดเห็น