คดีทุจริต “ทักษิณ” ยื่นขออภัยโทษได้ !?

เมืองไทย 360 องศา

หากบอกว่า “ของร้อน” ที่เชื่อมโยงไปถึงการเมือง และเสถียรภาพของรัฐบาลชุดใหม่ ที่นำโดย นายเศรษฐา ทวีสิน และพรรคเพื่อไทย ในเวลานี้ ก็ต้องบรรจุเอาเรื่องการ “ติดคุก” ของ นายทักษิณ ชินวัตร เข้ามาอยู่ในอันดับต้นๆ หรืออาจจะเป็นอันดับแรกด้วยซ้ำไป เพราะนับวันกลายเป็นว่า เรื่องราวของเขา “น่าสงสัย” และต้องติดตามกันแบบกะพริบตาไม่ได้เป็นอันขาด

อย่างที่รับรู้กันว่า นายทักษิณ มีอาการป่วย “หนัก” จนต้องนำส่งโรงพยาบาลตำรวจ เป็นการด่วน ในตอนดึกวันที่ 23 สิงหาคม ที่ผ่านมา และจากการแถลงของแพทย์ ทั้งจากโรงพยาบาลของกรมราชทัณฑ์ ที่ยืนยันว่า เขามีอาการป่วยอย่างน้อย 4 โรค ทั้งความดันสูง โรคหัวใจ โรคปอด เป็นต้น ซึ่งต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

แน่นอนว่า เมื่อมีอาการป่วยหนัก ก็ต้องรักษาดูแลอย่างใกล้ชิด แต่ภาพที่ออกมามันมักจะสื่อออกมาในแบบ “อภิสิทธิ์ชน” หรือ ความหมายในแบบ “เทวดา” เสียมากกว่า จนทำให้เกิดความสงสัย ตั้งคำถามจากสังคมมากขึ้นเรื่อยๆ หรือแม้แต่คำถามว่า “ยังติดคุกอยู่ หรือว่าย้ายไปอยู่ที่บ้าน หรือไม่ก็ย้ายออกไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชน” บางแห่งที่คุ้นเคยแล้วหรือไม่

ซึ่งมันก็ช่วยไม่ได้ที่สังคมต้องสงสัยแบบนั้น เพราะพฤติกรรมเท่าที่เห็น มันก็ส่อให้คิดแบบนั้นเสียด้วย นอกเหนือจากนั้น ในการฟอร์มรัฐบาล หรือการฟอร์มคณะรัฐมนตรี ที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ ก็ปรากฏว่า มีชื่อของว่าที่รัฐมนตรีบางคนที่เชื่อมโยงมาถึงกันโดยตรง เคยมีเรื่องอื้อฉาวในกรณี “ถุงขนม” ที่แม้ไม่ต้องเอ่ยชื่อรับรองว่าสังคมยังจำกันได้ดี โดยเขาคนนั้นกลับได้รับการโปรโมตให้เป็นรัฐมนตรีที่ดูแลด้านกฎหมายเสียด้วย เรียกว่า “ยี้” ของจริง แต่ก็มีเสียงยืนยันออกมาจากปากของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แล้วว่ามีชื่อคนนี้ติดอยู่ในโผคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ด้วย

เมื่อวกกลับมาโฟกัสที่ นายทักษิณ ชินวัตร ก็ต้องตามกันต่อว่า เขาจะมีการยื่น “ขอพระราชทานอภัยโทษ” หรือไม่ และต้องจับตาว่า จะเข้าหลักเกณฑ์หรือไม่ เพราะแม้ว่าจะเป็นนักโทษในกลุ่ม “เปราะบาง” ทั้งในเรื่องของอายุ 70 ปี และมีอาการป่วยก็ตาม แต่ที่ต้องตั้งข้อสังเกต ก็คือ คดีที่เขาต้องโทษจำคุกนั้น เป็น “คดีทุจริต” ซึ่งสามารถทำได้หรือไม่ และเคยมีกรณีตัวอย่างมาแล้วหรือไม่

ลองฟังความเห็นจาก นายจตุพร พรหมพันธุ์ ซึ่งเวลานี้ถือว่าเป็นนักวิเคราะห์วิจารณ์ทางการเมืองที่มีความแหลมคมไม่น้อย และที่สำคัญ เขาเคยเป็นลูกน้องเก่าของนายทักษิณ ดังนั้น คำพูดจากปากของเขา มองในบางมุมมันก็มีข้อมูล มีน้ำหนักเหมือนกัน

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ รายการประเทศไทยมาก่อน ตอน “ไม่ง่าย” ระบุว่า นายทักษิณ ชินวัตร เข้าพักรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ ก็คงหนีไม่พ้นแรงกดดัน และอาจถูกส่งตัวกลับเข้าเรือนจำในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ เพราะทุกเรื่องเป็นไปด้วยความสงสัย กับการอ้างป่วย 4 โรค จนต้องมาอยู่ที่ รพ.ตำรวจ

“ขณะนี้กระแสสังคมไปไกลมาก ถึงขั้นถ้าความจริงปรากฏว่า กลายเป็นคนละเรื่องกับการส่งตัวมารักษาที่ รพ.ตำรวจ แล้ว มันจะแรงกว่าตอนออกกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอย เพราะคนสงสัยมาตั้งแต่ต้น ที่เข้าเรือนจำ แล้วส่งมา รพ.ตำรวจ ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ในกระบวนการปฏิบัติการฟ้าใส โดยให้ทำอะไรก็ได้ ตามใจอยากจะทำ”

นักโทษใหม่ ไม่เคยเข้าคุก ย่อมเป็นธรรมชาติเมื่อเข้าไปอยู่เรือนจำครั้งแรกย่อมมีความเครียด และนอนไม่หลับ เนื่องจากร่างกายต้องปรับกับสภาพแวดล้อมกันใหม่ อย่างไรก็ตาม รพ.ราชทัณฑ์ และสถานพยาบาลเรือนจำ แดน 7 สามารถรับมือความเครียดของนักโทษได้อยู่แล้ว

ส่วนการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะรายนั้น นายจตุพร กล่าวว่า แม้เป็นสิทธิของนักโทษสามารถทำได้ แต่จะมีคนร้องคัดค้านเช่นกัน อีกอย่างการได้รับอภัยโทษนั้น หากว่ากันตามระเบียบทั่วไปของกรมราชทัณฑ์แล้ว ต้องได้หลังวันที่ 22 ส.ค. 2567 เพราะต้องติดคุก 1 ใน 3 ของโทษ เสียก่อน

รวมทั้ง ระบุว่า ระเบียบการอภัยโทษที่แก้ไขใหม่นั้น จะมี 2 ช่องทาง คือ ต้องรับโทษ 1 ใน 3 หรือรับโทษมาแล้ว 8 ปี ถ้านักโทษเข้าเกณฑ์ไหน ก่อนต้องยึดตามระเบียบนั้น ส่วนนายทักษิณ ยังไม่เคยรับโทษมาเลย จึงต้องติดคุก 1 ใน 3 ก่อน จึงจะได้รับอภัยโทษ

ดังนั้น ตามเส้นทางขอพระราชทานอภัยโทษ จึงไม่ได้มาง่ายๆ เลย อีกอย่างเมื่อนายเศรษฐา เป็นนายกฯ และตามขั้นตอนแล้ว รัฐบาลจะเขียนความเห็นไปประกอบพระบรมราชวินิจฉัยอย่างไร เพราะมีความยากอย่างยิ่ง ในคดีเกี่ยวพันกับการทุจริต ซึ่งไม่มีนักโทษคนใดเคยได้รับการอภัยโทษเลย

“เมื่อ (ทักษิณ) กลับไทยเข้ามาติดเบ็ดแล้ว และยังได้ทำตามความอยากของปฏิบัติฟ้าใส โดยต้องการอยู่ในเรือนจำประมาณ 13 ชั่วโมง แล้วทิ้งร่องรอย (ไปอยู่ รพ.ตำรวจ)ไว้ จึงกลายเป็นชนักใหญ่ ถ้าถูกนำตัวกลับไปที่เรือนจำตามเดิม แม้จะออกมารพ.ตำรวจอีก แต่ไม่ง่ายแล้ว ยกเว้นจะป่วยกันจริง ถึงที่สุดประชาชนตั้งท่าไม่เชื่ออยู่แล้ว”

นายจตุพร คาดว่า อีกไม่กี่วันจะครบ 10 วัน ที่รักษาใน รพ.ตำรวจ ดังนั้น กรมราชทัณฑ์ อาจจะส่งตัวทักษิณ กลับเรือนจำ เพราะทนกระแสบีบ กดดันไม่ไหว ซึ่งอาคารพยาบาล แดน 7 ที่เตรียมให้นั้น น่าอยู่กว่า รพ.ราชทัณฑ์ เนื่องจากมีนักโทษป่วยไปพักรักษาไม่มาก

นั่นเป็นคำพูดของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ในฐานะที่เคยเป็นทั้ง “ลูกน้องเก่า” และเคยติดคุกมาก่อน ย่อมรับรู้ถึงระเบียบปฏิบัติ ทั้งในเรื่องการของติดคุก การลดโทษ และการขอพระราชทานอภัยโทษ เช่น ในเรื่องต้องติดคุกมาก่อนไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 และการขอพระราชทานอภัยโทษในคดีทุจริตนั้น ไม่เคยเห็นมาก่อน ซึ่งประเด็นหลังนี้ ก็มีการพูดถึงกันมากว่า กรณีของ นายทักษิณ ชินวัตร นั้นจะทำได้หรือเปล่า เพราะโทษจำคุกของเขา เป็นคดีเกี่ยวกับการทุจริต

ดังนั้น แม้ว่าด้วยภาพที่ปรากฏจะออกมาในแนว “เทวดา” หรือ “อภิสิทธิ์ชน” ถูกสังคมตั้งคำถามในเชิงหมั่นไส้ มากขึ้นเรื่อยๆ แต่ยิ่งทำตัวเหนือกว่าคนอื่นมากเท่าใด มันก็ยิ่งเกิดกระแสต่อต้านมากขึ้นเช่นเดียวกัน และที่สังคมกำลังจับตามองนอกเหนือจากว่า เขาจะถูกเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำกลับเข้าเรือนจำเมื่อไหร่แล้ว คนส่วนใหญ่เริ่มกลับมาตั้งคำถามว่า “คดีทุจริต” นั้น สามารถขอพระราชทานอภัยโทษ ได้ด้วยหรือ !!