อดีตโฆษก ปชป. ฟันธง "พิชิต ชื่นบาน” ขาดคุณสมบัติรัฐมนตรี ตาม รธน. มาตรา 160(4), (5) เหตุ ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และมีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
วันนี้ (29 ส.ค.) นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ Facebook Chao Meekhuad เรื่อง พิชิต ชื่นบาน ทนายถุงขนม 2 ล้าน ขาดคุณสมบัติรัฐมตรี มีเนื้อหาระบุว่า เห็นโผ ครม. “เศรษฐา 1” ที่ล่าสุด น่าจะนิ่งแล้ว มีชื่อ นายพิชิต ชื่นบาน โผล่เข้าวินในนาทีสุดท้าย เข้ามานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แล้วไม่สบายใจ
นายพิชิต ชื่นบาน เคยเป็นทนายความที่มีเรื่องอื้อฉาวจากกรณีหิ้วถุงขนมใส่เงินสด 2 ล้านบาท ไปมอบให้เจ้าหน้าที่ธุรการศาล ระหว่างการพิจารณาคดีที่ดินรัชดาฯ ของศาลฎีกาคดีแผนกอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จนถูกศาลฎีกามีคำสั่งจำคุกฐานละเมิดอำนาจศาลสถานหนัก 6 เดือน ไม่รอลงอาญา หลังจากนั้น สภาทนายความก็มีมติให้ลงโทษหนักสุดให้ลบชื่อนายพิชิต ออกจากทะเบียนผู้ประกอบวิชาชีพทนายความ ทำให้ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ในฐานะทนายความได้จนถึงปัจจุบันนี้แม้นายพิชิต จะพยายามยื่นขอจดทะเบียนเป็นทนายความใหม่อีกสามครั้ง หลังจากพ้นโทษไปแล้วห้าปีตามข้อบังคับ แต่ก็ถูกกรรมการสภาทนายความตีตกไม่อนุญาตจดทะเบียนทนายความให้ เพราะเห็นว่าความผิดที่ถูกลงโทษเป็นเรื่องร้ายแรง
นายเชาว์ ระบุว่า คดีที่นายพิชิตถูกกล่าวหาละเมิดอำนาจศาล มีคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4559/2551 ได้วินิจฉัยถึงการกระทำของ นายพิชิต ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ในฐานะตัวการร่วมกันกระทำผิด ว่า “ผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามมีเจตนาที่จูงใจให้หม่อมหลวงธิติพงศ์ และเจ้าหน้าที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองกระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่ซึ่งอาจเชื่อมโยงไปเป็นประโยชน์แก่จำเลย ในคดีหมายเลขดำที อม. 1/2550 “….”ผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามประกอบอาชีพทนายความและที่ปรึกษากฎหมายย่อมตระหนักดีว่าการกระทำของผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามจะทำให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันศาลยุติธรรมและจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อถือและความศรัทธาในการปฎิบัติหน้าที่ของบุคลากรในอำนาจตุลาการจึงเห็นสมควรลงโทษในสถานหนักเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างอีกต่อไปให้จำคุกผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามคนละ 6 เดือน”
“เป็นที่ประจักษ์ชัดจากคำวินิจฉัยศาลฎีกา ว่า นายพิชิต มีคุณสมบัติส่วนตัว ขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 160 ที่กำหนดให้รัฐมนตรีต้อง (4) มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ (5) ไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐาน ทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง จึงขอเตือนไปยังผู้ที่มีหน้าที่ได้กลั่นกรองให้รอบคอบ ก่อนเสนอขึ้นทูลเกล้าฯ “นายเชาว์ ระบุทิ้งท้าย