ตัวแทนภาคประชาชนยื่นหนังสือขอ ส.ว.สอบหาคุณสมบัติที่เหมาะสมของ "เศรษฐา ทวีสิน" กับเก้าอี้นายกฯ คนที่30 ด้าน "สมชาย"ยัน ส.ว.จะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด
เมื่อเวลา 11.05 น. วันที่ 21 ส.ค. ที่รัฐสภา ภาคประชาชน นำโดย นายมหัศจักร โสดี ตัวแทนภาคประชาชน ยื่นหนังสือพร้อมข้อมูลประกอบการพิจารณาถึงสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เพื่อขอให้สว. ตรวจสอบคุณสมบัติของบุคคลที่ถูกเสนอชื่อเพื่อเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ของประเทศไทย โดยมีนายสมชาย แสวงการ สว. พร้อมสว.บางส่วน เป็นตัวแทนรับหนังสือ
นายมหัศจักร กล่าวว่า ตำแหน่งนายกฯ เป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญอย่างมากต่อประเทศชาติ และประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ เพราะถือว่าเป็นประมุขของฝ่ายบริหาร จึงต้องเป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติ และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 เพื่อที่จะให้คนไทยทั้งประเทศได้นายกฯ ที่มีความเหมาะสมตามคุณสมบัติ และลักษณะตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ และเป็นต้นแบบอันดีงามของคนในชาติ เพื่อนำพาประเทศไทยไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองพัฒนาสถาพรสืบไป ทั้งยังป้องกันมิให้บุคคลผู้ที่มีคุณสมบัติไม่เหมาะสม ไม่สมควร ขาดคุณสมบัติ และมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ถูกเสนอชื่อเพื่อได้รับแต่งตั้งเป็นนายกฯ คนที่ 30 ของประเทศไทย ซึ่งจะนำความเสียหาย และความเสื่อมเสียให้เกิดกับประเทศชาติและประชาชน
นายมหัศจักร กล่าวต่อว่า ดังนั้น ภาคประชาชนส่วนต่างๆ จึงได้มายื่นหนังสือเพื่อร้องขอให้สว.ได้โปรดตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่ถูกเสนอชื่อเพื่อเป็นนายกฯ คนที่ 30 อย่างละเอียดถี่ถ้วนตามอำนาจ และหน้าที่ของวุฒิสภา ที่ได้บัญญัติเอาไว้ในบทเฉพาะกาลของกฎหมายรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ที่กำหนดให้วุฒิสภามีหน้าที่ และอำนาจสำคัญคือ การพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกฯ จากผู้ที่มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อพรรคการเมือง
นายสมชาย แสวงการ ในฐานะผู้รับเรื่อง กล่าวว่า วุฒิสภาใช้มาตรฐานเดียวกันในการตรวจคุณสมบัติ พฤติกรรม และจริยธรรมของผู้ที่ถูกเสนอชื่อ เรื่องความซื่อสัตย์สุจริตแบบเดียวกับองค์กรอิสระ ฉะนั้นหลักเกณฑ์นี้เชื่อว่า สว. ทุกท่านจะได้พิจารณาจากข้อมูลข่าวสาร คำแถลงจากเอกสาร หรือแม้กระทั่งหากผู้นั้นจะแถลงในสภาก็เป็นเรื่องที่ดี หากไม่มาก็เป็นผู้แทนที่จะต้องตอบ ส่วน สว. ก็ใช้ดุลยพินิจในการพิจารณาว่ามีคุณสมบัติครบถ้วน มีความประพฤติ พฤติกรรมที่ไว้วางใจให้เป็นผู้แทนนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่
“ผมเชื่อว่าสมาชิกวุฒิสภาทุกท่านปฏิบัติหน้าที่ตรงไปตรงมา ด้วยความซื่อสัตย์ ในฐานะที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ มาให้ดูแลประเทศชาติบ้านเมือง ปกป้องสถาบันหลักของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ทุกคนทำหน้าที่อย่างเต็มที่และมีความมุ่งมั่นในภารกิจ ไว้วางใจได้ ส่วนดุลยพินิจในการออกเสียงแต่ละคนต้องเป็นเอกสิทธิ์ ที่แต่ละคนจะตัดสินใจในวันที่ 22 นี้"นายสมชายกล่าว
ด้าน นายถวิล เปลี่ยนศรี สว. กล่าวว่า เมื่อเราได้รับมอบหมายภารกิจตามรัฐธรรมนูญก็จะทำหน้าที่ให้ดี นายกฯไม่ใช่หัวหน้าครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง ไม่ใช่ประธานบริษัท แต่เป็นนายกฯของทุกคน ต้องมีมาตรฐานจริยธรรมที่เหมาะสม ทางสว.ก็รับฟังข้อมูลต่างๆ และหารือกัน โดยมั่นใจว่าช่วงสุดท้ายจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด ใช้ดุลยพินิจไม่ตกในอาณัติใครทั้งสิ้น ส่วนเสียงประชาชนก็สำคัญ แต่การได้คนที่ดีที่สุดก็ต้องใช้ดุลยพินิจพิจารณากลั่นกรอง ขอให้มั่นใจสว. 250 คน จะใช้เหตุผลในการพิจารณาอย่างดีที่สุด
ขณะที่ นายประพันธ์ คูณมี สว. กล่าวว่า มีคำพูดกันมากว่ามีสว.ไว้ทำไม พวกเราต้องการให้ประเทศเดินหน้าภายใต้ระบอบประชาธิปไตย เราอยากให้มีนายกฯมาเป็นผู้นำ แก้ไขปัญหาประชาชน แต่รัฐธรรมนูญกำหนดให้เราตรวจสอบพิจารณาบุคคลผู้สมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกฯ นี่เป็นหน้าที่ของสว. เราอยากให้ประเทศเดินหน้า แต่หากได้นายกฯที่ขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้าม คดในข้องอในกระดูก ประพฤติผิดจริยธรรมร้ายแรง เราจะเอาแบบนั้นหรือไม่ ดังนั้น สว.จึงมีหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลบุคคลที่เห็นสมควร เรามีหน้าที่ป้องกันคนไม่ดีไม่ให้ปกครองบ้านเมือง ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง พรุ่งนี้ (22 ส.ค.) เราก็จะทำหน้าที่เต็มที่ จะไม่ให้ผิดหวังว่า
“ถ้าเขาไปเบียดที่สาธารณะมาโกงประชาชน จะเป็นนายกฯได้หรือไม่ เราจะไว้วางใจได้หรือไม่ ก็ขอให้รอฟังการอภิปราย ผมทำการบ้านเตรียมข้อมูลมาแล้ว” นายประพันธ์ กล่าว