xs
xsm
sm
md
lg

“ธีระชัย” เผยโจทย์เศรษฐกิจ 4 ข้อ รัฐบาลใหม่ต้องเร่งแก้ แนะเอา ปชช.เป็นศูนย์กลาง ไม่ใช่นายทุน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อดีต รมว.คลัง ประธานด้านวิชาการ พปชร.เผย รัฐบาลใหม่มีโจทย์เศรษฐกิจ 4 ข้อใหญ่ ต้องเร่งแก้ เรื่องเงินดิจิทัล ต้องป้องกันลิงก์ปลอมให้ได้ก่อน และเคลียร์แบงก์ชาติว่าไม่ผิดกฎหมาย นอกจากนี้ ต้องแก้เรื่องค่าครองชีพ หนี้ NPL ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก และต้องบริหารประเทศโดยเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง ไม่ใช่ให้นายทุนเป็นศูนย์กลาง

วันนี้ (25 ส.ค.) นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ประธานกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Thirachai Phuvanatnaranubala - - ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เกี่ยวกับการตอบคำถามในฐานะประธานกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์โทรทัศน์ CNBC ออกอากาศเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2566 มีรายละเอียดดังนี้

โจทย์เศรษฐกิจสำหรับรัฐบาลหน้า

ตอบคำถามในฐานะประธานกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ สัมภาษณ์โทรทัศน์ CNBC ออกอากาศเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2566

คำถาม
รัฐบาลหน้ามีโจทย์สำคัญด้านเศรษฐกิจอะไรบ้าง มีเรื่องที่ต้องระมัดระวังอย่างไร

คำตอบ
รัฐบาลหน้ามีโจทย์ด้านเศรษฐกิจมากมาย วันนี้ขอยกโจทย์สำคัญ 4 ข้อ

หนึ่ง เรื่องเงินดิจิทัล
1 ขณะนี้ประชาชนมีความเสี่ยง ถูกล่อหลอกให้ดาวน์โหลดลิงก์ที่ดูดเงินจากบัญชี ซึ่งก่อความเดือดร้อนอย่างกว้างขวาง ดังนั้น ถ้ารัฐบาลหน้ายังไม่มีมาตรการที่จะป้องกันลิงก์ปลอมได้อย่างมีประสิทธิผลจริง จะต้องยังไม่เริ่มดำเนินโครงการอย่างเด็ดขาด เพราะจะสร้างความเสียหายแก่ประชาชนได้อย่างกว้างขวาง

2 จะต้องหารือธนาคารแห่งประเทศไทยก่อนว่าไม่ผิดกฎหมายเงินตรา ไม่เป็นปัญหาต่อการดำเนินนโยบายการเงิน และรัฐบาลหน้าจะต้องทำให้ประชาชนเชื่อมั่นได้ก่อนว่า ไม่มีปัญหาด้านข้อมูลส่วนบุคคล ไม่มีปัญหาคอร์รัปชั่นในวิธีดำเนินการ

สอง เรื่องค่าครองชีพ
1 ในการลดราคาพลังงาน รัฐบาลหน้าจะต้องชี้แจงให้ประชาชนอย่างชัดเจนว่า ใช้ทางเลือกใดระหว่าง (ก) การปรับโครงสร้างเพื่อบังคับให้ในทุนยักษ์ใหญ่คืนกำไรให้แก่ประชาชน ซึ่งเป็นทางเลือกที่ควรดำเนินการ หรือ (ข) เป็นเพียงการแก้ปัญหาแบบฉาบฉวยและวิธีหลอกตาประชาชนโดยใช้เงินของประชาชนเอง ไม่ว่าใช้เงินทางตรงโดยการลดภาษี หรือใช้เงินทางอ้อมโดยการสร้างภาระหนี้ให้แก่ประชาชน

2 ในเรื่องค่าไฟฟ้า
กรณีที่มีพรรคการเมืองเปิดเผยแนวทางลดค่าไฟฟ้าโดยตั้งความหวังว่าราคาก๊าซธรรมชาติในตลาดสากลจะลดลงนั้น ผมขอเตือนว่า ตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป ราคาก๊าซธรรมชาติมีแต่จะเพิ่มขึ้นเพราะยุโรปเข้าฤดูหนาว

ดังนั้น ผมขอแนะนำให้แก้ปัญหาที่ต้นเหตุแทน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกำลังผลิตไฟฟ้าที่เกินความต้องการไปประมาณ 50% และรัฐต้องเสียค่าความพร้อมจ่ายให้แก่โรงไฟฟ้าทั้งที่โรงไฟฟ้าไม่ต้องเปิดเดินเครื่องและไม่มีต้นทุนในการผลิตไฟแต่อย่างใด

3 ในเรื่องราคาน้ำมัน
กรณีที่มีพรรคการเมืองแสดงความเห็นว่า การจะปรับโครงสร้างกำไรนั้นมีอุปสรรคเพราะจะสวนทางกับหลักการค้าเสรีนั้น ผมขอแนะนำว่าอย่าอ้างหลักการค้าเสรี เพราะการค้าน้ำมันในประเทศไทยในบางระดับไม่ได้มีความเสรีอย่างแท้จริง และการอ้างอิงราคาโรงกลั่นสิงคโปร์จะสร้างปัญหาในอนาคต เพราะอัตราค่าการกลั่นน้ำมันในสิงคโปร์ในอนาคตจะมีการบวกกำไรสูงขึ้นตามสภาวะตลาดโลก ซึ่งจะเปิดช่องให้โรงกลั่นในประเทศไทยบวกกำไรเพิ่มขึ้น ทั้งที่ต้นทุนยังคงเดิม อันจะยิ่งเพิ่มปัญหาค่าครองชีพ

ดังนั้น ผมขอแนะนำให้เลิกการอ้างอิงราคาที่สิงคโปร์ และรัฐบาลหน้าควรควบคุมกำหนดอัตราค่าการกลั่นสูงสุดแทน จนกว่าเมื่อไหร่การกลั่นน้ำมันในประเทศไทยจะมีการแข่งขันเสรีอย่างแท้จริง จึงค่อยยกเลิก

4 ในเรื่องราคาก๊าซหุงต้ม
ขณะนี้กองทุนน้ำมันมีเลือดไหลออกทุกวันเพราะต้องเอาเงินไปจุนเจือนโยบายผิดพลาดของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ที่ไปยกเลิกเพดานราคาต่อครัวเรือนไทยที่รัฐบาลก่อนหน้ากำหนดไว้ เปลี่ยนไปใช้อ้างอิงราคาตลาดโลกที่ซาอุดิอาระเบีย

ผมขอแนะนำให้รื้อแก้ไขกติกานี้โดยด่วน มิฉะนั้นเลือดก็จะไหลออกจากกองทุนน้ำมันทุกวัน อันมีผลที่อาจไม่ตั้งใจเป็นการหลอกตาประชาชนโดยเพิ่มหนี้กองทุนน้ำมันมาเพื่อกดราคาก๊าซหุงต้ม

5 ในเรื่องลำดับสิทธิการใช้ก๊าซจากอ่าวไทย
การแก้ไขกฎกติกาในรัฐบาลของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้เปิดช่องให้บริษัทปิโตรเคมีได้ใช้ก๊าซที่ผลิตจากอ่าวไทยก่อนหน้าครัวเรือน ทั้งที่เป็นทรัพยากรที่ประชาชนคนไทยเป็นเจ้าของ มีผลทำให้ราคาก๊าซหุงต้มต่อครัวเรือนแพงขึ้น

ผมขอแนะนำให้แก้ไขโดยจัดตั้งองค์กรการแห่งชาติเป็นรัฐวิสาหกิจที่รัฐบาลเป็นเจ้าของ 100% ให้เป็นผู้มีสิทธิ์ในการซื้อก๊าซที่ผลิตจากอ่าวไทยแต่ผู้เดียว และใช้องค์กรนี้ในการจัดลำดับสิทธิ์การใช้ก๊าซ ซึ่งจะทำให้ราคาก๊าซหุงต้มของประชาชนลดลง

6 ในเรื่องประหยัดค่าไฟจากโซล่า
ช่วงที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ รักษาการนายกรัฐมนตรีนั้น ได้เคยสั่งการให้เปิดเสรีโซล่ารูฟท็อปโดยใช้ระบบหักกลบลบหน่วย net metering ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าไฟให้แก่ประชาชนอย่างมาก

ผมขอแนะนำให้นำนโยบายนี้มาปฏิบัติอย่างจริงจัง รวมทั้งจัดให้ธนาคารของรัฐมีวงเงินให้กู้แก่คนในเมืองในการติดตั้งโซล่ารูฟท็อป และในการเอื้ออำนวยให้มีการลงทุน 1 อบต. 1 โซล่าฟาร์ม เพื่อให้ประโยชน์ในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนลงไปในกระเป๋าประชาชนโดยตรง แทนที่จะลงไปในกระเป๋าของในทุนยักษ์ใหญ่ดังที่เป็นนโยบายของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์

สาม เรื่องหนี้ NPL และหนี้นอกระบบ
1 รัฐบาลหน้าควรจะกระตุ้นให้ธนาคารลดหนี้ hair cut แก่ลูกหนี้ที่มีปัญหา โดยไม่ใช้งบประมาณของรัฐบาล แต่ให้ใช้จากกำไรสะสมของธนาคาร

2 ควรทำให้ลูกหนี้รายย่อยสามารถกู้เงินจากธนาคารเพื่อลงทุนโครงการใหม่ หรือเพื่อแก้ปัญหาธุรกิจ ที่มิใช่เพื่อนำไปชำระหนี้เดิม โดยให้บรรษัทสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม บสย. ค้ำประกันหนี้ในสัดส่วนที่สูงขึ้น

สี่ เรื่องพายุสมบูรณ์แบบ
สภาวะเศรษฐกิจโลกปั่นป่วนกำลังจะก่อตัวขึ้นเป็นพายุสมบูรณ์แบบ จะมีผลต่อตลาดเงินตลาดทุนทั่วโลก ประกอบกับสภาวะอากาศเอลนีโน่จะกระทบผลผลิตเกษตร รวมทั้งอุปสรรคการส่งออกอาหารโดยยูเครนจะทำให้เงินเฟ้ออาหารสูงขึ้น รัฐบาลหน้าจะต้องเตรียมให้ประชาชนรับมือ

ที่ผ่านมา ตลอด 9 ปี ผู้บริหารด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ส่วนใหญ่นั่งนิ่งเงียบ ไม่ได้มีการสื่อสารให้ประชาชนทราบถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้น

ผมขอแนะนำให้รัฐบาลหน้าควรจะแก้ไข โดยมีการสื่อสารกับประชาชนเป็นประจำ

นอกจากนี้ ระบบการเมืองไทยในขณะนี้มีปัญหา มีข้อวิจารณ์ว่านายทุนยักษ์ใหญ่สามารถจะซื้อประเทศได้โดยเข้าไปควบคุมพรรคการเมือง

ดังนั้น ผมขอแนะนำว่า รัฐบาลหน้าจะต้องทำให้ภาพลักษณ์ปรากฏชัดเจนว่า รัฐบาลหน้าบริหารประเทศโดยเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง มิใช่เอานายทุนเป็นศูนย์กลาง

ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล
ประธานกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่ 25 สิงหาคม 2566


กำลังโหลดความคิดเห็น