ไม่ตรงเป้า! คนไทยโหลดแอป ThaiD แค่หลักล้าน แม้ “ปค.มท.” เปิดระบบรองรับไว้ถึง 60 ล้านไอดี ร้อน! “ป.มท.” สั่ง ผู้ว่าฯ-นายอำเภอ ทั่วประเทศ ระดม สมภารวัด-ผู้บริหารท้องถิ่น-ผอ.ทุกโรงเรียน-สสจ.-อสม. ตั้งทีมงานเชียร์ ชาวบ้านลงทะเบียนเข้าใช้งาน “แอปพลิเคชัน ThaiD” ขีดเส้นรอบที่ 3 ให้ครบ 100% ภายในสิ้นเดือน มิ.ย.นี้ หลังเคยขีดเส้นให้เสร็จ เม.ย.ปีนี้
วันนี้ (8 มิ.ย.) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ปลัดกระทรวงมหาดไทย (ป.มท.) มีข้อสั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ทั่วประเทศ
ให้เร่งขับเคลื่อนเป้าหมายให้ประชาชนทั้งจังหวัดลงทะเบียนเข้าใช้งาน “แอปพลิเคชัน ThaiD” ให้ครบร้อยละ 100 ภายใน วันที่ 30 มิถุนายน 2566 ซึ่งแอปดังกล่าวอยู่ในกำกับของกรมการปกครอง
ภายหลังได้รับรายงาน (22 พ.ค.) ว่า มีผู้ลงทะเบียนในระบบ 1,120,975 คน ในส่วนนี้ เป็นการลงทะเบียนผ่านแอป 1,056,323 คน
ปค. ระบุว่า จะเป็นประโยชน์กับประชาชนในการลดการใช้จ่ายด้านสําเนาเอกสาร ซึ่ง มท.มีเป้าหมายที่จะ “เพิ่มเติม” เอกสารราชการอิเล็กทรอนิกส์ของหน่วยงานต่างๆ ลงในแอป ThaiD ให้มากขึ้นในอนาคต
“ขอให้ผู้ว่าฯ ขอความร่วมมือ ผู้อํานวยการโรงเรียนทุกแห่งประชาสัมพันธ์ให้ “นักเรียน” ลงทะเบียนในแอป”
ประสานไปยัง “นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด” มอบหมาย อาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมู่บ้าน (อสม.) รับผิดชอบประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในครัวเรือนที่รับผิดชอบลงทะเบียนเข้าใช้งาน
ตลอดจนแจ้งให้ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ประชาสัมพันธ์พนักงานและลูกจ้าง ลงทะเบียนเข้าใช้งานแอปพลิเคชันดังกล่าว
ล่าสุด พบว่า หลายจังหวัด เริ่มระดมตั้งทีมงาน นายอำเภอ ปลัดอำเภอ อสม. เข้าไปเชิญชวนประชาชนร่วมโหลด เช่น ในโรงเรียน วัด โรงพยาบาล และที่ประชุมหมู่บ้าน เพื่อรับทราบประโยชน์ของแอปดังกล่าว
สำหรับ แอปนี้ เมื่อต้น ม.ค. 66 กรมการปกครองได้ดําเนิน “โครงการพัฒนาระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล (DOPA - Digital ID)” เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้บริการงานทะเบียนด้วยตนเองโดยไม่ต้องเดินทางไปยืนยันตัวตนที่สํานักทะเบียน
ขณะที่ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มท. ขณะนั้น ขอให้ ปค. พัฒนาระบบให้แล้วเสร็จภายในต้นเดือนมีนาคม 2566
ทั้งนี้ DOPA - Digital ID ได้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ในช่วง ก.พ.2566 ปค. ได้จัดทําระบบ ผ่านแอปพลิเคชัน “D.DOPA” พบว่า มีผู้ลงทะเบียน 187,613 คน โดยตั้งเป้าจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พิจารณากําหนด “ชื่อเรียกระบบ” ที่ชัดเจน
ขณะที่ เดือน มี.ค. ปค.อ้างว่า DOPA - Digital ID มีผู้เข้ายืนยันตัวตนแล้ว ประมาณ 270,000 คน มีการใช้บริการแล้ว ประมาณ 13,000 คน มีการรับรองประวัติบุคคลแล้ว ประมาณ 8,300 คน และมีการรับรองใบแจ้งเกิดแล้ว ประมาณ 1,000 คน
โดย มท.1 สั่งการให้กำหนด “ชื่อแอปพลิเคชันให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น” โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ประชาสัมพันธ์ให้ทั่วถึง
ขณะที่ ปค. ได้เสนอชื่อใหม่ ต่อ ครม.เมื่อ 14 มี.ค. ชื่อ Thai Digital Identity (ThaID) หรือ ไทยดี ที่สามารถรองรับผู้ใช้กว่า 60 ล้านคน สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ Google Play และ iOS
จากข้อมูล เดือน มี.ค. ที่ ปค. ระบุว่า มีผู้ลงทะบียนเพียง 270,000 คน ได้มีข้อสั่งการขอให้ผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สั่งการให้ “สํานักทะเบียนอําเภอทุกแห่ง” ประชาสัมพันธ์และแนะนําให้ประชาชนที่เข้ารับบริการ
รวมถึงให้จัดตั้ง “ทีมงานเป็นชุดเคลื่อนที่” เพื่อลงพื้นที่ประสานขอความร่วมมือภาคส่วนต่างๆ เช่น ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัย ภาคสื่อสารมวลชนเป็นต้น ในการประชาสัมพันธ์แอปนี้
ตลอดจนนําเรื่องดังกล่าวเข้าวาระการประชุมคณะกรมการจังหวัด กรมการอําเภอ หัวหน้าส่วนราชการของกระทรวงมหาดไทย การลงพื้นที่พบปะกํานันผู้ใหญ่บ้าน เยี่ยมเยียนประชาชน
ประชาสัมพันธ์ผ่านสถานีวิทยุสถานีโทรทัศน์ หอกระจายข่าว และสื่อทุกช่องทาง ตลอดจนขับเคลื่อนให้พระภิกษุ นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนในพื้นที่ทุกคนเป็นภาคีในการขยายผลการใช้แอปนี้อย่างทั่วถึง
โดยครั้งนั้น ตั้งเป้าครบทุกครัวเรือนภายในเดือนเมษายน 2566 แต่ล่าสุด สั่งขยายไปให้ถึง 30 มิถุนายน 2566
โครงการนี้ ปค. และ มท. ตั้งเป้าให้ประชาชนสามารถยืนยันตัวตนทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ลงทะเบียนด้วยตนเอง
ไม่ต้องเดินทางไปลงทะเบียน ณ สำนักทะเบียนแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาระบบเปรียบเทียบภาพใบหน้า (Face Verification Service) เพื่อให้หน่วยงานผู้ให้บริการด้านพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลใช้บริการในหลายๆ ส่วน
โดยการส่งเลขประจำตัวประชาชนพร้อมรูปภาพใบหน้าตามรูปแบบที่กรมการปกครองกำหนด เปรียบเทียบกับฐานข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลของกรมการปกครอง และตอบกลับผลการเปรียบเทียบเป็นร้อยละของคะแนน เป็นต้น
