โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย ยอดการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปในช่วง ม.ค.- เม.ย. 2566 มูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 18.34% ยอดการผลิตรวมขยายตัวเพิ่มขึ้น 4.61%
วันนี้ (1 มิ.ย.) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่ได้รับทราบตัวเลขจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ถึงแนวโน้มการผลิตและการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป ช่วง 4 เดือนแรก ตั้งแต่ มกราคม-เมษายน 2566 ยอดการผลิตขยายตัวเพิ่มขึ้น 4.61% และยอดการส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้น 18.34% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และมียอดจดทะเบียนรถยนต์ประเภทอื่นเพิ่มมากขึ้น
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตัวเลขจากกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ระบุยอดการผลิตรถยนต์สำเร็จรูป เดือนเมษายน 2566 อยู่ที่ 117,636 คัน โดยจำนวนรถยนต์สำเร็จรูปที่ผลิตได้ในช่วงตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายน 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 625,423 คัน เพิ่มขึ้น 4.61% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยยอดขายในประเทศเดือนเมษายน 2566 อยู่ที่ 59,530 คัน และ รวม 4 เดือนแรกมียอดขายในประเทศรวม 276,603 คัน ในส่วนของการส่งออกรถยนต์
ในส่วนของยอดส่งออกรถยนต์ ในเดือนเมษายนมีการส่งออก 79,940 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 43.53% มูลค่าการส่งออกที่ 50,164.31 ล้านบาท และใน 4 เดือนแรกส่งออกรวม 353,632 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ในช่วงเดียวกัน 18.34% รวมมูลค่าการส่งออก 293,549 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.38%
เช่นเดียวกับรถยนต์นั่งไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) ที่มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น โดยมีการจดทะเบียนในเดือนเมษายนอยู่ที่ 3,820 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 882% โดยมียอดจดทะเบียนสะสมช่วงมกราคม-เมษายน 2566 อยู่ที่ 31,873 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปีก่อน 467% เนื่องจากมาตรการสนับสนุนของภาครัฐที่ทำให้ราคารถยนต์ไฟฟ้าในบางรุ่นมีราคาต่ำกว่ารถเครื่องยนต์สันดาปภายใน
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าประเภทไฮบริด (HEV) ในเดือนเมษายน 2566 มียอดการจดทะเบียนใหม่ 6,198 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 31.62 % ส่วนยอดจดทะเบียนใหม่ช่วงมกราคม-เมษายน 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 30,634 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 40.97% โดยมียอดยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV ทั้งหมด จำนวนทั้งสิ้น 290,035 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 32.99%
ส่วนรถยนต์ไฟฟ้าประเภทปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) เดือนเมษายน 2566 จดทะเบียนใหม่ 784 คัน ยอดจดทะเบียนใหม่ช่วงมกราคม-เมษายน 2566 ทั้งสิ้น 4,172 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 9.62 % ส่งผลให้การจดทะเบียนสะสมยานยนต์ไฟฟ้าประเภท PHEV ทั้งหมดมีจำนวนทั้งสิ้น 46,532 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 33.18%
“นายกรัฐมนตรียินดีแนวโน้มการผลิตและการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป รวมถึงการจดทะเบียนรถยนต์ประเภทอื่น ที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และกำลังซื้อที่เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับการดำเนินนโยบายของรัฐบาลที่สนับสนุนภาคอุตสาหกรรมรถยนต์อย่างต่อเนื่อง โดยทำให้ตลาดการซื้อขายรถยนต์เติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด” นายอนุชา กล่าว