“สมชาย” ถามดังๆ “คิดได้ไง” แก้ ม.112 โทษเบาหวิว “คิดทำอะไรต่อสถาบันฯ” “ถวิล” ยึด4ข้อโหวตนายกฯ อย่ามัดมือมัดเท้า ยันทำหน้าที่เพื่อคนทั้งประเทศ “นิพิฏฐ์” แนะ “ติ่งส้ม” หวังแก้ ม.112 หาน้ำใบบัวบกมาซดแก้ช้ำในได้แล้ว
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้(19 พ.ค.66)นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กพร้อมร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลอาญา (ฉบับที่...)พ.ศ... ระบุว่า
“ก่อนมาบังคับให้ช่วยโหวตเสียงเป็นนายกรัฐมนตรี
ลองอ่านร่างกฎหมายที่เขาเสนอเลิกมาตรา112 ก่อน ครับ
จะได้เข้าใจตรงกันว่า
“พวกเขากำลังคิดทำอะไรต่อสถาบันฯ”
ว่างๆจะหาเวลาสรุปย่อๆข้อกฎหมายรายมาตราให้ฟังอีกที
แต่เอาเป็นว่า ร่างกฎหมายนี้ คือการทำให้คดีความผิดหมิ่นประมาทอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ พระราชินี องค์รัชทายาท และผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระราชอาคัณตุกะต่างประเทศ หรือการหมิ่นเจ้าพนักงาน ผู้พิพากษา ฯลฯ
เหลือโทษเบาหวิว บางมาตราไม่ต้องรับโทษ หรือ ยอมความได้ หรือ แค่เหลือโทษปรับเท่านั้น
#คิดได้ไง”
ขณะเดียวกัน นายถวิล เปลี่ยนศรี สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า
“หลังทราบผลการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา พรรคการเมืองที่มีเสียงมากที่สุดในสภา ก็มีการเคลื่อนไหวรวบรวมเสียงในรัฐสภา ให้เกินกึ่งหนึ่งของเสียงรวมกันในรัฐสภา คือ 376 เสียง และมีเสียงเรียกร้องความชัดเจน จากเสียงของสมาชิกวุฒิสภาว่า จะโหวตสนับสนุนหรือไม่
มีผู้สื่อข่าวที่สนใจประเด็นนี้ ได้สอบถามมาที่ผมหลายท่าน ซึ่งส่วนใหญ่ผมได้ปฏิเสธไป เพราะเห็นว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะพูด หรือตัดสินใจเรื่องนี้ แต่กระนั้นก็ยังมีเสียงสอบถามท่าที ความเห็นผมเข้ามาเรื่อยๆ ผมจึงตัดสินใจแสดงท่าทีเรื่องนี้ ให้ชัดเจน เสียที่นี่ ดังต่อไปนี้ ครับ
เวลาผมจะไปลงคะแนนเสียง หรือลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี นั้น
ประการแรก ผมทำตามที่กฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนด ถ้ารัฐธรรมนูญไม่กำหนด ผมก็ไม่ไปทำภารกิจนี้
ประการที่สอง จำเป็นหรือไม่ที่ผมต้องโหวตให้เป็นไปตามเสียงของส.ส.ส่วนใหญ่ คำตอบก็คือ ไม่จำเป็น เพราะ ถ้าต้องโหวตตาม ก็ไม่ต้องกำหนดในรัฐธรรมนูญ ให้ผม ส.ว.ไปโหวตด้วย
แต่นี่ ไม่ได้หมายความว่า ผมจะโหวตสวน หรือไม่เหมือน ส.ส. ส่วนใหญ่นะ แต่หมายความว่า อาจเหมือนหรือไม่เหมือนก็ได้ เพียงแต่อย่ามัดมือมัดเท้าผม ขอให้เป็นการตัดสินใจของผมได้มั้ย
ประการที่สาม ภารกิจนี้ ผมถือเป็นหน้าที่ ไม่ใช่สิทธิ์ สิทธิ์ใช้ยังไงก็ได้ เพราะเป็นสิทธิ์ของเรา กระทบเราเป็นหลัก แต่หน้าที่นี่ต้องทำให้ดีที่สุด เพราะเป็นหน้าที่ต่อคนอื่น ทำให้คนอื่น ซึ่งในที่นี้คือ ประเทศ และ ประชาชนทั้งประเทศ เพราะเขาต้องเป็นนายกรัฐมนตรีของคนทั้งประเทศ ไม่ใช่เฉพาะประชาชนที่เลือกเขา ดังนั้นต้องทำให้ดีให้เหมาะสมถูกต้องที่สุด
ประการที่สี่ เวลาไปโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี นั้น ผมหมายความอย่างนั้นจริงๆ คือไม่ได้ไปดูว่าเขาป๊อบปูล่าแค่ไหน ได้เสียงมากน้อยแค่ไหน แต่ไปดูว่า เขาจะเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีได้หรือไม่ มีภาวะผู้นำ มีความคิด วิสัยทัศน์ และนโยบาย และแนวทางในการบริหารอย่างไร จะนำพาชาติบ้านเมืองไปได้ หรือไม่
ถ้ามีคู่แข่ง ผมก็เปรียบเทียบกับคู่แข่ง แล้วก็ตัดสินใจไปตามหลักการนั้น
ก็ขออนุญาต ให้ความเห็นที่ผมจะใช้ในการตัดสินใจ เมื่อเวลาถึงครับ”
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ระบุว่า
“*ระวัง น้ำใบบัวบก ขาดตลาด
-สิ่งแรก ที่ทำให้คนเลือก "พรรคก้าวไกล" ผิดหวัง คือ การแก้ หรือ ยกเลิก ม.112 ผมฟังการแถลงข่าวของพรรคที่จับมือกันเป็นรัฐบาล ปรากฏว่า เรื่อง ม.112 ไม่ได้เป็นนโยบายของรัฐบาลใหม่ แต่ให้เป็นนโยบายของพรรคแต่ละพรรค เท่ากับว่า คนที่เลือกพรรคก้าวไกล เพราะหวังจะให้แก้ หรือ ยกเลิก ม.112 หาน้ำใบบัวบก มาซดแก้ช้ำในได้แล้ว ตอนเย็นๆ ใครที่ไปชูป้ายหน้าศาลฎีกา ให้ยกเลิก ม.112 คงต้องเปลี่ยนไปชูป้ายหน้าพรรคก้าวไกลแทน
#ผมเชียร์ให้พรรคก้าวไกล เป็นรัฐบาล
#พูดง่าย ทำยาก”