xs
xsm
sm
md
lg

"สมชาย" อุบเลือกนายกฯรอรับรองผล เชื่อก้าวไกลรวมไม่ถึง 309 เสียง แนะชงศาลวินิจฉัยหุ้น "พิธา"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"ส.ว.สมชาย" เผยยังบอกไม่ได้เลือกใครเป็นนายกฯ รอ กกต.รับรองผลก่อน เชื่อ ‘ก้าวไกล’ อาจรวมเสียงไม่ถึง 309 เพราะบางพรรคยังลังเล ขณะที่ กกต. ควรส่ง ให้ศาลฯ วินิจฉัยปม ‘พิธา’ ถือหุ้นสื่อ


วันที่ (16 พ.ค.66) นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวถึงผลการเลือกตั้งว่า เป็นเรื่องดีที่ประชาชนออกมาใช้สิทธิเป็นจำนวนมาก คาดว่าเดือนกรกฎาคม จะสามารถเปิดประชุมรัฐสภาได้ จากนั้นภายใน 15 วันก็จะเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอน ประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี

นายสมชายกล่าวว่า จนถึงตอนนี้ ยังตอบไม่ได้ว่า สว.จะเลือกใคร เบื้องต้นทราบว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เสนอตัวเป็น พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และนายกรัฐมนตรี แต่ก็ยังไม่มีอะไรการันตีว่าจะมีเพียงชื่อเดียว พรรคอื่นอาจจะเสนอชื่อมาอีกก็ได้ ยังมีเวลา และพรรคการเมืองอาจมีการเปลี่ยนแปลงแนวคิด ดังนั้นจึงยังบอกไม่ได้ว่าจะเลือกใคร ต้องรอให้กกต.รับรองผลการเลือกตั้งก่อน เร็วเกินไปที่จะพูดตอนนี้

แต่ส่วนตัวมีกติกาชัดเจนว่า คนที่มาเป็นนายกรัฐมนตรีจะต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต มีวิสัยทัศน์นำพาประเทศไปสู่ความเจริญ ไม่สร้างความขัดแย้ง ไม่สร้างศัตรู หรือเป็นคู่กรณีกับประเทศใด สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนทั้งประเทศ และไม่ก่อให้เกิดสงครามกลางเมืองเหมือนต่างชาติ ผู้นำประเทศต้องมีความรอบรู้ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ การบริหารราชการแผ่นดิน รู้ที่จะแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ขณะเดียวกันยังมีปัจจัยแวดล้อมที่ต้องพิจารณาด้วย เช่น รัฐบาลใหม่จะสามารถพาประเทศ ไปสู่การเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วได้หรือไม่

นายสมชาย กล่าวว่า ตนเชื่อว่า สว. จะมีวุฒิภาวะ ในการพิจารณาจะเลือกใคร ส่วนตัวไม่ขอก้าวล่วง ส่วนที่หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า สว. จะขวางไม่ให้พรรคก้าวไกล จัดตั้งรัฐบาลนั้น จะกลายเป็นสร้างแรงกดดัน ให้กับ สว. เลือกนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียว ซึ่งไม่ควรทำ หากพรรคเพื่อไทย หรือพรรคอื่นๆ เสนอแคนดิเดต เข้ามา และมีเสียงสนับสนุนมากกว่าพรรคก้าวไกล สว. ก็ต้องดำเนินการไปตามเสียงส่วนใหญ่

“ส่วนตัวเชื่อว่า พรรคก้าวไกล อาจรวมเสียงได้ไม่ถึง 309 เสียง เพราะยังมีบางพรรคที่มีปัญหา ต้องพิจารณาอีกหลายอย่างประกอบ อย่างเช่น การเสนอแก้ไขมาตรา 112 ที่หลายคนเป็นกังวล ดังนั้นต้องระบุให้ชัดเจนว่าจะแก้ไขหรือยกเลิก” นายสมชายกล่าว

นอกจากนี้ นายพิธา ต้องพิสูจน์เรื่องการถือครองหุ้นในบริษัทสื่อมวลชน ที่ยังประกอบกิจการอยู่ด้วย ซึ่ง กกต.จะต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เพื่อให้การขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีของนายพิธาเป็นที่ยอมรับของสังคม เช่นเดียวกับหลายๆ คนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ต้องตรวจสอบการถือครองหุ้นของตัวเองให้ชัดเจนด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น